โชว์รายได้ 1,030 ล.! เปิดตัวบ.'สีกาอี๊ด' พันเครือข่ายธุรกิจธรรมกาย-ธัมมชโย
เปิดตัว 'บ.โซวิค' 1 ใน 16 บริษัท ถูกกล่าวหาดำเนินกิจการร่วมผลประโยชน์วัดธรรมกาย ในรายงานผลสอบกมธ.ฯ เผยชื่อ 'สีกาอี๊ด- จิรวัฒน์ ศรีสัตนา' เจ้าของ ทำธุรกิจเครื่องมือแพทย์ โชว์รายได้ล่าสุด 1,030 ล้าน
ในบรรดารายชื่อบริษัท 16 แห่ง ที่มีผู้ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อ ได้ส่งข้อมูลมาให้สำนักข่าวอิศรา ช่วยตรวจสอบการดำเนินธุรกิจ พร้อมกล่าวอ้างว่า เป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการร่วมผลประโยชน์กับวัดธรรมกาย ประกอบไปด้วย 1.บริษัท ซันดาแลนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด 2.บริษัท เอพริล จำกัด 3. บริษัท โซวิค จำกัด 4. บริษัท ซันกรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 5. บริษัท ไวแซค จำกัด 6. บริษัท ดูแวค จำกัด 7. บริษัท บัวบานการเกษตร จำกัด 8. บริษัท ดีเวิลด์ จำกัด 9.บริษัท หมอกมุงเมือง จำกัด 10. บริษัท ไดเทรด 1992 จำกัด 11.บริษัท สวนสนบ้านบ่อหลวง จำกัด 12.บริษัท โซโซ่ จำกัด 13. บริษัท แมนแอนด์วูแมน จำกัด 14. บริษัท โซอ๊อก จำกัด 15. บริษัท พรอสเตติคแอนด์ออโธติคเซ็นเตอร์ จำกัด 16. บริษัท เอส.วี.เจ.ฟาร์มา จำกัด
(อ่านประกอบ : ร้อง'อิศรา'สอบ16บริษัท ร่วมผลประโยชน์วัดธรรมกาย-น้องสาว'ธัมมชโย' ถือหุ้นด้วย)
บริษัท โซวิค จำกัด ปัจจุบันยังคงประกอบธุรกิจอยู่ และมีรายได้ผลประกอบธุรกิจเป็นจำนวนเงินนับพันล้านบาท
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า บริษัท โซวิค จำกัด จดทะเบียน เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2529 ทุนปัจจุบัน 21,000,000 บาท
ตั้งอยู่เลขที่ 448 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจขายเครื่องมือแพทย์และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ซ่อมบำรุงเครื่องมือแพทย์
ปรากฎชื่อ นาง จิรวัฒน์ ศรีสัตนา เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นาย สุนทร ศรีสัตนา ร่วมเป็นกรรมการ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 เมษายน 2558 นาง จิรวัฒน์ ศรีสัตนา ถือหุ้นใหญ่สุด 209,895 หุ้น มูลค่า 20,989,500 บาท นาย สุนทร ศรีสัตนา ถืออยู่ 100 หุ้น มูลค่า 10,000 บาท นางสาว จิราภา บุณยบุตร ถืออยู่ 5 หุ้น มูลค่า 500 บาท
ล่าสุดนำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ณ 31 ธันวาคม 2557 แจ้งว่า มีรายได้จากการขายสินค้า 1,025,198,471.71 บาท รับคืนและส่วนลดจ่าย -31,331,606.82 บาท รายได้จากการบริการ 33,217,072.23 บาท รายได้อื่น 3,594,026.39 บาท
รวมรายได้ 1,030,677,963.51 บาท
ส่วนรายจ่าย มีต้นทุนขายและบริการ 747,341,383.65 บาท ค่าใช้จ่ายในการขาย 92,631,455.92 บาท ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 145,845,496.92 บาท รวมรายจ่าย 985,818,336.49 บาท
กำไรสุทธิ 34,594,845.69 บาท
จากการตรวจสอบยังพบว่า นาง จิรวัฒน์ ศรีสัตนา ยังปรากฎชื่อเป็นเจ้าของธุรกิจอีก 14 แห่ง ได้แก่ 1. บริษัท ซันกรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ทำธุรกิจขายที่ดินสวนเกษตร 2. บริษัท ซี.เอส.เอ็ม. แลนด์ จำกัด ทำธุรกิจขายที่ดินสวนเกษตร 3. บริษัท ดูแวค จำกัด ทำธุรกิจขายที่ดินสวนเกษตร 4. บริษัท นำสินทรัพย์ จำกัด ทำธุรกิจให้เช่า ขาย ซื้อและดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ 5. บริษัท บัวบานการเกษตร จำกัด ทำธุรกิจขายที่ดินสวนเกษตร 6. บริษัท เร็ซท แอ็นด ริแลคซ จำกัด ทำธุรกิจขายหมอนเพื่อสุขภาพ (เลิกกิจการ) 7. บริษัท ไวแซค จำกัด ทำธุรกิจขายที่ดินสวนเกษตร
8. บริษัท เอพริล จำกัด ทำธุรกิจให้เช่าอุปกรณ์พักแรมนักท่องเที่ยว 9. บริษัท เอส.ซี.เอ็ม. แลนด์ จำกัด ทำธุรกิจขายที่ดินสวนเกษตร (เลิกกิจการ) 10. บริษัท ซันดาแลนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ทำธุรกิจค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปส่งออกไปต่างประเทศ (ร้าง) 11. บริษัท ดี เวิลด์ จำกัด ทำธุรกิจขายที่ดินสวนเกษตร
12. บริษัท เดอะแซนด์ส ระยอง จำกัด ทำธุรกิจประกอบกิจการโรงแรม อาคารชุด คอนโดมิเนียม บ้านเช่า ห้องเช่า หอพัก 13. บริษัท ไดเทรด 1992 จำกัด ทำธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ (เลิกกิจการ) 14. บริษัท สวนสนบ้านบ่อหลวง จำกัด ทำธุรกิจขายที่ดินสวนเกษตร
ผลประกอบการธุรกิจบริษัทเหล่านี้ ส่วนใหญ่ "ขาดทุน"
ทั้งนี้ ในรายงานผลการศึกษา เรื่อง "วัดพระธรรมกาย" ของคณะกรรมาธิการ การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร มี นายเด่น โต๊ะมีนา เป็นประธานคณะกรรมาธิการฯ ช่วงปี 2541 ระบุว่า นาง จิรวัฒน์ ศรีสัตนา ถูกเรียกว่า "สีกาอี๊ด" ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอุบาสิกา ที่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมาทำธุรกิจ ที่มีความเชื่อมโยงกับบุคคลสำคัญของวัดธรรมกาย ซึ่ง มี 3 รูปแบบ คือ
1. กลุ่มบริษัทที่ก่อตั้ง โดยลูกศิษย์หรือเรียกว่า อุบาสก ซึ่งสนิทสนมกับเจ้าอาวาส พระธัมมชโย เป็นผู้ก่อตั้งหรือถือหุ้น จากนั้นอุบาสกเหล่านี้ก็พากันบวชเป็นพระวัดพระธรรมกายทั้งหมด และกลายเป็นพระแกนนำของวัด และหลังจากบวชแล้ว ก็ไม่มีการโอนการถือหุ้นไปเป็นชื่อของบุคคลอื่นหรือของมูลนิธิแต่อย่างใด และมีบางบริษัทถือหุ้น โดยอุบาสกผู้ใกล้ชิดที่ไม่ได้บวชเป็นพระ
2. กลุ่มบริษัท ที่อุบาสิกาเป็นผู้ก่อตั้งโดยมี นาง จิรวัฒน์ ศรีสัตนา นางสงบ ปัญญาตรง เป็นแกนนำ
และ 3. กลุ่มบริษัท ที่ญาติของเจ้าอาวาส คือ นางเณริศา อังศุสิงห์ (สกุลเดิม สุทธิผล) น้องสาว และนายณรงค์รัชต์ สุทธิผล น้องชาย ต่างมารดาของเจ้าอาวาส เข้ามามีส่วนก่อตั้งหรือถือหุ้น
อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสอบกรณีนี้ วัดพระธรรมกาย ได้ส่งเอกสารชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ กรณีการทำธุรกิจก่อตั้งบริษัทการค้า ว่า "เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พระภิกษุสงฆ์วัดพระธรรมกายและมูลนิธิธรรมกาย ไม่เคยก่อตั้งบริษัททำธุรกิจ ส่วนสาธุชนที่มาวัดก็คงประกอบอาชีพต่างๆ กันไป ซึ่งเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล"