เจาะถุงเงิน บ.เบอร์ม่า ก่อนถูกสอบคดีคืนภาษีส่งออกพม่า-รายได้ 3 ปี 1,142 ล้าน
"...จากการตรวจสอบข้อมูลงบการเงินที่บริษัทฯ นำส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบข้อมูลดังนี้ ในช่วงปี 2553 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการจดทะเบียนตั้ง บริษัทฯ แจ้งว่า มีรายได้รวม 221,220,152.86 บาท มีรายจ่ายรวม 218,522,417.83 บาท กำไรสุทธิ 2,142,516.03 บาท ต่อมาปี 2554 บริษัทฯ แจ้งว่ามีรายได้รวม 421,227,398.89 บาท มีรวมรายจ่าย 418,227,064.08 บาท กำไรสุทธิ 2,312,479.85 บาท ส่วนปี 2555 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่มีการนำส่งงบการเงินแจ้งว่า มีรายได้รวม503,163,983.21 บาท รวมรายจ่าย 500,699,897.31 บาท กำไรสุทธิ 1,825,109.31 บาท ทั้งนี้ หากนับรวมรายได้ 3 ปี ที่บริษัทฯ แจ้งไว้ในงบการเงินทั้ง 3 ปี จะมีตัวเลขสูงถึง 1,142 ล้านบาท..."
นับจนถึงเวลานี้ ยังไม่มีคำชี้แจงอย่างเป็นทางการจากกรมสรรพากร ให้สาธารณชนได้รับทราบข้อเท็จจริงแต่อย่างใด
สำหรับคดีขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้าอุปโภคบริโภคในพื้นที่ กาญจนบุรี และสมุทรสงคราม ซึ่งถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) สอบสวนในขณะนี้
โดยพฤติการณ์ของเอกชนที่เข้ามาเกี่ยวข้องมีลักษณะไปกว้านซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคของห้างค้าปลีกรายใหญ่ในหลายพื้นที่ อาทิ ยาสีฟัน ผงซักฟอก อ้างว่ามีการส่งออกสินค้าไปขายที่ประเทศพม่า ผ่านด่านเจดีย์สามองค์ ในจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนจะมาทำเรื่องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มในภายหลัง ขณะที่ในขั้นตอนการทำเรื่องขอคืนภาษีเอกชนกลุ่มนี้นั้น มีนำใบเสร็จซื้อสินค้าจากห้างค้าปลีกรายใหญ่มายืนยันกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ขณะที่จากการตรวจสอบข้อมูลยืนยันในส่วนของกรมศุลกากร ก็พบว่ามีเอกสารยืนยันการส่งสินค้าออกไป แต่จากการสอบสวนของกระทรวงการคลัง พบว่า ไม่ได้มีการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายจริง
ทั้งนี้ สำหรับบริษัทเอกชน ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในขณะนี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกมานำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว พบว่า มีอยู่ 3 ราย คือ บริษัท เบอร์ม่าเทรดดิ้ง จำกัด บริษัท ปิติพัฒน์ เทรดดิ้ง จำกัด และ บริษัท ซี.เอ็น.ดิสทริบิวชั่น จำกัด
ขณะที่มีรายงานข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. ยืนยันว่า ที่ผ่านมา ได้มีการออกหนังสือแจ้งให้กรรมการผู้มีอำนาจบริษัทเอกชนทั้ง 3 ราย รวมไปถึงข้าราชการที่เกี่ยวข้องเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาเป็นทางการแล้ว (อ่านประกอบ : ได้ชื่อ2บ.ใหม่เอี่ยวคดีคืนภาษีส่งออกพม่าแล้ว! ส่งงบดุลแค่ปี56 -แจ้งที่อยู่บุรีรัมย์ด้วย, แจ้งที่ตั้ง 2 จว.-ทุน 1ล.! เปิดตัวบ.เบอร์ม่าเทรดดิ้ง เอี่ยวคดีขอคืนภาษีสินค้าส่งออกพม่า, กว้านซื้อยาสีฟัน-ผงซักฟอก อ้างส่งออกพม่า! เปิดพฤติการณ์บ.ขอคืนภาษี กาญจน์ฯ-สมุทรสงคราม)
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลทางธุรกิจ บริษัท เบอร์ม่าเทรดดิ้ง จำกัด พบข้อมูลสำคัญเพิ่มเติม คือ การแจ้งการรายได้จากการประกอบธุรกิจที่สูงถึงหลักร้อยล้านบาท ตั้งแต่ช่วงปีแรกของการทำธุรกิจในปี 2553 จนกระทั่งถึงช่วงปี 2555 จากนั้น ไม่ได้มีการนำส่งงบการเงินให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ารับทราบอีก
โดยก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เบอร์ม่าเทรดดิ้ง จำกัด ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบว่า จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 25 ก.พ.2553 ทุน 1 ล้านบาท แจ้งที่ตั้งบริษัท 2 แห่ง คือ 48/29 หมู่ที่ 5 ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และที่อยู่ตาม สบช.3 คือ 88 หมู่ที่ 2 ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม
แจ้งประกอบธุรกิจ ส่งออกสินค้าอุปโภค บริโภค
ปรากฎชื่อ นายปิยะคณิศร ปิติคุณพัฒนาภรณ์ นายศิริ กาญจนโยธิน เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 30 เมษายน 2556 นาย ไกลราช อินทรีย์ ถือหุ้นใหญ่สุด 99.9800% หุ้นที่เหลือกระจายอยู่ในชื่อ นาย เกรียงไกร ศรีถัน และ นาย ปิยะคณิศร ปิติคุณพัฒนาภรณ์ คนละ 0.0100%
จากการตรวจสอบข้อมูลงบการเงินที่บริษัทฯ นำส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รับทราบพบข้อมูลดังนี้
ในช่วงปี 2553 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการจดทะเบียนตั้ง บริษัทฯ แจ้งว่า มีรายได้รวม 221,220,152.86 บาท มีรายจ่ายรวม 218,522,417.83 บาท กำไรสุทธิ 2,142,516.03 บาท
ต่อมาปี 2554 บริษัทฯ แจ้งว่ามีรายได้รวม 421,227,398.89 บาท มีรวมรายจ่าย 418,227,064.08 บาท กำไรสุทธิ 2,312,479.85 บาท
ส่วนปี 2555 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่มีการนำส่งงบการเงินแจ้งว่า มีรายได้รวม 503,163,983.21 บาท รวมรายจ่าย 500,699,897.31 บาท กำไรสุทธิ 1,825,109.31 บาท
ทั้งนี้ หากนับรวมรายได้ 3 ปี ที่บริษัทฯ แจ้งไว้ในงบการเงินทั้ง 3 ปี จะมีตัวเลขสูงถึง 1,142 ล้านบาท
ส่วนบริษัท ปิติพัฒน์ เทรดดิ้ง จำกัด และ บริษัท ซี.เอ็น.ดิสทริบิวชั่น จำกัด นำส่งงบการเงินแค่ปีเดียว คือ 2556
บริษัท ปิติพัฒน์ เทรดดิ้ง จำกัด แจ้งว่า ไม่มีรายได้ มีแต่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวม 69,315.80 บาท ขาดทุนสุทธิ 69,315.80 บาท
บริษัท ซี.เอ็น.ดิสทริบิวชั่น จำกัด แจ้งว่า แจ้งว่าไม่มีรายได้ แต่มีค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน 52,735 บาท ขาดทุนสุทธิ 52,735 บาท
บริษัท เบอร์ม่าเทรดดิ้ง จำกัด จึงน่าจะเป็นหัวใจสำคัญของคดีนี้
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา ได้พยายามติดต่อผู้บริหารสรรพากรในพื้นที่ กาญจนบุรี และสมุทรสงคราม เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีการขอคืนภาษีดังกล่าว รวมถึงวงเงินความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่า เป็นเรื่องในอดีตไม่ใครทราบข้อมูล
จึงทำให้จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ได้รับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีนี้ว่าเป็นอย่างไร รวมถึงตัวเลขความเสียหายที่เกิดขึ้นด้วย