เจาะภงด.90 'ภรรยาอุดมเดช' โชว์รายได้ร้านอาหารเฉพาะปี60 โกย4.8ล.เฉลี่ย3.9แสน/เดือน?
"...จากการตรวจสอบข้อมูลใบจดทะเบียนการค้าพาณิชย์ ร้านอาหารมาเลศ พบว่านางวิภาดาเป็นผู้จดทะเบียนพาณิชย์เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2559 ในชื่อร้านว่ามาเลศ คอฟฟี่ แอนด์เบเวอเรช (MALASE COFFEE AND BEVERAGE) แจ้งจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ขนมอบกรอบ เบเกอรี่ และสินค้าอื่นๆ ในร้านค้าเช่นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย โดยเงินลงทุนที่ใช้ไปร้านมาเลศจำนวน 1,566,058 บาทนั้น สามารถแบ่งออกเป็นค่าสิ่งของเครื่องใช้ภายในร้าน อาทิ เครื่องทำกาแฟ ตู้เย็น เตาปรุงอาหาร กล้องวงจรปิด โทรทัศน์ จำนวน 729,078 บาท และค่าตกแต่งปรับปรุงร้านจำนวน 836,980 บาท..."
ร้านมาเลศ คอฟฟี่ แอนด์ เบเวอเรช ของนางวิภาดา สีตบุตร คู่สมรส พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เพิ่งเปิดให้บริการมา 2 ปี เศษ มีรายได้ จำนวน 9,564,587 บาท จริงหรือ? (อ่านประกอบ : แกะรอยเงินลงทุนร้านอาหารใหม่ 'ภรรยา'อุดมเดช- ปริศนาโชว์รายได้ 9.5 ล.ขายดีมาก? , เช็ครายจ่าย 'อุดมเดช'พ้น รมช.กลาโหม ซื้อที่หนองจอก12 ล.-ทุบกระปุกทำกิจการเพียบ!, ส่องรีวิวร้านมาเลศ'ภรรยาอุดมเดช' ก่อนโชว์รายได้9.5ล.-เพิ่งเปิด2ปี?-อภิสิทธิ์ก็เคยไป)
ยังเป็นปริศนา ที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ให้ความสนใจค้นหาความจริงต่อเนื่อง
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลการเสียภาษีของ นางวิภาดา สีตบุตร ในแบบ ภงด. 90 ที่แจ้งไว้เป็นเอกสารประกอบการยื่นแบบแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ช่วงพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในส่วนของรายได้ ลงวันที่ 4 ธ.ค. 2560
ระบุมีรายได้จากกิจการโรงแรมหรือภัตตาคาร 4,865,090.97 บาท หักค่าใช้จ่ายร้อยละ 70 วงเงิน 3,405,563.68 บาท
คงเหลือ 1,459,527.29
ส่วนข้อมูลการเสียภาษี ปรากฎรายละเอียดดังต่อไปนี้
เงินได้หลังหักค่าใช้จ่าย 1,459,527.29 บาท
หัก ค่าลดหย่อน 91,263.00 บาท
คงเหลือ 1,368,264.29 บาท
หักเงินบริจาค ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินคงเหลือ 41,500 บาท
เงินได้สุทธิ 1,326,764.29 บาท
ภาษีคำนวณจากเงินได้สุทธิ 196,619.07 บาท
ภาษีเงินได้ที่ชำระไว้ตาม ภ.ง.ด. 93 และ ภ.ง.ด.94 วงเงิน 34,818 บาท
ภาษีที่ต้องชำระเพิ่มเติม 161,873.07 บาท
จากการตรวจสอบข้อมูลใบจดทะเบียนพาณิชย์ ร้านอาหารมาเลศ พบว่านางวิภาดาเป็นผู้จดทะเบียนพาณิชย์เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2559 ในชื่อร้านว่ามาเลศ คอฟฟี่ แอนด์เบเวอเรช (MALASE COFFEE AND BEVERAGE) แจ้งจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ขนมอบกรอบ เบเกอรี่ และสินค้าอื่นๆ ในร้านค้าเช่นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
โดยเงินลงทุนที่ใช้ไปร้านมาเลศจำนวน 1,566,058 บาทนั้น สามารถแบ่งออกเป็นค่าสิ่งของเครื่องใช้ภายในร้าน อาทิ เครื่องทำกาแฟ ตู้เย็น เตาปรุงอาหาร กล้องวงจรปิด โทรทัศน์ จำนวน 729,078 บาท และค่าตกแต่งปรับปรุงร้านจำนวน 836,980 บาท
จากข้อมูลทั้งหมด ปรากฎให้เห็นชัดเจนว่า ร้านอาหารมาเลศ จดทะเบียนมา 2 ปีเศษ ในช่วงปี 2560 มีรายได้ 4,865,090.97 บาท ดังนั้น ในช่วงปี 2559 ก็จะต้องมีรายได้ 4,699,496.03 บาท
คำนวณจำนวนเดือนเท่ากับว่า ร้านอาหารมาเลศ จะมีรายได้เฉลี่ยตกเดือนละ 398,524 บาท
แต่ก็ยังที่บอกไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า
ในการแจ้งข้อมูลบัญชีทรัพย์สินดังกล่าว มิได้ระบุข้อมูลที่ชัดเจน ว่า ตัวเลขรายได้ร้านมาเลศ จำนวน 9,564,587 บาท ที่แจ้งไว้กับ ป.ป.ช. เป็นรายได้รายปี หรือรายเดือน จึงทำให้ยังไม่สามารถฟันธงข้อเท็จจริงตรงนี้ได้
ซึ่งในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระบวนการตรวจสอบ ป.ป.ช. สามารถดำเนินการได้ โดย 1.เรียกดูบัญชีรายรับรายจ่ายของร้านอาหารย้อนหลัง ดูต้นทุนรายการสั่งซื้อวัตถุดิบ อาหารและเครื่องดื่มต่างๆ รายได้ที่เข้ามาแต่ละวัน 2. เรียกดูข้อมูลการเสียภาษีของ นางวิภาดา รวมถึงข้อมูลเงินฝากในบัญชีธนาคาร และ 3. เชิญตัว นางวิภาดา และพนักงานในร้านอาหาร มายืนยันข้อมูลเพิ่มเติม
งานนี้ หาก ป.ป.ช. เข้ามาตรวจสอบอย่างเอาจริงจัง เชื่อว่าน่าจะทำให้สาธารณชนได้รับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้นไม่ยากเย็นนัก โดยเฉพาะที่มาของจำนวนเงิน 9,564,587 บาท ที่ถูกแจ้งไว้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้ของ พล.อ.อุดมเดช และคู่สมรส ว่าเป็นรายได้จากร้านอาหารแห่งนี้จริง
ไม่ได้อยู่ๆ เงินจำนวนนี้ ก็โผล่พรวดมา โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย แบบที่เห็นและเป็นอยู่ในขณะนี้?