สสส. และ อิมเมจิน ไทยแลนด์ ชู ภูเก็ต ต้นแบบพลังความร่วมมือ ลดอุบัติเหตุ
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ อิมเมจิน ไทยแลนด์ ชู จังหวัดภูเก็ต โมเดลต้นแบบพลังความร่วมมือในการสร้างความปลอดภัยทางถนน นำภาคีเครือข่าย ลงพื้นที่เรียนรู้กลไกการสร้างความร่วมมือ ที่ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สาธารณสุข ทางหลวงภูเก็ต ขนส่งจังหวัด ภาคประชาสังคม นักวิชาการ ฝ่ายปกครองภาคเอกชนจากหลายหน่วยงานในพื้นที่หันมาจับมือร่วมกันแก้ไขทำให้กว่า 10 ปีมานี้สถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในจังหวัดภูเก็ต ลดลงกว่า 50 % และยังตั้งเป้าจะให้ลดลงอีก
ดร. อุดม หงส์ชาติกุล ผู้จัดการ โครงการพัฒนารูปแบบความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนสุขภาวะที่ดีของเยาวชนไทย Imagine Thailand Movement กล่าวว่าความน่าสนใจของจังหวัดภูเก็ตคือกระบวนการสร้างความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์และเป็นระบบของจังหวัดภูเก็ต ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า หากทุกส่วนร่วมมือกันจริงๆ มีการแชร์ข้อมูลกัน เสริมพลังกัน และมีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง ปัญหาอุบัติเหตุ ปัญหาระดับชาติ ที่คนมักบอกว่าแก้ยาก ใช้เวลานาน นั้น ก็จะสามารถแก้ไขให้บรรเทาลงได้
“นอกศึกษารูปแบบการทำงานของภาคีลดอุบัติเหตุของจังหวัดภูเก็ตแล้วเรายังได้ไปดูการใช้เทคโนโลยีและบทบาทของตำรวจในการบังคับใช้กฎหมายภูธรจังหวัดภูเก็ต รวมถึงดูสภาพจุดเสี่ยง ที่ในอดีตมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุบ่อยมากอาทิบริเวณวงเวียนสุรินทร์-นริศร, ควนดินแดง, โค้งประปา,ทางเข้าหาดในยางแต่หลังจากมีความร่วมมือกันอย่างจริงจัง ก็ได้รับการพัฒนา ทำให้ไม่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงในบริเวณดังกล่าว”
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณรักษาการผู้อำนวยการ สำนัก 1 และผู้อำนวยการ สำนัก 10 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า ภูเก็ตได้ทำเรื่องความปลอดภัยมาต่อเนื่องกว่า 10 ปี และเห็นผลอย่างชัดเจน นับเป็นเบอร์ต้นๆที่สามารถสรุปบทเรียน มาแบ่งปันประสบการณ์ให้ภาคีเครือข่าย ได้เรียนรู้ว่าจะต้องเริ่มอย่างไร เงื่อนไขความสำเร็จอยู่ตรงไหน เขามีการเชื่อมเครือข่ายกันทำงานอย่างไร เขามีการเก็บข้อมูลข้อมูล วิเคราะห์ปัญหาอย่างไร ที่สามารถทำให้ปัญหาอุบัติเหตุลดลง
นพ.วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ ผู้จัดการแผนงานความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับองค์การอนามัยโลก ด้านความปลอดภัยทางถนน ซึ่งเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนสร้างความปลอดภัยทางถนนในจังหวัด
กล่าวว่าจังหวัดภูเก็ต มีนักท่องเที่ยว และคนต่างพื้นที่เดินทางออกออกตลอดเวลา เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่จังหวัดภูเก็ตเฉลี่ยปีละประมาณ 200-300 คน คงเส้นคงวาอยู่เป็นระยะเวลานาน โดยนับเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย แต่ในระยะ 10 ปีหลัง ที่มีการผลักดันในเรื่องของความปลอดภัยทางถนนอย่างจริงจัง มีความร่วมมือกันในระดับพื้นที่อย่างดีมาก มีการบังคับใช้กฎหมายจริงจังก็ทำให้อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในจังหวัดภูเก็ตลดน้อยลงกว่า 50 %มีการแก้ไขจุดเสี่ยงไปกว่า 200 จุด บางจุดเสี่ยงเคยมีคนเสียชีวิตปีละกว่า 50 คน หลังจากมีการแก้ไข ปัจจุบันก็มีเพียงการเฉี่ยวชน”
“หัวใจสำคัญเกิดจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานใหม่ ที่เดิมต่างคนต่างทำ มาร่วมมือกันทำงาน ที่เรียกว่า “สหสาขาวิชาชีพ” เพราะว่าทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันหมด นอกจากนี้ จะต้องมีในเรื่อง สารสนเทศ ที่ทุกฝ่ายจะต้องมีข้อมูล มีการเชื่อมข้อมูล 3 ฐาน ทั้งจากตำรวจ สาธารณสุข และบริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ทำให้เรามีข้อมูลชัดเจนคือถ้าเรารู้ว่าเจ็บเท่าไหร่ ตายเท่าไหร่ ที่เจ็บที่ตายเพราะอะไร เกิดเหตุที่จุดไหน เกิดกับใคร เมื่อไหร่ อย่างไรเราก็สามารถจัดการปัญหาได้”
พล.ต.ต. ธีระพล ทิพย์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8กล่าวว่าผลจากความร่วมมือกันมีทั้งสำเร็จ และไม่สำเร็จแต่ส่วนใหญ่สำเร็จ จึงเกิดเป็นภูเก็ตโมเดลขึ้นมา อย่างไรก็ตามอยากฝากว่างานจราจรนั้นมันทำคนเดียวไม่ได้ และอุบัติเหตุเป็นเรื่องของทุกคน ประชาชนก็มีส่วนร่วมได้ โดยเริ่มจากไม่ทำผิดกฎหมาย แค่นี้เราก็ประสบความสำเร็จแล้ว
ด้านภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุ ที่ได้เข้ามาเรียนรู้ คุณพรหมมินทร์ กัณธิยะสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.)กล่าวถึงแนวทางนำภูเก็จโมเด็ล ไปขยายผลว่า ได้มาเรียนรู้ที่จังหวัดภูเก็ต ได้เห็นความพยายามในการที่จะดึงแหล่งทุนจากต่างประเทศมาช่วยกันสนับสนุน รวมทั้งมีการยกระดับพัฒนาประสิทธิภาพของเครื่องมือ กล้อง CCTV กล้องตรวจจับ ไม่ว่าจะเป็นตรวจจับความเร็ว เรื่องการไม่สวมหมวกนิรภัย น่าจะเป็นอีกโมเดลหนึ่งที่ต่อไปในอนาคต หลังจากที่เราได้รับความชัดเจนของการทำงาน น่าจะนำไปสู่การจัดการนำเสนอเชิงนโยบายเพื่อให้ประเทศไทยเราได้ยกระดับเรื่องการบังคับใช้กฎหมายให้ดียิ่งขึ้น แล้วก็เชื่อมโยงข้อมูลให้ถึงกัน แล้วจะทำให้ชีวิตคนไทยได้รับการปกป้องให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
โครงการพัฒนารูปแบบความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนสุขภาวะที่ดีของเยาวชนไทย Imagine Thailand Movementได้รับการสนับสนุนจากสสส. ท่านสามารถติดตามความเคลื่อนไหวโครงการทาง Line Official https://lin.ee/C17rI97หรือผ่าน FB: https://fb.me/imaginethailandmovement