รฟท.เร่งกู้ซากรถไฟ เหตุชนกันที่สถานีปากท่อ ผู้ว่าฯ แถลงขอโทษยอดเจ็บ43ราย
เว็บไซต์ www.naewna.com รายงานว่า วันที่ 25 ก.พ. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุขบวนรถไฟขนส่งสินค้าคอนเทนเนอร์ บรรทุกสินค้าของบริษัทไทยเบฟ ที่ 722 ขาขึ้นขบวน 4210 (หาดใหญ่- กทม.) ปลายทางบางซื่อ ชนกับรถไฟขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณที่ 37/45 ขบวน 4550 (กรุงเทพฯ-สุไหงโกลก-ปาดังเบซาร์) ที่จอดอยู่ในทางหลีกที่สถานีปากท่อ ตำบลปากท่อ อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เป็นสาเหตุทำให้รถจักรของขบวนรถคอนเทนเนอร์และตู้สินค้าคอนเทนเนอร์ ตกราง เพลาที่ 1 เพลาที่ 4 และ 6 คันท้ายของ ข.722 ตกรางทุกเพลาทุกล้อ และกีดขวางการเดินรถสายใต้ ส่งผลให้มีผู้โดยสาร และเจ้าหน้าที่ ช่างเครื่องบนขบวนรถได้รับบาดเจ็บล่าสุดจำนวน 38 ราย แอดมิด 4 ราย ส่งตัวเข้า โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี 1 ราย เป็นชายวัย 70 ปี รวม 43 ราย โดยมีผู้โดยสารมากับขบวนรถไฟ 258 เจ้าหน้าที่ 4 นาย
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมด้วย หน่วยกู้ภัยม้าเหล็ก บางซื่อ และทีมช่างวิศวกร รฟท. กว่า 50 นาย เข้าเคลียร์สถานการณ์การเก็บกู้ซากขบวนรถไฟทั้ง 2 ขบวน โดยใช้รถเครนขนาดใหญ่ จำนวน 2 คัน ทำการยกซากของตู้คอนเทนเนอร์ที่ได้รับความเสียหายตกจากรางรถไฟออกจากราง เพื่อให้ขบวนรถพิเศษช่วยทำการยกขบวนรถที่ตกรางในที่เกิดเหตุ กลับเข้าสู่รางตามปกติ พร้อมทั้งตรวจเช็คความพร้อมของสภาพไม้หมอน เหล็กรางรถไฟ รวมไปถึงระบบการสับราง เพื่อเร่งดำเนินการทำให้รางกลับมาใช้บริการผู้โดยสารให้เร็วที่สุด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในเวลา 03.00 น. และช้าสุด เวลา 07.00 น.
อย่างไรก็ตามการรถไฟฯจึงได้ทำการปรับเปลี่ยนการเดินรถในเส้นทางสายใต้ดังนี้ ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 40 (สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพ) ขนถ่ายผู้โดยสารที่สถานีเพชรบุรี สำหรับขบวนรถที่มีต้นทางจากสถานีกรุงเทพในช่วงเย็น (24 ก.พ.2563) ให้เดินกลับเข้าสถานีกรุงเทพ ดังนี้ขบวนรถด่วนที่ 37 (กรุงเทพ-สุไหงโก-ลก), ขบวนรถเร็วที่ 169 (กรุงเทพ-ยะลา), ขบวนรถด่วนที่ 83 (กรุงเทพ-ตรัง), ขบวนรถเร็วที่ 173 (กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช), ขบวนรถเร็วที่ 167 (กรุงเทพ-กันตัง) ในส่วนของขบวนรถที่งดเดินใน (24 ก.พ.2563) ดังนี้ ขบวนรถด่วนที่ 85 (กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช), ขบวนรถด่วนที่ 39 (กรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี), ขบวนรถด่วนที่ 41 (กรุงเทพ-ยะลา) ขณะที่ขบวนรถเที่ยวล่องปลายทางสถานีกรุงเทพมีการเดินตามปกติ แต่อาจจะมีความล่าช้าบ้างเนื่องจากรอการเปิดทาง โดยผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์จะเดินทางในเส้นทางสายใต้ สามารถติดต่อขอคืนตั๋วโดยสารได้เต็มจำนวนที่สถานีรถไฟ
ด้านนายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วย นายฐากูร อินทชม ผอ.ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), ผบก.ตร.ภ.จว.ราชบุรี, รอง ผวจ.ราชบุรี, รอง ผบ. มทบ.16, ขนส่งจังหวัด, ปภ.จังหวัด, ยุติธรรมจังหวัด,นายอำเภอปากท่อ, ผกก.สภ.ปากท่อ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเพื่อแก้ไขปัญหารถไฟชนกันตามที่เป็นข่าว
โดยนายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีผู้โดยสารที่มากับขบวนรถไฟขบวนรถด่วนพิเศษทักษิณที่ 37/45 ขบวน 4550 (กรุงเทพฯ-สุไหงโกลก-ปาดังเบซาร์) ที่จอดอยู่ในทางหลีกที่สถานีปากท่อ ได้รับบาดเจ็บจากตัวเลขล่าสุดที่ทางโรงพยาบาลปากท่อรายงานเมื่อเวลาเที่ยงคืน จำนวน 40 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ admit ที่โรงพยาบาลปากท่อ 4 ราย คือ 1. นายแวสาอุดี สะนิ อายุ 44 ปี มีอาการ fracture rib, 2.นายปกรฐ์ มะโนนันท์ อายุ 36 ปี มีอาการปวดเข่า, 3.นางพรพิมล พุกงาม อายุ 59 ปี มีอาการ head injury และ 4.นางมารศรี แมลงภู่ทอง อายุ 84 ปี มีอาการ crushing injury ส่วนผู้ป่วย refer มี 1 ราย คือ จสต. วิฑูร หลักทรัพย์ อายุ 70 ปี มีอาการ head injury ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี เนื่องจากมีเครื่องมือที่ทันสมัยในการรักษา ส่วนอีก 38 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยแพทย์ให้กลับบ้านได้
ส่วนการช่วยเหลือประชาชนที่ตกค้าง ได้มอบหมายให้ รอง ผวจ. ราชบุรี และนายอำเภอปากท่อ เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ มีชาวปากท่อได้นำข้าวปลาอาหารมาประกอบเลี้ยง ผู้โดยสารที่ตกค้างอย่างอิ่มหนำสำราญ โดยทางอำเภอได้เคลื่อนย้าย ผู้โดยสารไปพักคอยที่ สภ.ปากท่อ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกันและสะดวกกว่า ขอยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่มีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด
ขณะที่นายฐากูร อินทชม ผอ.ฝ่ายปฏิบัติการเดินรถการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวขอโทษประชาชนที่โดยสารมากับขบวนรถไฟที่ประสบเหตุดังกล่าวว่า ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยรู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความผิดพลาดของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยเบื้องต้น จะจัดกระเช้าของเยี่ยมคนเจ็บวงเงินไม่เกิน 3,000 บาท/ ราย และ จะรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล โดยออกหนังสือรับรองให้กับทางโรงพยาบาลเพื่อเรียกเก็บเงินจาก รฟท. ในกรณีที่ผู้บาดเจ็บต้องไปรับการรักษาพยาบาลต่อเนื่องในพื้นที่อื่น รฟท.จะรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลต่อเนื่อง สำหรับกรณีที่ผู้บาดเจ็บต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา รฟท.รับผิดชอบค่าใช้จ่ายดังกล่าว กรณีที่ทรัพย์สินเสียหาย จะมีคณะกรรมการพิจารณาเยียวยาค่าเสียหายต่อไป
ส่วนการเคลื่อนย้ายผู้โดยสารทาง รฟท. จะเดินรถไฟขบวนดังกล่าว ที่โบกี้รถไฟไม่ได้รับความเสียหายย้อนกลับ กทม. พร้อมมีผู้โดยสารสมัครใจกลับ กทม. ประมาณ 77 ราย โดยประชาชนจิตอาสาพระราชทาน 904 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ไดช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้โดยสารด้วยการประคองผู้โดยสารที่สูงอายุ ผู้พิการ พร้อมทั้งหิ้วกระเป๋าสัมภาระขึ้นโบกี้รถไฟ
สำหรับอีก 26 รายจะไปพักที่สถานีรถไฟหัวหิน ทางเจ้าหน้าที่ มทบ.16 จะจัดรถบัสทหารไปส่งที่ยังที่หมาย สำหรับผู้โดยสารที่เหลือ ประมาณ 155 ราย ประสงค์จะพักรอที่ อ.ปากท่อ เพื่อเดินทางล่องใต้ในวันพรุ่งนี้ ทาง รฟท.และขนส่งจังหวัด จะจัดรถโดยสารนำส่ง อ.หาดใหญ่ในเช้าวันนี้ ซึ่งเหล่ากาชาดจังหวัดราชบุรีจะดูแลจัดอาหารเช้าบริการ