ปฏิกิริยาโลก 'ทูต-นักการเมือง-องค์กร-สื่อ' รุมวิพากษ์ปชต.สไตล์ไทย กรณี 'ยุบอนค.ใหม่'
"...ในตอนนี้คำตัดสินของศาลที่มีต่อพรรคอนาคตใหม่นั้นเป็นการสวนทางและไม่คำนึงถึงความเป็นประชาธิปไตยที่กำลังเบ่งบานขึ้น ดังนั้น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ที่จะสะท้อนความต้องการของประชาชนที่ได้แสดงออกเมื่อช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมา..."
กรณี ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้ร้อง ขอให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีกู้เงินนายธนาธรวงเงิน 191.2 ล้านบาท โดยมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ พร้อมเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งแก่กรรมการบริหารพรรคที่ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2562 หรือ 11 เม.ย. 2562 ซึ่งเป็นวันที่กระทำการอันเป็นเหตุให้ยุบพรรค เป็นเวลา 10 ปี และห้ามมิให้กรรมการบริหารพรรคดังกล่าว จดทะเบียนจัดตั้งพรรคใหม่ หรือกรรมการบริหารพรรค หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ภายใน 10 ปี
สถานการณ์ในปัจจุบันดูเหมือนว่าจะไม่ได้ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมคลื่นใต้น้ำ ของกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยในคำตัดสินดังกล่าวเฉพาะแค่ในประเทศไทยที่แสดงออกผ่านกิจกรรมเชิงสัญญะ ที่จัดอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลา 1-2 วันที่ผ่ามมาเท่านั้น
หากแต่สถานการณ์ในต่างประเทศ ก็ดูเหมือนจะมีความเคลื่อนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในเชิงไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยตัดสินคดีด้วยเช่นกัน!
เริ่มตั้งแต่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเห็นถึงการยุบพรรคอนาคตใหม่ใจความว่า “เรารับทราบเกี่ยวกับคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญไทยในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ให้ยุบพรรคอนาคตใหม่สหรัฐอเมริกาส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ในทุกประเทศทั่วโลก และชื่นชมประเทศไทยที่มีรัฐบาลซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยวิถีแห่งประชาธิปไตยเมื่อไม่นานมานี้ แม้ว่าสหรัฐฯ ไม่ได้ถือข้างหรือสนับสนุนพรรคการเมืองใดในประเทศไทยเป็นพิเศษ แต่ประชาชนกว่า 6 ล้านคนได้ลงคะแนนเสียงเลือกพรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา คำพิพากษาให้ยุบพรรคอนาคตใหม่อาจนำไปสู่การลิดรอนสิทธิ์ของผู้ลงคะแนนเสียงเหล่านั้น และทำให้เกิดคำถามว่าพวกเขาจะยังคงมีสิทธิ์มีเสียงในระบบการเลือกตั้งของไทยหรือไม่”
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก สหภาพยุโรป “ได้เรียกคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญไทยว่าเป็นการก้าวถอยหลังของแนวคิดพหุนิยมทางการเมืองของประเทศ โดยระบุว่า "การยุบพรรคการเมืองหรือแบนสมาชิกรัฐสภาสวนทางกับกระบวนการฟื้นฟูพหุนิยมทางการเมืองที่ริเริ่มเมื่อปีที่แล้ว พื้นที่ทางการเมืองในไทยควรเปิดกว้างต่อไป" (อ่านประกอบ:สถานทูตสหรัฐฯ ชี้คำสั่งศาลยุบ ‘อนาคตใหม่’ ลิดรอนสิทธิผู้ออกเสียง 6 ล้านคน)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) สำรวจช่องทางเครือข่ายสังคมออกไลน์ ทวิตเตอร์ (Twitter) โดยพิมพ์คำค้นสำคัญ คำว่า Thai Court Party หรือแปลเป็นไทยว่า ‘ศาล ไทย พรรคการเมือง’ เพื่อสำรวจปฏิกริยาเพิ่มเติมจากความเห็นของชาวต่างชาติบนโลกออนไลน์ นับตั้งแต่ช่วงเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ จนถึงช่วงประมาณค่ำของวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา
พบว่า บุคคลที่มีชื่อเสียง และสื่อมวลชนต่างชาติ หลายสำนักต่างออกมาแสดงความเห็นคัดค้านคำวินิจฉัยตัดสินคดีดังกล่าวจำนวนมากด้วยเช่นกัน
เริ่มกันที่ทวิตเตอร์ของสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (Council of Foreign ) จากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยโพสต์ทวิตเตอร์ระบุว่า “ศาลรัฐธรรมนูญไทยได้ตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายตรงข้าม และตัดสิทธิ์ทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่าพรรคนั้นมีเป็นภัยต่อฐานอำนาจในการเมืองไทยอย่างไร”
พร้อมกับแนบบทความเก่าๆเกี่ยวข้องกับพรรคอนาคตใหม่ประกอบทวิตเตอร์
ด้านนาย Raphael Nägeli ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์ด้านเอเชียและแปซิฟิก ได้ทวิตข้อความจากสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทยที่ระบุว่า “สวิตเซอร์แลนด์รับทราบถึงคำตัดสินวันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2563) ที่ให้ยุบพรรคการเมืองซึ่งได้รับคะแนนเสียงจากชาวไทยกว่า 6 ล้านคนในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนมีนาคม 2562 สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นความท้าทายต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองที่เพิ่งจะเริ่มฟื้นคืนกลับมาไม่นานนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรปกป้องเพราะเป็นหัวใจสำคัญของระบอบประชาธิปไตย ในฐานะภาคีใกล้ชิด สวิตเซอร์แลนด์จะทำงานร่วมกับประเทศไทยต่อไปเพื่อที่จะส่งเสริมเสรีภาพ พื้นที่แสดงความคิดเห็น และการมีส่วนรวมทางการเมือง”
ส่วนนายไบรอัน เดวิดสัน Brian Davidson เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย ก็มีการทวิตข้อความเช่นกัน ระบุว่าในปีที่แล้ว "สหราชอาณาจักรยินดีกับประเทศไทยที่ได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา ในตอนนี้คำตัดสินของศาลที่มีต่อพรรคอนาคตใหม่นั้นเป็นการสวนทางและไม่คำนึงถึงความเป็นประชาธิปไตยที่กำลังเบ่งบานขึ้น ดังนั้น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ที่จะสะท้อนความต้องการของประชาชนที่ได้แสดงออกเมื่อช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมา"
ส่วนทวิตเตอร์ของนายแมทธิว สมิธ (Matthew Smith) ผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรโฟร์ติไฟย์ไรท์ (Fortify Rights) องค์กรด้านสิทธิมนษยชน ทวิตว่า “ศาลไทยยุบการเมืองฝ่ายตรงข้าม ถือเป็นวันที่เลวร้ายสำหรับสำหรับสิทธิและประชาธิปไตยในประเทศไทย รัฐบาลไทยตอนนี้นั้นแน่นอนแล้วว่ากำลังอยู่ในภารกิจที่ต้องการจะห้ามและลงโทษผู้ที่ท้าทายกับการปกครองของรัฐบาล ซึ่งนี่ถือเป็นการสั่งตรงมาจากผู้มีอำนาจ”
ในส่วนความเห็นจากฝั่งสื่อมวลชนในต่างประเทศนั้น นาง Karin Wenger ผู้สื่อข่าวประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สถานีวิทยุ Swiss Public Radio ซึ่งได้ไปทำข่าวที่พรรคอนาคตใหม่ด้วยตัวเอง ก็ได้โพสต์วิดิโอที่พรรคอนาคตใหม่พร้อมกับทวิตข้อความว่า “ศาลไทยได้ยุบพรรคและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ 10 ปี หรือนี่จะเป็นสไตล์ของประชาธิปไตยไทย”
ขณะที่ทวิตเตอร์ของนาง Loretta Dalpozzo ผู้สื่อข่าว โทรทัศน์แห่งชาติสวิส ระบุสั้นๆว่า "ไม่แปลกใจกับผลคำพิพากษา แต่เมื่อไรเรื่องนี้ถึงจะจบ"
นอกจากนี้ ยังมีความเห็นจากนักวิชาการที่น่าสนใจบนโลกออนไลน์สั้นๆ อาทิ ทวิตเตอร์ของนาย Cleve Arguelles นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์สัญชาติฟิลิปปินส์ ซึ่งปัจจุบันทำงานวิจัย ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย แสดงความเห็นว่า “การจู่โจมประชาธิปไตยไทยอีกครั้งหนึ่ง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินยุบพรรคฝ่ายตรงข้าม หลังจากที่พบว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กระทำความผิดฐานให้เงินกู้ยืมกับพรรคตัวเอง โดยคณะกรรมการบริหารพรรคจะต้องโทษแบน 10 ปี”
และก่อนหน้านี้นาย Cleve ยังได้ทวิตข้อความว่านี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงในกลุ่มคนรุ่นใหม่ผู้สนับสนุนพรรคหรือไม่ จะมีพรรคการเมืองใหม่ๆเกิดขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับทหารอีกหรือไม่
ทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูลความคิดเห็นบนทวิตเตอร์ของบุคคลสำคัญจากต่างประเทศในหลายแขนง ที่ร่วมแสดงความเห็น ต่อกรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ และห้ามมิให้กรรมการบริหารพรรคดังกล่าว จดทะเบียนจัดตั้งพรรคใหม่ หรือกรรมการบริหารพรรค หรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ภายใน 10 ปี ที่สำนักข่าวอิศรา รวบรวมมาได้
ช่วยสะท้อนให้เห็นภาพชัดเจนว่า ต่างประเทศ มีมุมมองอย่างไรต่อประเทศไทย ณ ห้วงเวลานี้
น่าสนใจว่า ผู้มีอำนาจในรัฐบาล จะหาทาง 'ดับไฟ' ไม่ให้ 'ลามทุ่ง' ไปมากกว่านี้ได้อย่างไร?
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/