'อภิรัชต์' รับเป็นคนอ่อนไหว พ้อครอบครัวต้องปิดโซเชียลหนี
ผู้บัญชาการทหารบก ยอมรับเป็นคนอ่อนไหว พ้อครอบครัวปิดโซเชียลหนี หลังรับผลกระทบวิจารณ์เหตุกราดยิงโคราช แนะคนไทยอ่านหนังสือให้ครบถ้วน จ่อรื้อระบบอุปถัมภ์ พร้อมเปิดศูนย์ Call Center จันทร์นี้ (17ก.พ.63)
เว็บไซต์ www.voicetv.co.th รายงานว่า พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยความรู้สึกหลังการแถลงข่าว ทหารก่อเหตุกราดยิง ที่ จ.นครราชสีมา ว่า รู้สึกโล่งใจและสบายใจที่ได้ชี้แจง แม้โซเชียลจะยังวิจารณ์อยู่ก็ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่สามารถไปห้ามได้ พร้อมทั้งขอบคุณสื่อมวลชนที่ได้ป้อนคำถามอย่างระมัดระวัง ไม่โยงเข้าประเด็นการเมือง เราควรให้เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้คนไทยกลับมารักใคร่ กลมเกลียวกัน อย่ามุ่งว่าชมว่าคนนั้นดี คนนี้ไม่ดี ซึ่งหลังจากนี้ตนเองก็จะเดินหน้าดูเรื่องภายในกองทัพบกที่ต้องแก้ไข ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะอดีตผู้บัญชาการทหารบก ได้มีความห่วงใยและบอกว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องแก้ไขให้ทันกับยุคสมัย อย่างศูนย์คอลเซ็นเตอร์ ที่จะเปิดดำเนินการได้ภายในวันจันทร์นี้ เพื่อให้ทหารทุกระดับชั้น สามารถร้องเรียนความไม่เป็นธรรมเข้ามาได้ พร้อมเก็บข้อมูลเป็นความลับ แต่หากพบว่ามีการให้ข้อมูลเท็จ หรือแอบอ้าง ก็จะถูกดำเนินการตามอย่างเด็ดขาด
ส่วนกรณีที่จะมีการลงนามกับกระทรวงการคลังในการใช้ที่ราชพัสดุเป็นโครงการสวัสดิการเชิงพาณิชย์ โดยนำเงินและรายได้กลับเข้าสู่กระทรวงการคลังนั้น พลเอกอภิรัช ระบุว่า เบื้องต้นได้ข้อสรุปแล้วว่าจะดำเนินการในพื้นที่ใดบ้างเช่น รร. ที่หาดสวนสนฯ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอาจจะให้เอกชนเข้ามาช่วยบริหารจัดการ ด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้ แม้จะมีผู้ได้รับผลกระทบบ้าง แต่ตนรับปากแล้วว่าจะรับผิดชอบ และแก้ไขให้ดีที่สุดก่อนเกษียณฯ พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้ทำหลังจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มาจี้เรื่องการปฏิรูปกองทัพ
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ากองทัพและตนเองเป็นเป้าหมาย เพราะฉะนั้นจะต้องทำตัวเป็นตัวอย่างไม่ใช่บังคับแต่ผู้อื่น และต้องหมั่นพัฒนาความรู้ โดยเฉพาะการทางด้านภาษาให้ทันต่อต่างประเทศ โดยเปลี่ยนให้ระดับผู้บังคับบัญชาไปสอบโทอิก เพื่อวัดระดับภาษาอังกฤษให้ได้มาตรฐาน ซึ่งถือเป็นการพัฒนาระดับผู้พันขึ้นไป ขณะเดียวกัน เตรียมรื้อระบบอุปถัมภ์ทั้งหมด หากพบว่ามีการฝากแบบไม่ผ่านระบบก็จะดำเนินการโดยไม่ไว้หน้าใคร ไม่สนว่าจะเป็นคนของใคร ค่ายไหน ก็ต้องจัดการทั้งคนที่มาฝากและคนรับฝากด้วย
ส่วนที่มีการร้องไห้ระหว่าง การแถลงข่าวเมื่อวานนั้น ยอมรับว่าตนเองเป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหว ซึ่งสิ่งที่ตนเสียใจมากที่สุด คือมีพลทหารที่ปฎิบัติหน้าที่เสียชีวิต แต่กลับไม่มีใครกล่าวถึง แล้วพุ่งเป้าว่ากองทัพหละหลวม ซึ่งคนทำงานด้วยกันทุกวันไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดเหตุขึ้น พร้อมยอมรับว่าคนรอบข้างทั้งภรรยาและลูก ต้องปิดโซเชียลไปหมด เพื่อป้องกันผลกระทบที่สืบเนื่องมาจากตนเอง
ผู้บัญชาการทหารบก ยังได้ยกตัวอย่าง เฉินหลง ที่โพสต์ข้อความผ่านสื่อออนไลน์ ในวัย 65 ปี ที่ได้นอนพักผ่อนหลับอย่างสบาย แล้วสุดท้ายก็ตื่นขึ้นมาออกกำลังกายใช้ชีวิตปกติ ซึ่งหากอ่านเป็นช่วงอาจจะทำให้คิดได้ว่าเฉินหลงเสียชีวิตแล้ว จึงขอฝากให้คนไทยอ่านข้อความให้ครบถ้วน และอ่านหนังสือเกิน 8 บรรทัด
ที่มา : https://voicetv.co.th/read/GgG0iEty2