ฎีกายืน "ประหารชีวิต" อดีตผู้ใหญ่บ้าน หวังข่มขืน ฆ่า "น้องสโนว์"
เว็บไซต์ www.thairath.co.th รายงานว่า จากคดีสะเทือนขวัญ กรณี "น้องสโนว์" สาววัยแค่ 18 ปี ถูกคนร้าย ถีบรถจักรยานยนต์ล้ม เพื่อหวังจะข่มขืน แต่น้องสู้สุดฤทธิ์จนบาดเจ็บสาหัส และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวบรวมหลักฐาน เข้าจับกุม นายกฤติเดช ระเวงวรรณ อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน จ.กาฬสินธุ์ ข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา ทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยศาลชั้นต้นได้สั่งประหารชีวิตจำเลย และให้ชดใช้เงินให้กับครอบครัวโจทก์ แต่ทางจำเลยไม่ยอม ยังคงขอต่อสู้ตามกฎหมาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า วันที่ 11 ก.พ.63 ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีข่มขืนกระทำชำเรา ทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย คดีหมายเลขดำที่ อ. 2112/2559 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.1381/2560 ที่โจทก์ พนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ และนางลำไย พลประสิทธ์ โจทก์ร่วมที่ 1 นายกฤษ พลประสิทธ์ โจทก์ร่วมที่ 2 ยื่นฟ้อง นายกฤติเดช ระเวงวรรณ อดีตผู้ใหญ่บ้านสีถาน ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.58 หลังจากที่ "น้องสโนว์" ขี่รถจักรยานยนต์กลับจากโรงเรียนตามปกติ
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวของน้องสโนว์ ตลอดจนเพื่อนบ้าน เดินทางมาฟังคำพิพากษาตั้งแต่เช้า โดยแม่ของ น้องสโนว์ ยังคงสวมชุดขาวไว้ทุกข์ และกอดรูปถ่ายของลูกสาวไว้แนบอกตลอดเวลา เหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา
โดยศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษากว่า 30 นาที แต่ไม่มีญาติของจำเลยมาร่วมรับฟัง โดยสาระสำคัญที่จำเลยฎีกา มีความขัดแย้งกันหลายอย่าง อีกทั้งศาลอุทธรณ์ พิจารณาก่อนหน้านี้ ถึงแม้ฝ่ายโจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานแน่ชัด แต่ปรากฏพยานแวดล้อมหลายปากที่ให้การสอดคล้องกัน รวมถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะรอยแผลที่บริเวณนิ้วมือ ซึ่งเป็นรอยกัดของฟันมนุษย์ และลูกอัณฑะที่บวม เป็นร่องรอยที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ ที่ได้รับคำยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 คัน ก็มีหลักฐานยืนยันจากนิติวิทยาศาสตร์ว่า มีร่องรอยเฉี่ยวชนกัน ซึ่งศาลพิจารณาแล้วเป็นพยานและหลักฐานที่มั่นคง จึงตัดสินให้ลงโทษตามศาลศาลอุทธรณ์ คือประหารชีวิต นายกฤติเดช ระเวงวรรณ จำเลย และให้ชดใช้ค่าสินไหม 2,390,000 บาท อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ครอบครัวพลประสิทธ์ ฟังคำตัดสินเสร็จแล้ว ได้เดินออกมาจากศาลด้วยอาการน้ำตาซึม พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ตลอดจนสื่อมวลชน
แม่น้องสโนว์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ลูกสาวถูกทำร้ายเสียชีวิต จนมาถึงปัจจุบัน กว่า 5 ปี ทางครอบครัวได้บอกกับน้องสโนว์ว่า จะต้องได้รับความเป็นธรรม และครอบครัวจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด กระทั่งในวันนี้ลูกสาวก็ได้รับความเป็นธรรมแล้ว ซึ่งต้องขอขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ตลอดจนสื่อมวลชนที่คอยให้กำลังใจตลอดมา
ด้าน พี่สาวน้องสโนว์ กล่าวว่า วันนี้อยากบอกน้องสาวว่า ความยุติธรรมมีอยู่จริง และน้องก็ได้รับความเป็นธรรมแล้ว คนร้ายก็ถูกตัดสินดำเนินคดีแล้ว ต่อไปตนก็ต้องทำหน้าที่ลูก ดูแลพ่อแม่แทนน้องสาว
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2558 ก่อนเกิดเหตุในช่วงเช้า น้องสโนว์ ขี่รถจักรยานยนต์ไปเรียนตามปกติ จนในช่วงเย็นเวลากลับบ้านถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้ายสะกดรอยขี่จักรยานยนต์ประกบและใช้เท้าถีบ โดยคนร้ายพยายามจะข่มขืน แต่ น้องสโนว์ ขัดขืน กัดและบีบลูกอัณฑะ จนสามารถหลีกหนีการข่มขืนได้ แต่เนื่องจากถูกทำร้ายสาหัส จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา
จนเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2559 ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จับกุมตัว นายกฤติเดช ระเวงวรรณ ผู้ใหญ่บ้านสีถาน พร้อมตั้งข้อหาฉกรรจ์ "ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย" โดยส่งสำนวนถึงอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2559
โดยอัยการจังหวัดตั้งองค์คณะขึ้นมาพิจารณาคดี 1 เดือน แล้วส่งฟ้องศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2559 และศาลได้รับเป็นคดีดำที่ 2112/2559 และสืบพยานโจทก์รวม 40 ปากพร้อมพยานเอกสาร ในเดือนพฤศจิกายน 2559 และสืบพยานจำเลย 11 ปาก ในช่วงเดือนธันวาคม 2559 และนัดฟังคำตัดสินคดี เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 ที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งนายกฤติเดช ใช้สิทธิอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนโทษประหารชีวิตนายกฤติเดช และให้ชดใช้ค่าสินไหม ตามศาลชั้นต้น กระทั่งล่าสุดศาลฎีกามีคำตัดสินยืนโทษประหารชีวิตจำเลย และให้ชดใช้ค่าสินไหมในวันนี้.