รวบแล้ว! หนุ่มโพสต์ข่มขู่อ้างเตรียมก่อเหตุที่ชัยภูมิ
ตำรวจจับกุมตัวหนุ่มโพสต์ผ่านโซเชียลช่มขู่อ้างเตรียมก่อเหตุที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ ขณะที่บริษัทต้นสังกัดได้ออกแถลงการณ์และมีคำสั่งให้พ้นจากการเป็นพนักงานเรียบร้อยแล้ว
เว็บไซต์ https://news.thaipbs.or.th/ รายงานว่า จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊ก เฮียอาร์มมอเตอร์ ที่โพสต์ข้อความมีลักษณะข่มขู่ เตรียมวางแผนก่อความรุนแรงต่อเนื่องกับเหตุกราดยิงประชาชนที่จังหวัดนครราชสีมา จนทำให้มีการแชร์ และเผยแพร่ต่อ สร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชน
วันนี้ (10 ก.พ.2563) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ระบุว่า ตามที่ประชาชนส่งข้อมูลร้องเรียนเข้ามาผ่านทางหลายช่องทาง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับ ปอท.และตำรวจในพื้นที่ สภ.เมืองชัยภูมิ ร่วมกันติดตามเข้าตรวจสอบและเมื่อเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ได้เข้าจับกุมตัวเจ้าของโพสต์ดังกล่าว ทราบชื่อนายพีรพัทน์ ชูแสง อายุ 28 ปี ที่ อ.พิมาย จ.ชัยภูมิ ผู้ต้องหากระทำความผิดนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
จากการสอบปากคำในเบื้องต้นผู้ต้องหายอมรับสารภาพ โดยโพสต์ข้อความเพราะเมา และทะเลาะกับแฟน ขณะนี้ได้ส่งตัวดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ตั้งข้อหาความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ข่มขู่ให้คนอื่นตกใจกลัว และแต่งเครื่องแบบราชการโดยไม่ได้รับอนุญาติ ก่อนส่งดำเนินคดี
ทั้งนี้ รมว.ดีอีเอส กล่าวย้ำว่า เราเอาจริงและดำเนินการจริง ขอฝากเตือนพี่น้องประชาชน เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไม่ควรทำเป็นเยี่ยงอย่าง ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกให้กับพี่น้องประชาชนจำนวนมาก
ปลดหนุ่มโพสต์เตรียมก่อเหตุพ้นพนักงานบริษัท
ขณะที่มีการเผยแพร่ประกาศของบริษัท ทองแท้เจริญยนต์ จำกัด เรื่อง ประกาศพ้นสภาพพนักงานบริษัท โดยมีรายละเอียด ระบุว่า บริษัท ทองแท้เจริญยนต์ จำกัด ขอแสดงความเสียใจจอย่างสุดซึ้ง ดังที่ได้มีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียถึงการกระทำที่พนักงานของบริษัท ซึ่งใช้ชื่อเฟซบุ๊ก "เฮียอาร์ม มอเตอร์" แสดงพฤติกรรมที่ไม่เคารพต่อญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งขัดต่อหลักจริยธรรมและกฎระบียบในการปฏิบัติงานของบริษัทฯ
หลังจากรับทราบข้อมูลทางผู้บริหารได้ประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยทันทีถึงพฤติกรรมอันเป็นภัยต่อชีวิตพี่น้องประชาชน บริษัท ทองแท้เจริญยนต์ จำกัด ขอเรียนแจ้งว่า ขณะนี้ผู้โพสต์ได้พ้นสภาพการเป็นพนักงานของบริษัทแล้ว และบริษัทขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งอีกครั้งแก่ญาติผู้เสียชีวิต และทางบริษัทฯ จะเพิ่มมาตรการในการตรวจสอบการรับพนักงานเข้าทำงานอย่างเข้มงวด