ยอดตายจากไวรัสโคโรนาทั่วโลกทำลายสถิติ 'ซาร์ส'
ผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รวมกันทั่วโลกเพิ่มเป็นอย่างน้อย 811 คน ทำลายสถิติผู้เสียชีวิต 774 คนจากโรคซาร์ส ซึ่งแพร่ระบาดเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว
เว็บไซต์เดลินิวส์ https://www.dailynews.co.th/foreign/756552 ระบุ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ว่าคณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติของจีนรายงานสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ระหว่างเดือนธ.ค. ปีที่แล้ว จนถึงวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่อย่างน้อย 811 คนเฉพาะในแผ่นดินใหญ่ และผู้ป่วยสะสมอยู่ที่อย่างน้อย 37,198 คน โดยจุดวิกฤติที่สุดยังคงเป็นมณฑลหูเป่ย์ ทางตอนกลางของประเทศ ด้านบุคลากรการแพย์ร่วมกันรักษาผู้ติดเชื้อจนหายดีแล้ว 2,649 คน และกำลังตรวจสอบเคสต้องสงสัยอีกไม่ต่ำกว่า 28,942 เคส
อย่างไรก็ตาม สถิติดังกล่าวทำลายยอดผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของกลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือซาร์ส ซึ่งแพร่ระบาดระหว่างปลายปี 2546 ถึงกลางปี 2546 ในจีน ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน และอีก 25 ประเทศ ซึ่งมีผู้เสียชีวิตรวมกัน 774 คน ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) จากจำนวนดังกล่าวเป็นการเสียชีวิตเฉพาะในแผ่นดินใหญ่ 349 คน ฮ่องกง 299 คน และไต้หวัน 37 คน โดยอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 9.6% ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อรวมกันอยู่ที่ 8,096 คน ขณะที่อัตราการเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังอยู่ที่ประมาณ 2%
ในอีกด้านหนึ่ง สถานการณ์ติดเชื้อในต่างประเทศ นอกเหนือจากฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน ยังอยู่ที่อย่างน้อย 24 ประเทศ ได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย มาเลเซีย เยอรมนี สหรัฐ ฝรั่งเศส เวียดนาม แคนาดา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) อิตาลี รัสเซีย สหราชอาณาจักร กัมพูชา ฟินแลนด์ อินเดีย เนปาล ฟิลิปปินส์ สเปน ศรีลังกา สวีเดน
สำหรับการเสียชีวิตนอกแผ่นดินใหญ่พบแล้วที่ฟิลิปปินส์ เป็นชายชาวจีนอายุ 44 ปี และชายอายุ 39 ปีเสียชีวิตที่ฮ่องกง นอกจากนี้ยังมีชาวอเมริกันวัย 60 ปีซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยเพศ เสียชีวิตจากเชื้อโรคนี้ที่เมืองอู่ฮั่น และชายชาวญี่ปุ่นอายุ 60 ปี เสียชีวิตด้วยอาการ "ต้องสงสัย" เป็นผลจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยนานาชาติอีกอย่างน้อย 64 คน ติดเชื้อจากการอยู่บนเรือสำราญ "ไดมอนด์ ปรินเซส" ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นกักบริเวณไว้ที่ท่าเรือในเมืองโยโกฮามา ตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา