กทม.สั่งหยุดก่อสร้าง 4-6 ก.พ. ลด PM2.5
เว็บไซต์ www.thansettakij.comรายงานว่า นางจินดารัตน์ ชโยธินที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และโฆษก กทม.เปิดเผยผลการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ซึ่งมีพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการ กทม.เป็นประธานว่า ที่ประชุมมีมติสั่งการให้หยุดการก่อสร้างในกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดฝุ่นละอองในช่วงวันที่ 4-6 ก.พ.63 รวมถึงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 6 สายในพื้นที่ กทม.และการก่อสร้างอาคารสูง ทั้งนี้ หากสภาพอากาศดีขึ้นทุกโครงการสามารถกลับมาดำเนินการก่อสร้างได้ตามปกติ
สำหรับกิจกรรมอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการก่อสร้าง อาทิ การตกแต่งภายในของอาคารต่างๆ ยังสามารถดำเนินการได้ นอกจากนี้ กทม.จะดำเนินมาตรการอื่นควบคู่ไปด้วย ได้แก่ การติดปริงเกอร์พ่นละอองน้ำ และการฉีดน้ำล้างถนน
นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ตามมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยพบว่าในระยะนี้ในพื้นที่ กทม.มีความกดอากาศสูงเข้ามาปกคลุม โดยเฉพาะในช่วงเช้าถึงเที่ยง ประกอบกับลมมีกำลังอ่อนลง ทำให้ไม่สามารถกระจายฝุ่นในพื้นที่ออกไปได้ ดังนั้นในช่วง 2-3 วันหลังจากนี้ ค่าฝุ่นละอองจะมีปริมาณสูงขึ้น
ที่ผ่านมา กทม.ได้ดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง อาทิ มาตรการตรวจจับรถควันดำ โดยตั้งแต่ ต.ค.62- ม.ค.63 สามารถตรวจจับรถควันดำได้ 29,513 คัน เฉพาะวันที่ 31 ม.ค.63 สามารถตรวจจับรถควันดำได้ 520 คัน มาตรการควบคุมการเผาในที่โล่ง การประสานขสมก.เพื่อล้างท่อไอเสียของรถร่วมบริการทั้งหมด โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มาตรการประสานกรมโรงงานเพื่อตรวจปล่องของโรงงานไม่ให้ปล่อยฝุ่นละออง หากพบว่ามีการปล่อยฝุ่นละอองเกินมาตรฐานจะสั่งให้หยุดทำงานเพื่อแก้ไขทันที
อย่างไรก็ดี คณะผู้บริหาร กทม.เห็นว่าการก่อสร้างในพื้นที่ กทม.ทั้งหมดมีส่วนทำให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองได้เช่นกัน ทั้งการก่อสร้างรถไฟฟ้า และการก่อสร้าง
เริ่มแล้วกทม.สั่งหยุดก่อสร้าง 3 วัน ลด PM2.5
นางจินดารัตน์ ชโยธินที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และโฆษก กทม.เปิดเผยผลการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ซึ่งมีพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการ กทม.เป็นประธานว่า ที่ประชุมมีมติสั่งการให้หยุดการก่อสร้างในกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดฝุ่นละอองในช่วงวันที่ 4-6 ก.พ.63 รวมถึงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 6 สายในพื้นที่ กทม.และการก่อสร้างอาคารสูง ทั้งนี้ หากสภาพอากาศดีขึ้นทุกโครงการสามารถกลับมาดำเนินการก่อสร้างได้ตามปกติ
สำหรับกิจกรรมอื่นที่ไม่เกี่ยวกับการก่อสร้าง อาทิ การตกแต่งภายในของอาคารต่างๆ ยังสามารถดำเนินการได้ นอกจากนี้ กทม.จะดำเนินมาตรการอื่นควบคู่ไปด้วย ได้แก่ การติดปริงเกอร์พ่นละอองน้ำ และการฉีดน้ำล้างถนน
นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ตามมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยพบว่าในระยะนี้ในพื้นที่ กทม.มีความกดอากาศสูงเข้ามาปกคลุม โดยเฉพาะในช่วงเช้าถึงเที่ยง ประกอบกับลมมีกำลังอ่อนลง ทำให้ไม่สามารถกระจายฝุ่นในพื้นที่ออกไปได้ ดังนั้นในช่วง 2-3 วันหลังจากนี้ ค่าฝุ่นละอองจะมีปริมาณสูงขึ้น
ที่ผ่านมา กทม.ได้ดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง อาทิ มาตรการตรวจจับรถควันดำ โดยตั้งแต่ ต.ค.62- ม.ค.63 สามารถตรวจจับรถควันดำได้ 29,513 คัน เฉพาะวันที่ 31 ม.ค.63 สามารถตรวจจับรถควันดำได้ 520 คัน มาตรการควบคุมการเผาในที่โล่ง การประสานขสมก.เพื่อล้างท่อไอเสียของรถร่วมบริการทั้งหมด โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มาตรการประสานกรมโรงงานเพื่อตรวจปล่องของโรงงานไม่ให้ปล่อยฝุ่นละออง หากพบว่ามีการปล่อยฝุ่นละอองเกินมาตรฐานจะสั่งให้หยุดทำงานเพื่อแก้ไขทันที
อย่างไรก็ดี คณะผู้บริหาร กทม.เห็นว่าการก่อสร้างในพื้นที่ กทม.ทั้งหมดมีส่วนทำให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองได้เช่นกัน ทั้งการก่อสร้างรถไฟฟ้า และการก่อสร้าง