ก.แรงงาน สบช่องเสนอแก้ กม.ผู้ประกันตนเลือกระบบรักษา
จากกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอให้แก้ กม.ประกันสังคมเท่าเทียมสิทธิรักษาบัตรทอง รมว.แรงงานรับลูกเสนอออก พ.ร.ก.ให้ผู้ประกันตนเลือกระบบรักษา ประธานบอร์ด สปส.เชียร์ข้อเสนอลูกจ้าง ให้รัฐจ่ายค่าหัวรักษาพยาบาลประกันสังคมเท่า สปสช.
เมื่อวันที่ 18 มี.ค. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายปราโมทย์ โชติมงคล ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอให้พิจารณาแก้ไขกฎหมายประกันสังคม ในส่วนของการเก็บเงินสมทบไปเป็นค่ารักษาพยาบาล ซึ่งถือเป็นกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมกับผู้ประกันตน และขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 30 ว่ากระทรวงมีแนวคิดที่จะแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 2 สัปดาห์ได้มอบหมายให้นายปั้น วรรณพินิจ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม(สปส.)หารือกับคณะกรรมการกฤษฎีกา หาช่องทางแก้กฎหมายหรืออาจออกเป็นพระราชกฤษฎีกา โดยเสนอแนวคิดให้ผู้ประกันตนสามารถเลือกรักษาในระบบใดก็ได้
นายเฉลิมชัย กล่าวว่าการที่จะให้เสนอแก้ไขกฎหมาย ในฐานะที่ตนเป็นประธานคณะกรรมการวิสามัญแก้ไขกฎหมายประกันสังคมอยู่ในขณะนี้ ไม่สามารถทำได้ เพราะถือว่าเป็นกฎหมายที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติในอีกหลักการ ทั้งนี้ข้อเสนอของประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นเพียงความคิดเห็น ส่วนกฎหมายประกันสังคมนั้นจะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด
นายสมเกียรติ์ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงานในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม(บอร์ด)กล่าวว่าหากได้รับหนังสือจากประธานผู้ตรวจการแผ่นดินก็จะมอบให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการตาม ลำดับชั้น อย่างไรก็ตามกฎหมายประกันสังคมได้มีการพิจารณากันเสร็จสิ้นตั้งแต่ปี 2533 ซึ่งก่อนหน้านั้นก็พูดถึงกันมา 30-40 ปี และผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฏรโดยที่ไม่มีใครคัดค้านเลยเพราะถือว่า เป็นระบบสากลที่มุ่งเน้นให้ดูแลตัวเองและรับผิดชอบต่อสังคม
“เรายึดแนวทางนี้มาโดยตลอด ตอนหลังเมื่อมีรัฐธรรมนูญ ซึ่งมาตรา 51 ระบุในทำนองว่าผู้ยากไร้ต้องได้รับบริหารด้านสาธารณะสุขโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่เอาเข้าจริงๆระบบของ สปสช.ก็เอาคนเข้ามาทั้งหมด ไม่ใช่แค่ผู้ยากไร้ การที่บอกว่าระบบประกันสังคมทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมอาจเป็นช่องทางให้นายจ้างไม่ต้องรับผิดชอบจ่ายค่าประกันตนให้ลูกจ้างด้วยซ้ำ” นายสมเกียรติ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอของฝ่ายลูกจ้างที่ให้สร้างความเท่าเทียมกันโดยรัฐจ่ายเงินสนับสนุนให้ผู้ประกันตนเท่ากับผู้รับบริการของ สปสช. นายสมเกียรติ์กล่าวว่าถ้าเป็นไปได้ก็ดี เพราะจะได้นำเงินในส่วนที่นายจ้างและลูกจ้างจ่ายไปใช้ต่อยอดด้านอื่นๆ แต่ตนไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะมีงบประมาณมากพอที่จะทำเช่นนั้นหรือไม่
นายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย กล่าวว่ารัฐบาลไม่ควรปล่อยให้ศาลรัฐธรรมนูญมีการตัดสิน เพราะเป็นปัญหาที่เหลื่อมล้ำมานานมาก ควรที่จะพิจารณาแก้ไขโดยทันที โดนรัฐบาลต้องนำเงินมาสมทบให้ผู้ประกันตนในส่วนของการรักษาพยาบาลเพื่อให้มีสิทธิเท่าเทียมกัน เหตุใดผู้ประกันตนต้องจ่ายเพิ่มในส่วนของการรักษาพยาบาล ในขณะที่คน 47 ล้านคนของ สปสช.ไม่ต้องจ่าย ทั้งที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเดียวกัน .