ประธาน คสป. แนะสร้างพลังปัญญา-สังคม-ศีลธรรม คุ้มครองผู้บริโภค
หมอประเวศ เหน็บนักการเมืองเข้าไปหาประโยชน์เป็นแสนล้าน ประชาชนของบคุ้มครองผู้บริโภคหัวละ 5 บาท ยังจะตัดเหลือ 3 ปลุกประชาชนติดอาวุธทางปัญญาผลักดัน แนะสร้างชุมชนเข้มแข็ง ระบบสุขภาพชาวบ้านดูแลกันเอง อบรมนักสุขภาพครอบครัว
วันที่ 14 มี.ค.54 ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป(คสป.) ปาฐกถาพิเศษ “สานพลัง สามพลัง เพื่อผู้บริโภคไทย” ในการประชุมวิชาการคุ้มครองผู้บริโภค เนื่องในวันสิทธิผู้บริโภคสากล ซึ่งจัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับ 11 องค์กรภาคีเครือข่าย โดย นพ.ประเวศ กล่าวว่าการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นศีลธรรมที่มนุษย์พึงมีต่อกัน การทำร้ายผู้บริโภคเป้นการกระทำที่ผิดศีลธรรม แต่พบว่า สังคมปัจจุบันเป็นสังคมแสวงหากำไร ผู้บริโภคถูกทำร้ายจากทุกทิศทาง ทั้งด้านอาหาร ยา สินค้าบริการ สิ่งแวดล้อม ประชาชนได้รับผลกระทบทางลบและไม่มีความปลอดภัยมากมายจากสินค้าด้อยคุณภาพ อันตราย ราคาแพงเกินไป ใช้ยาฆ่าแมลง แร่ใยหิน สารหนู สารแคดเมี่ยม ตะกั่ว
แผ่นดินของเราเป็นแผ่นดินอาบยาพิษ ใช้ยาและสารพิษมากมาย ชีวิตผู้บริโภคล้วนล้อมรอบพิษภัยต่างๆ ที่สำคัญการโฆษณาทำให้เกิดความเสื่อม ขาดการวิเคราะห์ ไม่สนใจศีลธรรม เช่น การโฆษณาให้เด็กกินหวาน ดึงเงินจากพ่อแม่เด็ก 170,000 ล้านบาท แต่ทิ้งปัญญาสุขภาพไว้กับเด็กซึ่งเป็นอนาคตชาติมากมาย ทั้งโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน
นพ.ประเวศ กล่าวว่าระบบทุนนิยมก่อให้เกิดหายนะกระทบผู้บริโภคทั้งทางตรงและทางอ้อม นำไปสู่ความรุนแรง ความขัดแย้ง ความตาย ก่อความทุกข์ไปทั่วโลก ทำลายสังคม สิ่งแวดล้อม นำไปสู่โลกร้อน ผ่านการส่งเสริมการบริโภคเกินเลย เกิดภัยพิบัติไปทั่วโลก เช่น พายุ น้ำท่วมฉับพลัน ภาวะแห้งแล้ง ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดจะเกิดมากขึ้น นำไปสู่การขาดแคลนอาหาร เพราะพื้นที่การผลิตมีน้อยลง เกิดโรคระบาด การจลาจลและสงคราม ดังนั้นประชาชนต้องขับเคลื่อนด้วยการติดอาวุธทางปัญญาจากภาควิชาการ ผลักดันให้นักการเมืองทำงานเพื่อประชาชน
“นักการเมืองจะทำเรื่องดีๆไม่ได้ ถ้าไม่มีประชาชนคอยขับเคลื่อน เพราะโดยปกติอำนาจรัฐจะเข้าข้างคนมีเงิน ไม่เคยเข้าข้างคนเสียเปรียบ เช่น ร่าง พ.ร.บ.องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งควรมีกองทุนเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคขนาดใหญ่พอที่จะส่งเสริมการทำระบบ คุ้มครองผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ถูกตัดงบประมาณ” นพ.ประเวศ กล่าว
ประธาน คสป.ยังกล่าวว่า ประชาชนเลือกนักการเมืองเข้าไปทำงาน แต่กลับไปหาประโยชน์เป็นแสนล้าน ขณะที่งบคุ้มครองผู้บริโภคขอไปไม่น้อยกว่า 5 บาทต่อหัว ยังจะขอตัดเหลือ 3 บาท ดังนั้นการจะสร้างกลไกคุ้มครองผู้บริโภคจากสังคมแห่งการแสวงหากำไรเปลี่ยนเป็นสังคมแห่งการอยู่ร่วมกัน ต้องเร่งสร้าง "พลังทางปัญญา พลังทางสังคม และพลังศีลธรรม" รวมกันขับเคลื่อนงานคุ้มครองผู้บริโภคดังนี้
1.สร้างชุมชนเข้มแข็งทุกๆด้าน เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันอย่างยั่งยืน 2.ระบบสุขภาพชุมชนที่จะดูแลคนในชุมชน เช่น อสม. หมออนามัย เผยแพร่ความรู้การจัดอบรมนักสุขภาพครอบครัว 3.สร้างตลาดขายตรงให้มากที่สุด ไม่ผ่านการโฆษณาชวนเชื่อส่งเสริมการบริโภคเกินเลย มีความเอื้ออาทรกัน ผลิตสินค้าปลดสารพิษ ส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่รวมตัวจัดตั้งบริษัทที่ทำเพื่อสังคม เชื่อมโยงผู้ผลิตและผู้บริโภค 4.ส่งเสริมหลักสูตรวิเคราะห์ข่าวสารการโฆษณา คุ้มครองผู้บริโภคในทุกชั้นเรียน 5.คณะนิเทศ/วารสารควร และองค์กรอิสระเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคควรส่งเสริมระบบเฝ้าระวังสื่อ ให้สื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์มากขึ้น
6.ส่งเสริมการวิจัยเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค 7.เวทีพัฒนานโยบายเพื่อผู้บริโภค ภาครัฐส่วนใหญ่ไม่เข้าข้างผู้เสียเปรียบ จำเป็นต้องใช้ 3 พลังคือพลังภาครัฐ วิชาการ และประชาสังคมเชื่อมโยงและมีเวทีพัฒนาเพื่อผู้บริโภค 8. ส่งเสริมธุรกิจไทยหัวใจมนุษย์ ที่มีความรับผิดชอบ 9.กองทุนเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคขนาดใหญ่เป็นพลังขับเคลื่อนส่งเสริมการทำระบบคุ้มครองผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ .