ทั่วโลกยกระดับ รับมือเชื้อไวรัสโคโรนา หลังระบาดเพิ่มหลายประเทศ

ทั่วโลกยกระดับมาตรการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังพบการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ ขณะที่เทศกาลตรุษจีนกำลังจะมาถึง

เว็บไซต์ www.pptvhd36.com รายงานว่า ข้อมูลจากเว็บไซต์ “Flightradar24” (ไฟลต์ เรดาร์ ทเวนตีโฟร์) ระบุว่า ระหว่างวันที่ 20 – 27 มกราคม เที่ยวบินเข้าออกสนามบินอู่ฮั่น อยู่ที่กว่า 2,300 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินภายในประเทศ 2,131 เที่ยวบิน และเที่ยวบินระหว่างประเทศอีก 205 เที่ยวบิน ซึ่งมีจุดหมายปลายทางไปยังเมืองใหญ่ๆ ทั้งในเอเชีย สหรัฐอเมริกา และยุโรป จึงมีความเป็นไปได้ว่า เชื้อจะแพร่ระบาดออกไปในเกือบทั่วทุกมุมโลก หากการเฝ้าระวังของแต่ละประเทศไม่ดีพอ

ขณะนี้ สนามบินในหลายประเทศทั่วโลกเร่งยกระดับมาตรการรับมือการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่ รวมถึงสั่งติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง นอกจากจะมีการตรวจวัดอุณหภูมิของผู้โดยสารขาเข้าทุกคนแล้ว ยังเพิ่มขั้นตอนการกรอกข้อมูลคัดกรองด้านสุขภาพสำหรับผู้โดยสารจากอู่ฮั่น ซึ่งผู้ที่ไม่แจ้งอาการ อาจต้องเสียค่าปรับหรือถูกจำคุกสูงสุด 6 เดือน

ด้านไต้หวัน ประกาศยกระดับการเตือนภัยด้านสาธารณสุขขึ้นสูงสุดเป็นลำดับ 2 สำหรับผู้ที่มีประวัติเดินทางเข้าออกเมืองอู่ฮั่น ขณะที่ประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน แถลงต่อสื่อ เรียกร้องให้ทางการจีนแบ่งปันข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการแพร่ระบาด และเรียกร้องไปยังองค์การอนามัยโลก (WHO) ไม่ให้กีดกันไต้หวันออกจากความร่วมมือในการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว โดยไต้หวันไม่ได้เป็นสมาชิกขององค์การอนามัยโลก เนื่องจากถูกรัฐบาลปักกิ่งคัดค้านมาโดยตลอด ขณะที่ประธานาธิบดีมูน แจ-อินของเกาหลีใต้ รับฟังบรรยายสรุปและสั่งการให้ใช้มาตรการกักกันโรคเต็มรูปแบบ รวมถึงสั่งประเมินผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย

ที่เกาหลีเหนือ มีรายงานว่าผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวเริ่มระงับทัวร์จากต่างชาติแล้ว เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศส่วนใหญ่เป็นชาวจีน

ส่วนกระทรวงสาธารณสุขของเวียดนาม สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดผ่านแดนมากขึ้น เนื่องจากการไหลเวียนของสินค้าและผู้คนเดินทางข้ามแดนจำนวนมากในแต่ละวัน ขณะที่สิงคโปร์จะดำเนินการแยกตัวผู้ป่วยที่มีประวัติเดินทางไปยังประเทศจีนในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ออกจากผู้ป่วยทั่วไป เพื่่อป้องกันการแพร่เชื้อในโรงพยาบาล

ที่มา : https://www.pptvhd36.com/news/ประเด็นร้อน/118158