'ผู้ป่วย'ติดเชื้ออู่ฮั่นรายแรกในไทยหายดีบินกลับจีนแล้ว
สธ. เผย ผู้ป่วยติดเชื้ออู่ฮั่นรายแรกในไทย หายดี พร้อมส่งขึ้นเครื่องบินกลับเมืองจีนเรียบร้อยแล้ว
เว็บไซต์ www.dailynews.co.th เมื่อวันที่ 19 ม.ค. นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป ในฐานะผู้บัญชาการของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กล่าวถึงความคืบหน้าการดูแลรักษานักท่องเที่ยวชาวจีนที่ป่วยปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งเดินทางเข้ามายังประเทศไทย นับเป็นรายแรกของไทย และรายแรกที่พบนอกประเทศจีน ว่า ขณะนี้ผู้ป่วยชาวจีนที่ป่วยปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ได้รับเข้ามาดูแลที่ห้องแยกโรคความดันเป็นลบ สถาบันบำราศนราดูร ตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ ผู้ป่วยหายดีแล้ว และจากการตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ (แลป) ของสิ่งส่งตรวจไม่พบเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้ว จึงอนุญาตให้กลับบ้าน และส่งตัวขึ้นเครื่องบินเมื่อวันคืนวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา
นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า เนื่องจากองค์การอนามัยโลกยังไม่มีประกาศห้ามเดินทางไปยังประเทศที่มีรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และขณะนี้เป็นช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีน จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น กระทรวงสาธารณสุข จึงได้กำหนดมาตรการเฝ้าระวังและแนวทางป้องกันการแพร่ระบาด 4 ด้าน1.เสริมการเฝ้าระวังโรค คัดกรองและคัดแยกผู้ป่วย โดยมีการคัดกรองผู้โดยสารเครื่องบินที่บินตรงมาจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน รวม 5 สนามบิน 2.คงมาตรฐานการวินิจฉัย การดูแลรักษา ผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์การสอบสวน 3.ระบบการส่งต่อผู้ป่วย เข้ารับการรักษาพยาบาลในห้องแยกความดันลบ ทั้งรพ.รัฐและเอกชน และ 4.เพิ่มการเฝ้าระวังในชุมชนแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการกับโรคติดต่ออุบัติใหม่แบบบูรณาการ
ด้าน นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผอ.สถาบันบำราศฯ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยรายแรกที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นั้น ทางสถาบันให้การรักษาและเฝ้าสังเกตอาการใน ห้องแยกเชื้อความดันลบอย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานสูงสุด จนอาการหายดีและตรวจไม่พบเชื้อไวรัส จึงให้กลับบ้านได้ ทั้งนี้ จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในความปลอดภัย และหากจำเป็นต้องเดินทางไป ในพื้นที่เสี่ยงขอให้ระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ ตลาดค้าสัตว์หรือสินค้าจากสัตว์ หรืออยู่ในสถานที่ที่คนหนาแน่น ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้มีอาการทางเดินหายใจ หากกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงและเริ่มมีอาการป่วย เช่น มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบขอให้รีบไปพบแพทย์พร้อมแจ้งประวัติ การเดินทาง กรณีพบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์โรคปอดอักเสบ ขอให้แจ้งสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 เพื่อให้รถจากสถานพยาบาลมารับทันที