ขมวด3ปมสำคัญ! ปัญหาเงินรางวัลแข่งฟุตบอลยูธลีก14 ล. ล่องหนไปอยู่ที่ใคร?
"...คำถามคือ ทำไมทีมฟุตบอลเหล่านี้ ต้องทวงถามก่อนถึงจะได้รับเงิน? เงินรางวัลที่นำมาจ่ายให้กับ ทีมสโมสรฟุตบอลหนองบัว พิชญ เอฟซี มาจากแหล่งไหน? แล้วทำไม ทีมสโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ชนะเลิศได้ที่ 1 ได้รับเงินรางวัล 1,500,000 บาท และสโมสรฟุตบอลนครราชสีมา มาสด้า ที่ชนะเลิศในอันดับ 3 ได้เงินรางวัล 300,000 บาท จนป่านนี้ถึงยังไม่ได้เงิน? ทั้งสองทีม ต้องทำเรื่องทวงถามเหมือนกันถึงจะได้รับเงินใช่หรือไม่..."
กลายเป็นประเด็นร้อนของคนในแวดวงกีฬาฟุตบอลไทยขึ้นมาทันที
เมื่อการจ่ายเงินรางวัลการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชน Thailand Youth League U-19 (รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี) ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่เสร็จสิ้นไปตั้งแต่เดือนส.ค.2562 ถูกร้องเรียนจากทีมสโมสรฟุตบอลที่ได้รับรางวัล ว่า จนถึงปัจจุบันผ่านมาหลายเดือนแล้ว ยังไม่ได้รับเงินรางวัล
ส่งผลทำให้ นายก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าฯ กกท. ต้องสั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมยืนยันว่า กกท.เซ็นอนุมัติงบประมาณในส่วนของเงินรางวัลไปนานแล้ว
จึงมีคำถามเกิดขึ้นตามมาว่า ทำไมจนป่านนี้ เงินรางวัลยังไม่ถึงมือทีมสโมสรฟุตบอลที่ได้รับรางวัลกันอีก? เงินไปตกหล่นอยู่ที่ไหน?
เพื่อสาธารณชนได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับที่มาที่ไปของปัญหานี้มากขึ้น
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ย้อนนำข้อเท็จจริงที่ได้รับจากการตรวจสอบกรณีนี้มานำเสนอแบบชัดๆ อีกครั้งดังนี้
จุดเริ่มต้น
เมื่อประมาณวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศราได้รับข้อมูลเอกสารการทำหนังสือร้องเรียนของนายวิวัฒน์ เอี่ยมแล้ ผู้จัดการสโมสรฟุตบอลหนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ทำหนังสือลงวันที่ 3 ม.ค. ถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในฐานะประธานกรรมการกีฬาอาชีพ เพื่อร้องเรียนปัญหาความล่าช้าในการจ่ายเงินรางวัลการแข่งขันฟุตบอล ลีกเยาวชน Thailand Youth League U-19 (รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี)
นายวิวัฒน์ ระบุในหนังสือว่า "ด้วยทางสโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี ได้จัดส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชน Thailand Youth League U-19 (รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี) ในนามชื่อทีม สมาคมกีฬาแห่งจังหวัดหนองบัวลําภู และทีมสมาคมฯ และได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ THE FINAL ณ จังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่วันที่ 7-18 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีเจ้าหน้าที่ของการกีฬาแห่งประเทศไทย คือ นายสมเกียรติ บุญเทียม ได้นําเอกสารใบสําคัญรับเงินมาให้ นายสุริยพงศ์ ศิลาปฏิพันธ์ ซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนเซ็นเอกสารไว้ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดใดๆทั้งสิ้นแล้วได้บอกกับ นายสุริยพงศ์ ว่าจะโอนเงินเข้าบัญชีตามข้อมูลที่ให้มาทีหลัง
ในการนี้การดําเนินจัดการแข่งขันกีฬาดังกล่าวได้เสร็จสิ้นลง ผลปรากฏว่าทีมฟุตบอล จาก ทีมสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดหนองบัวลําภูได้รับรางวัล รองชนะเลิศอันดับที่ 2 เป็นเงินรางวัลจํานวน 700,000 บาท (เจ็ดแสนบาทถ้วน) แต่ทั้งนี้ทางทีมฟุตบอลของสมาคมฯ ยังไม่ได้รับเงินรางวัลจํานวนดังกล่าว ล่วงเลยมาเป็นระยะเวลา 4 เดือน 15 วัน ทั้งที่ทางเจ้าหน้าที่ของทีมได้ติดตามทวงถามตลอดระยะเวลา แต่ได้คําตอบโดยบอกว่าทาง การกีฬาแห่งประเทศไทยยังไม่ได้จ่ายเงินออกมา และไม่มีรายละเอียดอื่นๆที่จะชี้แจง ให้ทางเรารับทราบ"
ขณะที่ นายวิวัฒน์ เอี่ยมแล้ ผู้จัดการสโมสรฟุตบอลหนองบัว พิชญ เอฟซี ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า "สโมสรที่ไปแข่งขันแล้วได้รองชนะเลิศ 3 อันดับนั้น ณ เวลานี้มีแค่สโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี เท่านั้นที่ได้เงินรางวัลหลังจากที่ไปร้องเรียนมา และเท่าที่พูดคุยกับสโมสรอื่นๆ ก็พบว่าสโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ชนะเลิศได้ที่ 1 และควรจะได้รับเงินรางวัล 1,500,000 บาท แต่ก็ยังไม่ได้เงินรางวัล เหมือนกับสโมสรฟุตบอลนครราชสีมา มาสด้าก็ยังไม่ได้เงินรางวัลเช่นกัน ซึ่งส่วนตัวก็สงสัยว่าทำไมในช่วงเวลาที่แข่งขันนั้นเงินค่าบริการต่างๆ อาทิ ค่าเดินทางมาแข่งกีฬาก็มักจะได้อย่างรวดเร็วเสมอ แต่ปรากฏว่าพอเป็นเงินรางวัลแข่งขันชนะเลิศ ถึงได้ค่อนข้างล่าช้า"
อย่างไรก็ดี นายวิวัฒน์ ยืนยันว่า หลังจากทำหนังสือร้องเรียนไปเมื่อวันที่ 3 ม.ค. ปรากฎว่า ได้รับเงินรางวัลจำนวน 7 แสนบาทแล้ว โดยได้ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 5 ม.ค.
โดยนายวิวัฒน์กล่าวทิ้งท้ายว่า "ผมว่าถ้าผมไม่ออกมาเรียกร้องในปัญหาเรื่องนี้ ป่านนี้ ผมก็คงยังไม่ได้เงินรางวัลเหมือนกัน"
หรือพูดง่าย ก็คือ ต้องให้ทำหนังสือทวงเงินก่อน แล้วเงินถึงจะเข้ามา
แต่ปัญหานี้ ดูเหมือนจะไม่ได้เกิดขึ้นกับ สโมสรฟุตบอลหนองบัว พิชญ เอฟซีเท่านั้น หากแต่ สโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ชนะเลิศได้ที่ 1 และควรจะได้รับเงินรางวัล 1,500,000 บาท และสโมสรฟุตบอลนครราชสีมา มาสด้าที่ชนะเลิศในอันดับ 3 ได้เงินรางวัล 300,000 บาท ก็ยังไม่ได้เงินรางวัลเช่นกัน
ระบบการจ่ายเงินรางวัลกกท.
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า เงินรางวัลสำหรับจัดแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชน Thailand Youth League U-19 (รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี) มีวงเงินรวม 4,583,648 บาท ทาง กกท. ได้ทำเรื่องอนุมัติไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมา พร้อมกับเงินรางวัลการแข่งขันฟุตบอลอีก 3 รุ่น คือ .การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนรุ่น 13 ปี ระหว่างวันที่ 3-14 ก.ค. 2562 จ.เชียงราย จำนวน 2,918,208 บาท, การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนรุ่น 15 ปีระหว่างวันที่ 19-30 มิ.ย. 2562 จ.ภูเก็ต จำนวน 3,538,784 บาท และ การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนรุ่น 17 ปีระหว่างวันที่ 16-27 ก.ค. 2562 จ.อุดรธานี จำนวน 3,564,448 บาท
การอนุมัติเบิกจ่ายเงินดังกล่าว ทำในลักษณะสัญญาเงินยืม คิดเป็นเงินทั้ง 4 รุ่น รวมทั้งสิ้น 14,605,088 บาท อนุมัติไปเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2562 และต้องส่งใช้ภายในกำหนด 15 วัน (ดูเอกสารประกอบ)
ที่น่าสนใจคือ นายวิษณุ ไล่ชะพิษ รองผู้ว่าการ กกท.ฝ่ายส่งเสริมกีฬา ให้ข้อมูลยืนยันสำนักข่าวอิศราว่า ระบบการเบิกจ่ายเงินรางวัลในโครงการแข่งขันกีฬาต่างๆ ของ กกท.นั้น ตามหลักการจะเป็นรูปแบบของการยืมเงิน แล้วไปเปิดบัญชีกลางเพื่อจะฝากเงินยืมเหล่านี้ ซึ่งตามหลักการแล้วหลังจากการแข่งขันเสร็จ จะต้องมีการโอนเงินจากบัญชีกลางไปสู่ทีมผู้ชนะการแข่งขัน ภายในเวลา 3 วัน
พร้อมตั้งข้อสังเกตใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ 1. ทำไมเงินที่จะต้องเบิกไปให้กับทีมที่ชนะนั้นช้ากว่า 3 วันมาก และ 2. บัญชีกลางที่ว่ามานั้น ณ ตอนนี้ยังมีเงินเหลืออยู่หรือไม่
นายวิษณุ ไล่ชะพิษ รองผู้ว่าการ กกท.ฝ่ายส่งเสริมกีฬา (อ้างอิงรูปภาพนายวิษณุจากเว็บไซต์ www.toyota.co.th)
ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา ได้พยายามติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ กกท. ที่ปรากฎชื่ออยู่ในเอกสารสัญญาเงินยืมดังกล่าว เพื่อให้ยืนยันข้อเท็จจริง ว่า เมื่อมีการทำสัญญายืมอนุมัติเบิกจ่ายเงินไปแล้ว ทำไมถึงมีการจ่ายเงินรางวัลล่าช้า เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ ระบุว่า ขอเวลาเตรียมข้อมูลสักพักก่อน แล้วจะชี้แจงสำนักข่าวอิศราอีกครั้ง แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการติดต่อเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงแต่อย่างใด
และนั้นจึงนำมาซึ่งคำถามสำคัญ ใน 3 ประเด็น คือ
1. ในเมื่อมีการอนุมัติทำสัญญาเงินยืมจ่ายเงินรางวัลไปแล้วตั้งแต่ เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2562 ซึ่งตามหลักการ จะต้องมีการโอนเงินจากบัญชีกลางไปสู่ทีมผู้ชนะการแข่งขัน ภายในเวลา 3 วัน ทำไมผ่านมาหลายเดือนแล้ว เงินยังไม่ถึงมือทีมฟุตบอลที่ได้รับรางวัลอีก?
2. เมื่อทีมสโมสรฟุตบอลหนองบัว พิชญ เอฟซี ทำหนังสือร้องเรียนถึงผู้ใหญ่ในแวดวงกีฬา วันที่ 3 ม.ค. เพื่อติดตามทวงถามเงินรางวัลจำนวน 7 แสนบาท ในช่วงเช้ามืดของวันที่ 5 ม.ค. ก็ได้รับเงินทันที
คำถามคือ ทำไมทีมฟุตบอลเหล่านี้ ต้องทวงถามก่อนถึงจะได้รับเงิน? เงินรางวัลที่นำมาจ่ายให้กับ ทีมสโมสรฟุตบอลหนองบัว พิชญ เอฟซี มาจากแหล่งไหน? แล้วทำไม ทีมสโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ชนะเลิศได้ที่ 1 ได้รับเงินรางวัล 1,500,000 บาท และสโมสรฟุตบอลนครราชสีมา มาสด้าที่ชนะเลิศในอันดับ 3 ได้เงินรางวัล 300,000 บาท จนป่านนี้ถึงยังไม่ได้เงิน? ทั้งสองทีม ต้องทำเรื่องทวงถามเหมือนกันถึงจะได้รับเงินใช่หรือไม่
3. เป็นคำถามเดียวกับที่ นายวิษณุ ไล่ชะพิษ รองผู้ว่าการ กกท.ฝ่ายส่งเสริมกีฬา ตั้งไว้ คือ บัญชีกลางที่ตั้งไว้รับโอนเงิน เพื่อจ่ายให้กับทีมฟุตบอลที่ได้รับรางวัลภายใน 3 วัน ตามระบบการจ่ายเงินของ กกท. ณ วันนี้ มียอดเงินเหลืออยู่เท่าไร เงินรางวัลรวม 14,605,088 บาท ที่กกท.อนุมัติจ่ายมาแล้ว ถูกโอนเข้าไปในบัญชีนี้หรือไม่? หากมีการโอนเงินเข้าไปแล้ว มีใครไปถอนเงินออกจากบัญชีนี้มาแล้วหรือไม่ ถ้ามีการเบิกถอนออกมาแล้วเอาเงินไปใช้ทำอะไร?
ทั้งหมดนี่ เป็นข้อสังเกตและคำถามสำคัญ เกี่ยวกับเบื้องหน้าเบื้องหลัง ปัญหาการจ่ายเงินรางวัลการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชน Thailand Youth League U-19 (รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี) ของ กกท. ที่เสร็จสิ้นไปตั้งแต่เดือนส.ค.2562 และถูกร้องเรียนจากทีมสโมสรฟุตบอลที่ได้รับรางวัล ว่า จนถึงปัจจุบันผ่านมาหลายเดือนแล้ว เงินรางวัลยังไม่ถึงมือทีมสโมสรฟุตบอลที่ได้รับรางวัลกันอีก โดยไม่รู้ว่าเงินรางวัลเหล่านี้ไปตกหล่นล่องหนอยู่ที่ไหน ที่กำลังอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกกท. อยู่ในขณะนี้
และน่าจะเป็นอีกกรณีหนึ่งที่สะท้อนภาพให้เห็นชัดเจนว่า แวดวงกีฬาของประเทศไทย เป็น 'แดนสนธยา' ที่ชวนให้เข้าไปขุดคุ้ยเรื่องราวที่ซ่อนเร้นอยู่จำนวนมากจริงๆ
อ่านประกอบ :
จาก 'เบิกเงินฮอกกี้' ถึง 'เจ็ตสกี'! สารพัดปัญหาร้อน กกท.บทพิสูจน์ฝีมือ 'ก้องศักดิ์' ปี 63
เงินรางวัลยูธลีกส่อพิรุธ! กกท.อนุมัติจ่ายตั้งแต่มิ.ย.62 ล่าสุด 'เมืองทอง' แชมป์ยังไม่ได้1.5 ล.
โวยแข่งเสร็จ 4 ด.ยังไม่ได้เงิน! 'ก้องศักดิ์' เต้นสั่งสอบปัญหาเบิกจ่ายรางวัลฟุตบอลยูธลีก
ปัญหาค้างเงินแข่งฟุตบอลไทยแลนด์ยูธลีกลาม! ทีม'สวาทแคท'คว้าอันดับสามยังไม่ได้ 3 แสน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/