ไทยพาณิชย์ จับมือธ.เอยาวดี เมียนมา พัฒนาบริการชำระและโอนเงินระหว่างประเทศ
ไทยพาณิชย์ จับมือธนาคารเอยาวดี เมียนมา พัฒนาบริการชำระและโอนเงินระหว่างประเทศเสริมศักยภาพธุรกรรมทางการเงินระหว่างไทย-เมียนมา เพื่อเอสเอ็มอีและรายย่อย
ธนาคารไทยพาณิชย์ รุกธุรกิจเมียนมาต่อเนื่อง จับมือธนาคารเอยาวดี (Ayeyarwady Bank หรือ AYA Bank) ธนาคารที่มีขนาดสินทรัพย์อันดับ 2 ของเมียนมา ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาบริการชำระเงินข้ามพรมแดนและการโอนเงินระหว่างประเทศ (Cross Border Payments and Fund Transfer) เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างประเทศไทยและเมียนมาสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและลูกค้ารายย่อย กรอบความร่วมมือดังกล่าวยังรวมถึงการศึกษาทดลองแลกเปลี่ยนเงินระหว่างสกุลเงินบาทและสกุลจ๊าดโดยตรง ระหว่างธนาคารทั้งสอง โดยคาดหวังว่าจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ทำการค้าชายแดน รวมถึงลูกค้ารายย่อยที่เดินทางมาทำงานในประเทศไทยเปลี่ยนมาทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางธนาคารซึ่งมีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
ทั้งสองธนาคารพร้อมขานรับนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารกลางเมียนมาในการยกระดับการชำระเงินระหว่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือในการศึกษาทดลองให้ใช้เงินสกุลบาทเป็นสกุลเงินในการชำระค่าสินค้าระหว่างกัน โดยมีนายกมัลกานต์ อากาวัล ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจต่างประเทศ นางอภิรดี สินสุขเพิ่มพูน ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานธุรกิจต่างประเทศ นางสาววิทิตา ถิระพร ผู้จัดการสำนักงานผู้แทนธนาคารไทยพาณิชย์ย่างกุ้ง ธนาคารไทยพาณิชย์ นายเมียน ซอ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเอยาวดี ร่วมพิธีลงนามเมื่อเร็วๆ นี้ ณ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
ปัจจุบันการลงทุนโดยตรงจากระเทศไทยไปยังเมียนมาใน 5 ปีที่ผ่านมามีมูลค่าสูงถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ถือเป็นอันดับที่ 5 ของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศทั้งหมด ความร่วมมือระหว่างกันในครั้งนี้จะสนับสนุนให้การค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ให้บริการและอำนวยความสะดวกทางการเงินสำหรับลูกค้าไทยและลูกค้าเมียนมาผ่านสำนักงานผู้แทนย่างกุ้งนับตั้งแต่ปี 2555 โดยสนับสนุนให้เกิดการลงทุนโดยตรง และสนับสนุนธนาคารท้องถิ่นซึ่งเป็นธนาคารพันธมิตรโดยการให้วงเงินเพื่อสนับสนุนการค้าระหว่างประเทศ
สำหรับ AYA Bank ก่อตั้งในปี 2553 ด้วยศักยภาพที่แข็งแกร่งสามารถพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างรวดเร็ว ก้าวขึ้นเป็นธนาคารที่มีสินทรัพย์มากเป็นอันดับ 2 ของเมียนมา ให้บริการผ่านช่องทางสาขาจำนวน 258 แห่ง มีลูกค้าจำนวน 2.5 ล้านบัญชี และปัจจุบันได้เปิดให้บริการผ่านช่องทางโมบายแอพพลิเคชั่นเพื่อรองรับการเติบโตของโลกการเงินดิจิทัล