7 สภาองค์การนายจ้าง ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ประกันสังคมเหลื่อมล้ำ ขัด รธน.
สภาองค์การนายจ้าง 7 องค์กร ยื่นหนังสือเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรียกร้องแก้ไขกฎหมายประกันสังคม เหตุขัดรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 30 ที่กำหนดว่าการเลือกปฏิบัติในเรื่องสุขภาพจะกระทำมิได้
โดยนายประสิทธิ์ จงอัศญากุล ประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ค้าและบริการเครื่องอุปโภคบริโภค กล่าวว่ากฎหมายมีความเหลื่อมล้ำเพราะ พ.ร.บ.ประกันสังคมเกิดขึ้นในปี 2533 ขณะที่ปี 2550 มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และมีการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) หรือบัตรทองเพื่อดูแลประชาชน โดยมีรัฐเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องงบประมาณ ขณะที่กลุ่มผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมยังต้องจ่ายเงินสมทบทุกเดือนเพื่อสิทธิในการรักษาพยาบาลตนเอง รวมทั้งถูกตัดสิทธิในการใช้บัตรทองด้วย ซึ่งหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปจะเกิดความขัดแย้งในสังคม
"เราอยากให้รัฐดูว่ากฎหมายประกันสังคมขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะคนอื่นรักษาฟรีแต่ผู้ประกันตนต้องจ่ายสมทบ"นายประสิทธิ์กล่าว
นายประสิทธิ์ กล่าวว่าในฐานะนายจ้างเห็นว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ที่จะต้องเสนอ ประเด็นสำคัญที่สุดคือต้องมีการแก้กฎหมายให้รัฐดูแลสุขภาพของประชาชนโดยเท่าเทียมกัน ส่วนการแก้ไขปัญหาของ สปส.ด้วยการพยายามปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ยังเป็นการแก้ ปัญหาที่ไม่ตรงจุด เพราะที่สุดแล้วรัฐยังไม่ได้ดูแลประชาชนอย่างเท่าเทียมกันอยู่ดี
นายประสิทธิ์ ยังกล่าวว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการลดต้นทุนการจ่ายเงินสมทบของนายจ้าง เพราะยังต้องจ่ายสมทบเท่าเดิม แต่เรียกร้องให้รัฐเข้ามาดูแลการรักษาพยาบาลฟรี แล้วนำเงินสมทบที่จ่ายสำหรับ การรักษาพยาบาลเดิมไปเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านอื่นแทน ไม่ว่าจะเป็นสงเคราะห์บุตรหรือเงินบำนาญชราภาพ
"เหมือนซื้อกาแฟ ผมจ่าย 10 บาท อีกคนไม่ได้จ่าย กาแฟผมยังขมกว่า จะบอกว่าเดี๋ยวเพิ่มน้ำตาลให้จะได้หวานเท่ากันก็ไม่ถูก เพราะผมยังจ่าย 10 บาทอยู่ จริงๆต้องได้ฟรี จะได้เอาเงินไปซื้ออย่างอื่น"นายประสิทธิ์กล่าว
ทั้งนี้หลังจากยื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว สภาองค์การนายจ้างจะเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน(กสม.) และหากไม่มีความคืบหน้าจากฝ่ายรัฐบาล อาจฟ้องศาลปกครองต่อไป
นายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิม เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่าเบื้องต้นจะพิจารณาว่าคำร้องอยู่ในอำนาจหรือไม่ จากนั้นจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อเท็จจริง ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน สปสช.และสปส. รวมทั้งศึกษาความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายประกอบการพิจารณา และหากข้อร้องเรียนเป็นประเด็นทางกฎหมายจะทำเรื่องเสนอศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองต่อไป โดยทั้งหมดนี้จะเห็นความชัดเจนภายใน 1-2 เดือน .
ที่มาภาพ : http://new.goosiam.com/news2/html/0017361.html