เปิดสัญญา จัดซื้อไบโอเมตริกซ์ 2.1 พันล. แบ่งงาน/จ่ายเงิน 6 งวด กำหนดค่าปรับวันละ 0.2%
“...เมื่อครบกำหนดติดตั้งและส่งมอบคอมพิวเตอร์ตามสัญญาข้อ 4 แล้ว ถ้าผู้ขายยังไม่ติดตั้ง และส่งมอบคอมพิวเตอร์บางรายการหรือทั้งหมดให้แก่ผู้ซื้อภายในกำหนดเวลาดังกล่าว หรือส่งมอบคอมพิวเตอร์ไม่ตรงตามสัญญาข้อ 1 หรือมีคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามสัญญาข้อ 2 หรือติดตั้งแล้วเสร็จและส่งมอบภายในกำหนด แต่ใช้งานไม่ได้ครบถ้วนตามสัญญาข้อ 4 ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาทั้งหมดหรือบางส่วนได้...”
"โครงการไม่มีปัญหา ทุกอย่างดำเนินการตามขั้นตอน"
"เรื่องการส่งมอบงานโครงการมีการกำหนดแบ่งงวดงานไว้สำหรับการจ่ายเงินค่าจ้าง แต่บางงวดงานที่เอกชนทำไม่ทัน เขาก็อาจจะไปเร่งงานในงวดอื่นแทน เพื่อให้งานทั้งหมดส่งมอบทันตามเวลาที่กำหนดในสัญญาได้ และงานนี้เป็นการทำงานทั้งระบบ ไม่ได้เป็นการจ้างงานแบบแยกชิ้น"
"่ส่วนปัญหาความล่าช้าในการทำงาน นั้น ต้องเรียนว่ามีปัญหาเกิดขึ้นในการทำงานบางพื้นที่งานจริง แต่ปัญหาไม่ได้เกิดจากฝ่ายเอกชน แต่เกิดจากความไม่พร้อมของตัวสนามบินเอง เช่นที่อุบลฯ งานในส่วนของสนามบินยังไม่เรียบร้อย ทำให้เอกชนไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ได้ และงานในความรับผิดชอบของสนามบินก็เป็นพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมท่าอากาศยาน ไม่ใช่หน่วยงานของตำรวจด้วย แต่ก็ต้องพยายามหาทางแก้ไขปัญหากันไป"
คือ คำให้สัมภาษณ์ยืนยันของ พล.ต.ท. ติณภัทร ภุมรินทร์ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยี Biometrics (ลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า) ระยะที่ 1 ที่ให้กับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2563 ที่ผ่านมา
อันเป็นผลสืบเนื่องจากกรณี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ'บิ๊กโจ๊ก' ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน กรณีถูกคนร้ายลอบยิงรถยนต์ เมื่อคืนวันที่ 7 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าเกิดจากสมัยตนดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการสำนักตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) และสั่งการให้มีการตรวจสอบโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลแบบลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า (ไบโอเมตริกซ์) พร้อมกับมีหนังสือถึง ผู้บังคับบัญชาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขอให้ยกเลิกโครงการนี้ เนื่องจากเกิดความล่าช้าและส่งงานไม่ทัน
ขณะที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ออกมา ‘รับลูก’ ต่อทันที โดยการยื่นเรื่องร้องเรียนโครงการดังกล่าวต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ไต่สวนข้อเท็จจริงใน 2 ประเด็นหลัก คือ
1.การส่งมอบครุภัณฑ์ไบโอเมตริกซ์ ที่กำหนดให้เอกชนส่งมอบแก่ สตช. ภายใน 660 วัน แบ่งออกเป็น 6 งวดนั้น พบว่า งวดที่ 1 เลยกำหนดการส่งมอบ 30 วัน งวดที่ 2 เลยกำหนดการส่งมอบ 106 วัน งวดที่ 3 เลยกำหนดการส่งมอบ 177 วัน งวดที่ 4 เลยกำหนดการส่งมอบกว่า 9 เดือน ขณะที่งวดที่ 5 ต้องส่งมอบภายในวันที่ 4 ต.ค. 2561 และงวดที่ 6 ต้องส่งมอบภายในวันที่ 2 พ.ค. 2562 อย่างไรก็ดีนายษิทรา อ้างว่า ในช่วงที่ไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ยังไม่มีการส่งมอบงานงวดที่ 5 และ 6 แต่อย่างใด
2.ประสิทธิภาพในการทำงานของครุภัณฑ์ไบโอเมตริกซ์ นายษิทรา ระบุว่า โครงการดังกล่าวไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งในพื้นที่ที่ไม่จำเป็นต้องใช้งาน ทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร รวมถึงมีการรายงานปัญหาดังกล่าวไปยังบริษัทคู่สัญญา แต่ไม่ได้มีการแก้ไขใด ๆ นอกจากนี้ในการส่งมอบงานบางงวดเอกชนยังไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนดนัด แต่ สตช. เซ็นตรวจรับงานให้ก่อน เพื่อไม่ให้เอกชนเสียเงินค่าปรับวันละ 5 ล้านบาท (อ่านประกอบ : 'อิศรา' ถาม- 'พล.ต.ท. ติณภัทร' ตอบ! จัดซื้อไบโอเมตริกซ์ 2.1 พันล. มีปัญหาจริงหรือ?, เจาะปม 'บิ๊กโจ๊ก' แฉซื้อเครื่องไบโอเมตริกซ์ สตม 2.1 พันล. ป.ป.ช.ลุยสอบ-สะเทือน ผบ.ตร.?)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบสัญญาซื้อขายครุภัณฑ์โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยี Biometrics (ลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า) ระยะที่ 1 วงเงิน 2.1 พันล้านบาท ดังกล่าว เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อกำหนดเรื่องการส่งมอบงาน และการเรียกค่าปรับจากเอกชน
พบรายละเอียดดังนี้
สัญญาฉบับนี้ทำขึ้น ณ สำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2560 ระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ท. ติณภัทร ภุมรินทร์ ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังบำรุง (ในขณะนั้น) เป็นผู้แทน ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ซื้อ” ฝ่ายหนึ่ง กับ กิจการค้าร่วม เอ็มที ทำการตามสัญญาฉบับลงวันที่ 29 เม.ย. 2560 โดยมี บริษัท เอ็มเอสซี สิทธิผล จำกัด ในฐานะตัวแทนหลัก โดย นายศรายุทธ ณศิลา ผู้รับมอบอำนาจ เป็นผู้แทน ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “ผู้ขาย” อีกฝ่ายหนึ่ง
ข้อ 1 ข้อตกลงซื้อขาย
ผู้ซื้อตกลงซื้อและผู้ขายตกลงขายและติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การประมวลผล ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของ HP/HPE , Dermalog , Radware , Sophos , APC , Oracle , Microsoft , Trend Micro , Lenovo , Cleanline , P Power C ซึ่งต่อไปในสัญญานี้เรียกว่า “คอมพิวเตอร์” ตามรายละเอียดแนบท้ายสัญญาในผนวก 1 รวมเป็นราคาคอมพิวเตอร์และค่าติดตั้งทั้งสิ้น 2,116,000,000 บาท ซึ่งได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม จำนวน 138,429,906.54 บาท ตลอดจนภาษีอากรอื่น ๆ และค่าใช้จ่ายทั้งปวงด้วยแล้ว
ในกรณีที่ผู้ขายประสงค์จะนำคอมพิวเตอร์รายการใด ต่างไปจากรายละเอียดที่กำหนดไว้ในผนวก 1 มาติดตั้งให้ผู้ซื้อ ผู้ขายจะต้องได้รับความเห็นชอบเป็นหนังสือจากผู้ซื้อก่อน และคอมพิวเตอร์ที่จะนำมาติดตั้งดังกล่าวนั้น จะต้องมีคุณสมบัติไม่ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ในผนวก 1
ข้อ 4 การส่งมอบ
ผู้ขายจะติดตั้งคอมพิวเตอร์ที่ซื้อขายตามสัญญานี้ ให้ถูกต้องและครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในข้อ 1 แห่งสัญญานี้ให้พร้อมที่จะใช้งานได้ตามรายละเอียดการทดสอบแนบท้ายสัญญาผนวก 3 ให้แก่ผู้ซื้อ ณ หน่วยงานภายใต้การปกครองของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อภายใน 660 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญา โดยครบกำหนดวันที่ 2 พ.ค. 2562 รวม 6 งวด ตามรายละเอียด ดังนี้
งวดที่ 1 ภายใน 60 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญา โดยครบกำหนดวันที่ 9 ก.ย. 2560 เมื่อผู้ขายได้ส่งมอบแผนการดำเนินงาน และบริหารทั้งโครงการ พร้อมแผ่น CD ตามจำนวนที่ทางราชการกำหนด โดยมีรายละเอียดอย่างน้อยคือ การสำรวจสถานที่ตั้ง การออกแบบระบบ การส่งมอบอุปกรณ์ในแต่ละส่วน การติดตั้งอุปกรณ์ และภาพรวมการเชื่อมโยงของระบบ การทดสอบ การตรวจรับ การรับประกัน การฝึกอบนม
งวดที่ 2 ภายใน 150 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญา โดยครบกำหนดวันที่ 8 ธ.ค. 2560 เมื่อผู้ขายได้ดำเนินการดังนี้
- ส่งมอบอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ ตามคุณลักษณะเฉพาะของคอมพิวเตอร์ที่กำหนดไว้ในผนวก 2 ข้อ 2.15 รายการที่ 1.1-1.17 และรายการที่ 3.2-3.5
- ส่งมอบรายละเอียดการวิเคราะห์ และออกแบบระบบงาน
งวดที่ 3 ภายใน 210 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญา โดยครบกำหนดวันที่ 6 ก.พ. 2561 เมื่อผู้ขายดำเนินการดังนี้
- ส่งมอบอุปกรณ์ ตามคุณลักษณะเฉพาะของคอมพิวเตอร์ที่กำหนดไว้ในผนวก 2 ข้อ 2.15 รายการที่ 5.1-5.4 ที่จุดตรวจท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง
- ส่งมอบซอฟต์แวร์ ตามคุณลักษณะของคอมพิวเตอร์ที่กำหนดไว้ในผนวก 2 ข้อ 2.15 รายการที่ 3.1 , 3.6 และ 3.7 ตามจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ส่งมอบ
- ติดตั้งระบบงานพร้อมทดสอบระบบ สำหรับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง
- รายงานการทดสอบระบบ ประจำท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง
- จัดฝึกอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการประจำท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง พร้อมรายงานผลการฝึกอบรม
งวดที่ 4 ภายใน 300 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญา โดยครบกำหนดวันที่ 7 พ.ค. 2561 เมื่อผู้ขายได้ดำเนินการดังนี้
- ส่งมอบอุปกรณ์ ตามคุณลักษณะเฉพาะของคอมพิวเตอร์ที่กำหนดไว้ในผนวก 2 ข้อ 2.15 รายการที่ 4.1-4.4 และรายการที่ 5.1-5.5 ที่จุดตรวจท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานแห่งอื่น ๆ ที่เหลือ
- ส่งมอบซอฟต์แวร์ ตามคุณลักษณะเฉพาะของคอมพิวเตอร์ที่กำหนดไว้ในผนวก 2 ข้อ 2.15 รายการที่ 3.6 และ 3.7 ตามจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ส่งมอบ
- ติดตั้งระบบงานพร้อมทดสอบระบบ สำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานแห่งอื่น ๆ ที่เหลือ
- รายงานการทดสอบระบบ ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานแห่งอื่น ๆ ที่เหลือ
- จัดฝึกอบรมแก่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่ากาศยานแห่งอื่น ๆ ที่เหลือ พร้อมรายงานผลการฝึกอบรม
งวดที่ 5 ภายใน 450 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญา โดยครบกำหนดวันที่ 4 ต.ค. 2561 เมื่อผู้ขายได้ดำเนินการดังนี้
- ส่งมอบอุปกรณ์ ตามคุณลักษณะของคอมพิวเตอร์ที่กำหนดไว้ในผนวก 2 ข้อ 2.15 รายการที่ 7.1-7.3 ที่หน่วยงานสืบสวนในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรายการที่ 8.1-8.5 ที่หน่วยงานสืบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 23 แห่ง
- ส่งมอบซอฟต์แวร์ ตามคุณลักษณะเฉพาะของคอมพิวเตอร์ที่กำหนดไว้ในผนวก 2 ข้อ 2.15 รายการที่ 3.6-3.7 ตามจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ส่งมอบ
- ติดตั้งระบบงานพร้อมทดสอบระบบ ตามคุณลักษณะเฉพาะของคอมพิวเตอร์ที่กำหนดไว้ในผนวก 2 ข้อ 2.15 รายการที่ 2.8
- รายงานการทดสอบระบบและฝึกอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการประจำหน่วยงานสืบสวนในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- ส่งมอบระบบ ตามคุณลักษณะเฉพาะของคอมพิวเตอร์ที่กำหนดไว้ในผนวก 2 ข้อ 2.15 รายการที่ 2.9-2.10
งวดที่ 6 ภายใน 660 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญา โดยครบกำหนดวันที่ 2 พ.ค. 2562 เมื่อผู้ขายดำเนินการดังนี้
- ส่งมอบอุปกรณ์ ตามคุณลักษณะเฉพาะของคอมพิวเตอร์ที่กำนหดไว้ในผนวก 2 ข้อ 2.15 รายการที่ 6.1-6.5 ที่จุดตรวจ ด่านคนเข้าเมืองอื่น ๆ และรายการที่ 9.1-9.9 ที่หน่วยงานบริการตรวจคนเข้าเมืองส่วนกลาง พร้อมทดสอบระบบงานและฝึกอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองอื่น ๆ และที่หน่วยงานบริการตรวจคนเข้าเมืองส่วนกลาง
- ส่งมอบซอฟต์แวร์ ตามคุณลักษณะเฉพาะของคอมพิวเตอร์ที่กำหนดไว้ในผนวก 2 ข้อ 2.15 รายการที่ 3.6-3.7 ตามจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ส่งมอบ
- ส่งมอบอุปกรณ์ เอกสารคู่มือ พร้อมทดสอบระบบ และ Source Code ตามคุณลักษณะเฉพาะของคอมพิวเตอร์ที่กำหนดไว้ในผนวก 2 ข้อ 2.15 รายการที่ 2.1-2.7 และข้อ 6.2 เมื่อเสร็จสิ้นการติดตั้ง
- จัดการฝึกอบรมพร้อมรายงานผลการฝึกอบรมในส่วนที่เหลือทั้งหมด
- ส่งมอบงานที่เหลือทั้งหมดถูกต้องครบถ้วนตามสัญญา
ผู้ขายจะต้องแจ้งกำหนดเวลาติดตั้งแล้วเสร็จพร้อมที่จะใช้งานและส่งมอบคอมพิวเตอร์ได้โดยทำเป็นหนังสือยื่นต่อผู้ซื้อ ณ สำนักงานส่งกำลังบำรุง ในเวลาราชการก่อนวันกำหนดส่งมอบไม่น้อยกว่า 15 วันทำการ
ผู้ขายจะต้องออกแบบสถานที่ติดตั้งคอมพิวเตอร์รวมทั้งระบบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามมาตรฐานของผู้ขายและได้รับความเห็นชอบจากผู้ซื้อ และผู้ขายต้องจัดหาเจ้าหน้าที่มาให้คำแนะนำและตรวจสอบความถูกต้องเหมาะสมของสถานที่ให้ทันต่อการติดตั้งคอมพิวเตอร์โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ จากผู้ซื้อถายใน 60 วัน นับถัดจากวันลงนามสัญญานี้
ข้อ 6 การตรวจรับ
เมื่อผู้ซื้อได้ตรวจรับคอมพิวเตอร์ถูกต้องครบถ้วนตามสัญญานี้แล้ว ผู้ซื้อจะออกหลักฐานการรับมอบไว้เป็นหนังสือ เพื่อผู้ขายนำมาใช้เป็นหลักฐานประกอบการขอรับเงินค่าคอมพิวเตอร์
ถ้าผลของการตรวจรับปรากฏว่า คอมพิวเตอร์ที่ผู้ขายส่งมอบไม่ตรงตามสัญญาข้อ 1 หรือมีคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามสัญญาข้อ 2 หรือใช้งานได้ไม่ครบถ้วนตามสัญญาข้อ 4 ผู้ซื้อทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะไม่รับคอมพิวเตอร์นั้น ในกรณีเช่นว่านี้ผู้ขายจ้ะองรีบนำคอมพิวเตอร์นั้นกลับคืนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และนำคอมพิวเตอร์มาส่งมอบให้ใหม่ หรือต้องทำการแก้ไขให้ถูกต้องตามสัญญาด้วยค่าใช้จ่ายของผู้ขายเอง และระยะเวลาที่เสียไปเพราะเหตุดังกล่าวผู้ขายจะนำมาอ้างเป็นเหตุขอขยายเวลาทำการตามสัญญาหรือของดหรือลดค่าปรับไม่ได้
ข้อ 7 การชำระเงิน
ผู้ซื้ออตกลงชำระเงินค่าคอมพิวเตอร์ให้แก่ผู้ขาย ดังนี้
7.1 เงินล่วงหน้า จำนวน 15% ของราคาตามสัญญา เป็นเงินทั้งสิ้น 317,400,000 บาท จะจ่ายภายใน 30 วัน นับถัดจากวันทำสัญญานี้ ทั้งนี้ โดยผู้ขายจะต้องนำหลักประกันเงินล่วงหน้าเป็นหนังสือค้ำประกันของธนาคารภายในประเทศหรือพันธบัตรรัฐบาลไทย เต็มตามจำนวนเงินล่วงหน้าที่จะได้รับมอบให้แก่ผู้ซื่อเป็นหลักประกันการชำระเงินคืนเงินล่วงหน้าก่อนการรับชำระเงินล่วงหน้าเท่านั้น
ผู้ซื้อจะคืนเงินหลักประกันเงินล่วงหน้าให้แก่ผู้ขายเมื่อผู้ซื้อได้รับมอบสิ่งของ ตามข้อ 6 ไว้โดยครบถ้วนแล้ว
7.2 เงินที่เหลือ จำนวน 85% ของราคาตามสัญญา เป็นเงินทั้งสิ้น 1,798,600,000 บาท จะจ่ายให้กับผู้ขาย ดังนี้
งวดที่ 1 จำนวน 5% ของราคาตามสัญญา เป็นเงินทั้งสิ้น 105,800,000 บาท เมื่อผู้ขายดำเนินงานตามงวดงานที่ 1 และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ทำการตรวจรับไว้ครบถ้วนถูกต้องเรียบร้อยแล้ว
งวดที่ 2 จำนวน 5% ของราคาตามสัญญา เป็นเงินทั้งสิ้น 105,800,000 บาท เมื่อผู้ขายดำเนินงานตามงวดงานที่ 2 และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ทำการตรวจรับไว้ครบถ้วนถูกต้องเรียบร้อยแล้ว
งวดที่ 3 จำนวน 20% ของราคาตามสัญญา เป็นเงินทั้งสิ้น 423,200,000 บาท เมื่อผู้ขายดำเนินงานตามงวดงานที่ 3 และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ทำการตรวจรับไว้ครบถ้วนถูกต้องเรียบร้อยแล้ว
งวดที่ 4 จำนวน 15% ของราคาตามสัญญา เป็นเงินทั้งสิ้น 317,400,000 บาท เมื่อผู้ขายดำเนินงานตามงวดงานที่ 4 และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ทำการตรวจรับไว้ครบถ้วนถูกต้องเรียบร้อยแล้ว
งวดที่ 5 จำนวน 10% ของราคาตามสัญญา เป็นเงินทั้งสิ้น 211,600,000 บาท เมื่อผู้ขายดำเนินงานตามงวดงานที่ 5 และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ทำการตรวจรับไว้ครบถ้วนถูกต้องเรียบร้อยแล้ว
งวดที่ 6 จำนวน 30% ของราคาตามสัญญา เป็นเงินทั้งสิ้น 634,800,000 บาท เมื่อผู้ขายดำเนินงานตามงวดงานที่ 6 และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ทำการตรวจรับไว้ครบถ้วนถูกต้องเรียบร้อยแล้ว
การจ่ายเงินตามสัญญานี้ ผู้ซื้อจะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของธนาคารของผู้ขาย ทั้งนี้ผู้ขายเป็นผู้รับภาระเงินค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการอื่นใดเกี่ยวกับการโอนที่ธนาคารเรีบกเก็บ และยินยอมให้มีการหักเงินดังกล่าวจากจำนวนเงินโอนในงวดนั้น ๆ
ข้อ 9 หลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา
ในวันทำสัญญานี้ ผู้ขายได้นำหลักประกันเป็นหนังสือค้ำประกัน เป็นจำนวน 105,800,000 บาท เป็นจำนวน 5% ของราคาขายคอมพิวเตอร์ตามสัญญาข้อ 1 มามอบให้แก่ผู้ซื้อ เพื่อเป็นประกัน การปฏิบัติตามสัญญานี้
หลักประกันที่ผู้ขายนำมามอบ ผู้ซื้อจะคืนให้เมื่อผู้ขายพ้นจากข้อผูกพันตามสัญญานี้แล้ว
ข้อ 14 การบอกเลิกสัญญา
เมื่อครบกำหนดติดตั้งและส่งมอบคอมพิวเตอร์ตามสัญญาข้อ 4 แล้ว ถ้าผู้ขายยังไม่ติดตั้ง และส่งมอบคอมพิวเตอร์บางรายการหรือทั้งหมดให้แก่ผู้ซื้อภายในกำหนดเวลาดังกล่าว หรือส่งมอบคอมพิวเตอร์ไม่ตรงตามสัญญาข้อ 1 หรือมีคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามสัญญาข้อ 2 หรือติดตั้งแล้วเสร็จและส่งมอบภายในกำหนด แต่ใช้งานไม่ได้ครบถ้วนตามสัญญาข้อ 4 ผู้ซื้อมีสิทธิบอกเลิกสัญญาทั้งหมดหรือบางส่วนได้
ในกรณีที่ผู้ซื้อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ซื้อมีสิทธิริบหลักประกันหรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกหนังสือค้ำประกันตามสัญญาข้อ 7 และข้อ 9 เป็นจำนวนเงินทั้งหมดหรือแต่บางส่วนได้ แล้วแต่ผู้ซื้อจะเห็นสมควร และถ้าผู้ซื้อจัดซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะจำนวนที่ขาดส่ง แล้วแต่กรณีภายในกำหนด 3 เดือน นับแต่วันบอกเลิกสัญญา ผู้ขายจะต้องชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากราคาที่กำหนดไว้ใรสัญญานี้ด้วย
ในกรณีที่ผู้ขายได้ส่งมอบคอมพิวเตอร์ให้แก่ผู้ซื้อ และผู้ซื้อบอกเลิกสัญญาผู้ขายจะต้องนำคอมพิวเตอร์กลับคืนไป ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ผู้ซื้อบอกเลิกสัญญา โดยผู้ขายจะเป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายเองทั้งสิ้น
ถ้าผู้ขายไม่ยอมนำคอมพิวเตอร์กลับคืนไปภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ผู้ซื้อจะกำหนดเวลาให้ผู้ขายนำคอมพิวเตอร์กลับคืนไปอีกครั้ง หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ผู้ขายยังไม่นำคอมพิวเตอร์กลับคืนไปอีก ผู้ซื้อมีสิทธินำคอมพิวเตอร์ออกขายทอดตลาด เงินที่ได้จากการขายทอดตลาด ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อหักเป็นค่าปรับและหักเป็นค่าใช้จ่ายและค่าเสียหายที่เกิดแก่ผู้ซื้อ ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ผู้ซื้อได้เสียไปในการดำเนินการขายทอดตลาดคอมพิวเตอร์ ดังกล่าว ค่าใช้จ่ายในการทำสภานที่ที่รื้อถอนคอมพิวเตอร์ออกไป ให้มีสภาพดังที่มีอยู่ก่อนทำสัญญานี้ เงินที่เหลือจากการหักค่าเสียหายแล้ว ผู้ซื้อจะคืนให้แก่ผู้ขายในระหว่างคอมพิวเตอร์อยู่ในความครอบครองของผู้ซื้อ นับตั้งแต่วันผู้ซื้อบอกเลิกสัญญา ผู้ซื้อไม่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายใด ๆ ทั้งสิ้น อันเกิดแก่คอมพิวเตอร์อันมิใช่ความผิดของผู้ซื้อ
ข้อ 15 ค่าปรับ
ในกรณีที่ผู้ซื้อยังไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาตามข้อ 14 ผู้ขายจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ผู้ซื้อเป็นรายวัน ในอัตรา 0.20% ของราคาคอมพิวเตอร์ที่ยังไม่ได้รับมอบ นับแต่วันถัดจากครบกำหนดตามสัญญาจนถึงวันที่ผู้ขายได้นำคอมพิวเตอร์มาส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อ จนถูกต้องครบถ้วน
การคิดค่าปรับในกรณีที่คอมพิวเตอร์ที่ตกลงซื้อขายเป็นระบบ ถ้าผู้ขายส่งมอบเพียงบางส่วนหรือขาดส่วนประกอบส่วนหนึ่งส่วนใดไป หรือส่งมอบทั้งหมด แต่ใช้งานไม่ได้ถูกต้องครบถ้วน ตามผนวก 3 ให้ถือว่ายังไม่ได้ส่งมอบคอมพิวเตอร์นั้นเลย และคิดค่าปรับจากราคาคอมพิวเตอร์ทั้งระบบ
ในระหว่างที่ผู้ซื้อยังไม่ได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญานั้น ถ้าผู้ซื้อเห็นว่าผู้ขายยังไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาต่อไปได้ ผู้ซื้อจะใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา และริบหลักประกันหรือเรียกร้องจากธนาคารผู้ออกหนังสือค้ำประกันตามสัญญาข้อ 7 และข้อ 9 กับเรียกร้องให้ชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นตามที่กำหนดไว้ในสัญญาข้อ 14 วรรสองก็ได้ และถ้าผู้ซื้อได้แจ้งข้อเรียกร้องให้ชำระค่าปรับไปยังผู้ขาย เมื่อครบกำหนดส่งมอบแล้ว ผู้ซื้อมีสิทธิที่จะปรับผู้ขายจนถึงวันบอกเลิกสัญญาได้อีกด้วย
ข้อ 16 การรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย
ถ้าผู้ขายไม่ปฏิบัติตามสัญญาข้อหนึ่งข้อใดด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ซื้อแล้ว ผู้ขายจะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ซื้อโดยสิ้นเชิง ภายในกำหนด 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากผู้ซื้อ
ข้อ 17 การขอขยายเวลาส่งมอบ
ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย หรือเหตุใด ๆ อันเนื่องมาจากความผิดหรือความบกพรองของฝ่ายผู้ซื้อหรือจากพฤติการณ์อันหนึ่งอันใด ซึ่งผู้ขายไม่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมายเป็นเหตุให้ผู้ขายไม่สามารถส่งมอบคอมพิวเตอร์ตามเงื่อนไขและกำหนดเวลาแห่งสัญญานี้ได้ ผู้ขายมีสิทธิขอขยายเวลาตามสัญญาหรือของดหรือลดค่าปรับได้ โดยจะต้องแจ้งเหตุหรือพฤติการณ์ดังกล่าวพร้อมหลักฐานเป็นหนังสือให้ผู้ซื้อทราบภายใน 15 วัน นับแต่วันที่เหตุนั้นสิ้นสุดลง
ถ้าผู้ขายไม่ปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าผู้ขายได้สละสิทธิ์เรียกร้องในการที่จะขอขยายเวลาทำการตามสัญญา หรือของดหรือลดค่าปรับโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น เว้นแต่กรณีเหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของฝ่ายผู้ซื้อซึ่งมีหลักฐานชัดแจ้งหรือผู้ซื้อทราบดีอยู่แล้วตั้งแต่ต้น
การขยายเวลาทำการตามสัญญา หรือของดหรือลดค่าปรับตามวรรคหนึ่ง อยู่ในดุลยพินิจของผู้ซื้อที่จะพิจารณา (ดูสัญญาประกอบท้ายเรื่อง)
ทั้งหมดนี่ เป็นรายละเอียดข้อกำหนดในสัญญาดำเนินงานโครงการจัดซื้อไบโอเมตริกซ์ 2.1 พันล้านบาท ที่สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบล่าสุด
ส่วนรายละเอียดการปฎิบัติตามสัญญาโครงการฯ ว่า มีปัญหาการส่งมอบงานล่าช้า ส่งงานไม่ทัน รวมไปถึงการดำเนินงานที่ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งในพื้นที่ที่ไม่จำเป็นต้องใช้งาน ทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร รวมถึงมีการรายงานปัญหาดังกล่าวไปยังบริษัทคู่สัญญา แต่ไม่ได้มีการแก้ไขใด ๆ นอกจากนี้ในการส่งมอบงานบางงวดเอกชนยังไม่สามารถส่งมอบงานได้ตามกำหนดนัด แต่ สตช. เซ็นตรวจรับงานให้ก่อน เพื่อไม่ให้เอกชนเสียเงินค่าปรับวันละ 5 ล้านบาท ตามที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ และ นายษิทรา ออกมาเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชน
ขณะที่ พล.ต.ท. ติณภัทร ภุมรินทร์ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า "โครงการไม่มีปัญหา ทุกอย่างดำเนินการตามขั้นตอน"
ข้อเท็จจริงฝ่ายใด มีน้ำหนักมากกว่ากัน คงต้องรอฟังผลการตรวจสอบจาก ป.ป.ช. เป็นทางการอีกครั้ง
อ่านประกอบ :
'อิศรา' ถาม- 'พล.ต.ท. ติณภัทร' ตอบ! จัดซื้อไบโอเมตริกซ์ 2.1 พันล. มีปัญหาจริงหรือ?
เผยโฉม บ.เอ็มเอสซี คู่สัญญาขายไบโอเมตริกซ์ 2.1 พันล.- จนท.แจงผู้ใหญ่ยังไม่เข้ารอติดต่อกลับ
พบแล้ว! ข้อมูลสัญญาไบโอเมตริกซ์ 2.1 พันล.! สตช.จัดซื้อวิธีพิเศษ ชนะต่ำกว่าราคากลาง 10 ล.
เผยโฉมประกาศซื้อคอมฯ ไบโอเมตริกซ์ สตช.1.7 พันล.-ชื่อ บ.เอ็มเอสซี หราสืบราคากลางด้วย
เจาะปม 'บิ๊กโจ๊ก' แฉซื้อเครื่องไบโอเมตริกซ์ สตม 2.1 พันล. ป.ป.ช.ลุยสอบ-สะเทือน ผบ.ตร.?
10 ม.ค.‘บิ๊กโจ๊ก’มาให้ข้อมูล ป.ป.ช.ปมไบโอเมตริกซ์ สตม. 2.1 พันล.-บี้สอบ ผบ.ตร. ด้วย
ป.ป.ช.ยังไม่เรียก‘บิ๊กโจ๊ก’ให้ข้อมูลโครงการไบโอแมทริกซ์ สตม. 2.1 พันล.-สอบคืบ 50%
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/