สภานัดถกด่วน สตช.ขอตัว“ช่อ-ปิยบุตร-พิธา” ดำเนินคดีจัดม็อบสกายวอล์ก
สภาฯ บรรจุวาระด่วน 15-16 ม.ค. พิจารณาคำขอ สตช.เรียกตัว “พิธา-ช่อ-ปิยบุตร”ไปรับทราบข้อกล่าวหาและสอบสวนในคดีชุมนุมสกายวอล์กโดยผิด พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ
เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ รายงานข่าวว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมสภาฯ วันที่ 15 ม.ค.และ วันที่ 16 ม.ค. โดยมีเรื่องด่วนจำนวน 3 เรื่อง ประกอบด้วย 1.ร่างพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ) 2.ร่างพระราชบัญญัติยุบเลิกบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย พ.ศ. .... (คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ) และ 3.ขออนุญาตสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเรียกตัว นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นางสาวพรรณิการ์ วานิช และนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ไปทำการสอบสวนในคดีอาญา ในระหว่างสมัยประชุม ตามมาตรา 125 ของรัฐธรรมนูญพ.ศ.2560
สำหรับเรื่องด่วนที่ 3 นั้นมีรายละเอียดปรากฏในเอกสารด่วนที่สุดที่ ตช. 001.24/4 เรื่องการขออนุญาตเรียกตัว ส.ส. ถึงประธานสภาฯ ซึ่งลงนามโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หนังสือดังกล่าวระบุสาระสำคัญว่า ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับรายงานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลกรณี การสืบสวนสอบสวนการชุมนุมในที่สาธารณะ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2562 เวลาประมาณ 17.00 น. บริเวณสกายวอล์ก หน้าศูนย์การค้ามาบุญครอง ซึ่งเป็นการจัดการชุมนุมสาธารณะที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นความผิดตามพระราขบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
โดยปรากฏจากการสืบสวนสอบสวนปรากฏพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่านายพิธา นางสาวพรรณิการ์ และนายปิยบุตร ซึ่งเป็น ส.ส. มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกระทำการดังกล่าวด้วย จึงมีความจำเป็นต้องเรียกตัวในฐานะเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา เพื่อทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดความเป็นธรรมกับผู้เกี่ยวข้อง
ด้วยเหตุที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างสมัยประชุมรัฐสภา ดังนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขออนุญาตออกหมายเรียก ส.ส.ทั้งสามรายไปทำการสอบสวนในฐานะเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา เพื่อดำเนินการสอบสวนตามบัญญัติรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ต่อไป จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรา 125 ของรัฐธรรมนูญมีทั้งสิ้นสี่วรรคโดยแต่ละวรรคบัญญัติไว้ดังนี้
ในระหว่างสมัยประชุม ห้ามมิให้จับ คุมขัง หรือหมายเรียกตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาไปทําการสอบสวนในฐานะที่สมาชิกผู้นั้นเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก หรือเป็นการจับในขณะกระทําความผิด
ในกรณีที่มีการจับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาในขณะกระทําความผิดให้รายงานไปยังประธานแห่งสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิกโดยพลัน และเพื่อประโยชน์ในการประชุมสภา ประธานแห่งสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิกอาจสั่งให้ปล่อยผู้ถูกจับเพื่อให้มาประชุมสภาได้
ถ้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาถูกคุมขังในระหว่างสอบสวนหรือพิจารณาอยู่ก่อนสมัยประชุม เมื่อถึงสมัยประชุม พนักงานสอบสวนหรือศาล แล้วแต่กรณี ต้องสั่งปล่อยทันทีถ้าประธานแห่งสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิกได้ร้องขอ โดยศาลจะสั่งให้มีประกันหรือมีประกันและหลักประกันด้วยหรือไม่ก็ได้
ในกรณีที่มีการฟ้องสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาในคดีอาญา ไม่ว่าจะได้ฟ้องนอกหรือในสมัยประชุม ศาลจะพิจารณาคดีนั้นในระหว่างสมัยประชุมก็ได้ แต่ต้องไม่เป็นการขัดขวางต่อการที่สมาชิกผู้นั้นจะมาประชุมสภา