สธ.ชู อสม.ปลูกรางจืดคนละต้น ดันองค์การเภสัชผลิตแคปซูล ล้างพิษเกษตรกร
ก.สาธารณสุข เร่งผลักดันสมุนไพรรางจืดเข้าบัญชียาหลักชาติ เตรียมให้องค์การเภสัชกรรมวิจัยและผลิตเป็นแคปซูลเพื่อใช้กว้างขวางภายใน 2-3 เดือน ดัน อสม.ปลูกรางจืดคนละต้น 1 ล้านคนเป็นต้นแบบให้ชาวบ้านใช้เป็นยาล้างพิษประจำครัวเรือน
ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เป็นประธานเปิดงาน “เกษตรกรปลอดโรคผู้บริโภคปลอดภัย สมุนไพรล้างพิษ กายจิตผ่องใส” ที่โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม จ.สุโขทัย และเดินทางไปตรวจเยี่ยมการเจาะเลือดเกษตรกรเพื่อตรวจสารพิษจากสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างในร่างกาย ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทับผึ้ง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย
รมช.สธ. กล่าวว่าขณะนี้โครงการเกษตรกรปลอดโรคผู้บริโภคปลอดภัย สมุนไพรล้างพิษ กายจิตผ่องใส ได้รับการตอบรับจากเกษตรกรและประชาชนอย่างมาก เกิดความตื่นตัวในเรื่องของอันตรายและการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอย่างปลอดภัย ทั้งนี้จากผลการเฝ้าระวังโรคพิษสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในเลือดของเกษตรกรใน จ.เพชรบูรณ์ ปทุมธานี บุรีรัมย์ ระยอง และสุราษฎร์ธานี เดือน ม.ค.54 พบเกษตรกรมีสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในเลือดเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 51 ส่วนในผักผลไม้สดมีสารกำจัดศัตรูพืชตกค้างเฉลี่ยเกือบร้อยละ 5
ส่วนการเฝ้าระวังใน 5 จังหวัดภาคเหนือได้แก่ สุโขทัย ตาก อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลกในปี 53 พบเกษตรกรสุโขทัยมีสารเคมีตกค้างในเลือดสูงที่สุดร้อยละ 64 รองลงมาคือตากร้อยละ 60 อุตรดิตถ์ร้อยละ 54 พิษณุโลกร้อยละ 50 เพชรบูรณ์พบร้อยละ 42 ทั้งนี้ สธ.จะเร่งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปเสริมสร้างความรู้ให้เกษตรกร ตรวจเลือดซ้ำและให้กินสมุนไพรรางจืดเพื่อขับพิษออก
ดร.พรรณสิริ กล่าวว่าการใช้รางจืดขับพิษออกจากร่างกายนั้นมีแนวคิดที่จะพัฒนารูปแบบของตัวยาให้ทันสมัยและกินง่ายขึ้น โดยจะให้องค์การเภสัชกรรมวิจัยและผลิตรางจืดเป็นชนิดแค็ปซูล เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการสลายพิษได้รวดเร็วกว่าวิธีการกินแบบต้มใบสดและตากแห้งทำเป็นชาชงทั่วไป โดยเฉพาะเกษตรกรรายที่มีสารพิษตกค้างในเลือดในระดับที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งจะต้องกินรางจืดสลายพิษในปริมาณที่เข้มข้นมากกว่าปกติ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายใน 2-3 เดือนนี้ และจะเสนอคณะกรรมการบัญชียาหลักแห่งชาติพิจารณาให้รางจืดชนิดแค็ปซูลเข้าไปอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติต่อไป เพื่อใช้ในโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทั่วประเทศ ทดแทนยานำเข้าต่อไป
รมช.สธ.กล่าวอีกว่าสำหรับในกลุ่มประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะเกษตรกร 14.1 ล้านคนทั่วประเทศ กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริมให้ปลูกรางจืดอย่างน้อยบ้านละ 1 ต้น ซึ่งสมุนไพรชนิดนี้ปลูกง่าย และในปีนี้จะให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.)ที่มี 1 ล้านคนทั่วประเทศปลูกรางจืดคนละ 1 ต้นด้วย เพื่อให้เป็นบ้านตัวอย่างในชุมชน สำหรับใช้เองที่บ้านโดยกินใบสด หรือตากแห้ง เป็นชาชงรางจืด .
ที่มาภาพ : http://thaiherb-tip108.blogspot.com/2011/01/thunbergia-laurifolia-linn.html