เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม แจงโดนสอบทุจริตยักยอกเงินวัด 95 ล้าน
อดีตไวยาวัจกรวัดสุทธิวราราม นำหลักฐานร้องพบ เจ้าอาวาสวัดทุจริตยักยอกเงินมูลค่ากว่า 95 ล้านบาท ด้าน พระสุธีรัตนบัณฑิต ยืนยันไม่เคยนำไปใช้ส่วนตัว แจงนำไปใช้บูรณะปฏิสังขรณ์วัด
เว็บไซต์ www.tnnthailand.com รายงานว่า วันนี้ (9 ม.ค.63) นายชาญณรงค์ เพียรดี อดีตไวยาวัจกรวัดสุทธิวราราม นำเอกสารหลักฐานเป็นแฟ้มภาพและหนังสือร้องเรียนวัดสุทธิวราราม ระบุพบการทุจริตเงินภายในวัดดังกล่าว โดยนายชาญณรงค์ กล่าวว่า พระสุธีรัตนบัณฑิต เจ้าอาวาสวัด และหลานประพฤติตนไม่เหมาะสม โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตยักยอกเงินของวัดมูลค่ากว่า 95 ล้านบาท ที่หายไป ซึ่งพบมีการนำไปซื้อที่ดินสปก.ที่จ.สระบุรี จำนวน 7 ไร่ มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท รวมทั้งที่ จ.เชียงราย มูลค่า 1.8 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่าทางวัดได้ให้คนงานในวัดนำศพที่เผาไหม้ไม่หมดไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งตนได้นำเรื่องทั้งหมดยื่นถึงสำนักพระพุทธศาสนาและเจ้าคณะเขตให้มาตรวจสอบหลายฉบับ ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม 2562 แต่เรื่องกลับเงียบหาย เชื่อว่ามีกลุ่มคนพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง จึงทำให้ไม่มีการตรวจสอบ
ขณะที่ พระสุธีรัตนบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม ออกมาชี้แจงถึงจำนวนเงินของวัด ว่า ตนเริ่มดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสที่นี่ ปี2555 พบว่าเงินในบัญชีของวัด 80 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเงินผาติกรรม ที่ไม่สามารถเบิกเงินออกมาใช้ได้ ใช้ได้เพียงดอกเบี้ย ซึ่ง ตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่ดำรงตำแหน่งตนมีหลักฐานรายรับ-รายจ่ายของวัดชัดเจน ยืนยันไม่เคยยักยอกหรือนำเงินไปใช้ส่วนตัว แต่จำนวนเงินที่ถูกร้องเรียนนั้นถูกนำไปบูรณะปฏิสังขรณ์วัด นอกจากนี้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆของวัดทั้งหมด รวมถึงเป็นเงินทุนการศึกษาที่มอบให้กับนักเรียนวัดสุทธิวราราม
พระสุธีรัตนบัณฑิต กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าทุจริตเงินวัดนั้น ตนได้ทำหนังสือชี้แจงพร้อมแนบหลักฐานที่เป็นรายรับ - จ่าย เอกสารการจัดซื้อทั้งหมด รวม6 ประเด็น ไปให้สำนักพระพุทธศาสนาหมดแล้ว และทางสำนักฯก็ไม่มีีข้องสงสัยเพิ่มเติม ยืนยันทางวัดมีหลักฐานสามารถชี้แจงข้อสงสัยได้ทั้งหมด และขณะนี้เงินของวัดในบัญชีมีทั้งหมด 120 ล้าน จึงแสดงได้ว่าเงินของวัดไม่ได้สูญหายไป
ส่วนประเด็นข้อสังเกตที่มีคนระบุว่าทางวัดเผาศพไหม้ไม่หมด แล้วนำไปทิ้งน้ำนั้น พระสุธีรัตนบัณฑิต ยืนยันว่า หากเรื่องดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริง ทางญาติคงจะร้องเรียนมาแล้ว เนื่องจากต้องเก็บอัฐิหลังจากเผาร่างเสร็จไปดำเนินการต่อ และหากเป็นจริงร่างที่ถูกทิ้งน้ำต้องโผล่ขึ้นมาแล้ว พร้อมตั้งข้อสังเกตการออกมาร้องเรียนในครั้งนี้ว่าเป็นเพราะนายชาญณรงค์น่าจะไม่พอใจที่เจ้าอาวาสลดอำนาจที่เคยมอบหมายให้นายชาญณรงค์ เก็บค่าที่จอดรถวัด และให้เลิกกิจการห้องนวดที่เคยให้เปิดให้ เพราะถูกชาวบ้านร้องเรียนว่าปิดดึกและมีเรื่องผู้หญิงไม่เหมาะสม จนทำให้นายชาญณรงค์ขาดรายได้
อย่างไรก็ตาม ภายหลังทางเจ้าอาวาสวัดชี้แจงหลาบประเด็น นายชาญณรงค์ ได้ปฏิเสธไม่เชื่อ และนำคลิปที่ไพศาล นรินทร อายุ 58 ปี คนเก็บกวาดของวัดรับสารภาพกับนายชาญณรงค์ว่า ร่วมมือกับเด็กวัดบางคนว่ามีการนำชิ้นส่วนที่เผาไหม้ไม่หมดไปทิ้งน้ำจริง โดยหลังจากนี้ตนจะเดินหน้าร้องเรียน และขอความเป็นธรรมให้ถึงที่สุด ยืนยันว่าการกระทำของตนไม่ใช่การผูกใจเจ็บ แต่เพราะต้องการให้ตรวจสอบพระที่ทำการทุจริตเงินทำบุญ
ที่มา : https://www.tnnthailand.com/content/25939