ครม.เห็นชอบ ศธ.ของบ 3 พันล้าน ขยายเครือข่ายเน็ต

เล็งเป้าสถานศึกษา-หน่วยงานศึกษา 4 หมื่นแห่ง ครอบคลุม 7 พัน รร.ดีประจำตำบลภายในปี 2556 ด้าน กศน.ร่วม รพ.ตั้งศูนย์การเรียนเด็กป่วยเรื้อรัง 29 แห่ง “ชินวรณ์”ปรามโรงเรียนรัฐห้ามเก็บ “แป๊ะเจี้ย” แลกใบจบ แจงโครงการเรียนดีเรียนฟรี 15 ปีต้องฟรี 5 อย่าง

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เปิดเผยหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบหลักการตามที่ ศธ.ขออนุมัติดำเนินโครงการเครือข่ายการศึกษาแห่งชาติ(NedNet) ประจำปี 2555-2556 เพื่อการลงทุนโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง เชื่อมโยงจากเครือข่ายแกนหลัก(Backbone)ไปยังสถานศึกษาต่อเนื่อง จากที่เคยกำหนดระยะเวลาปี 2553-2554 ซึ่งดำเนินการได้เพียง 3,094 แห่ง ขณะที่สถานศึกษาที่รวมถึงหน่วยงานการศึกษาอื่นๆมีมากถึง 40,000 แห่งทั่วประเทศ

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการใช้ประโยชน์อุปกรณ์และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมถึงโอกาสเข้าถึงเครือข่ายการศึกษาแห่งชาติ ศธ.จะขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมโรงเรียนดีประจำตำบลอีก 7,000 แห่งภายในปี 2556 ซึ่งต้องใช้งบประมาณประจำปี 2555 จำนวน 1,500 ล้านบาท และขออนุมัติผูกพันงบประมาณรายจ่ายปี 2556 อีก 1,500 ล้านบาท รวม 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ครม.มอบให้ ศธ.ไปทำความตกลงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า ครม.รับทราบผลการดำเนินงานการจัดตั้งศูนย์การเรียนสำหรับเด็กเจ็บป่วยเรื้อรังในโรงพยาบาล ที่ ศธ.ได้ดำเนินการตามมติ ครม.ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เด็กทุกคน โดยใช้งบประมาณโครงการไทยเข้มแข็งระยะที่ 2 จำนวน 7.9 ล้านบาท ทั้งนี้ในปีการศึกษา 2553 ศธ.โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) ร่วมกับโรงพยาบาลเปิดศูนย์ดังกล่าวแล้วในช่วงเดือน เม.ย.-ก.ย.53 จำนวน 29 ศูนย์ มีเด็กในการดูแล 2,300 คน

นายชินวรณ์ ยังกล่าวถึงกรณีร้องเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาบางแห่งเรียกเก็บเงินจากนักเรียนก่อนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ถ้าไม่จ่ายจะไม่ออกใบระเบียนแสดงผลการเรียน(รบ.) ว่าถ้าเป็นโรงเรียนรัฐบาลไม่สามารถเก็บเงินได้ เพราะนโยบายชัดเจนว่าระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานตั้งแต่อนุบาลถึง ม.6 หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.)ต้องอยู่ในโครงการเรียนฟรีเรียนดี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ ซึ่งต้องได้ค่าเล่าเรียนฟรี ชุดนักเรียนฟรี อุปกรณ์การเรียนฟรี หนังสือเรียนฟรี และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนฟรี และโรงเรียนไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้ ยกเว้นค่าธรรมเนียม แต่ก็ไม่สามารถใช้เป็นเงื่อนไขไม่ให้เด็กจบ ทั้งนี้กรณีที่เด็กไม่มีเงินจ่ายค่าธรรมเนียม โรงเรียนจะต้องมีวิธีผ่อนคลายเพื่อช่วยเหลือ และถ้าโรงเรียนมีปัญหาขาดแคลนค่าสาธารณูปโภค ค่าตอบแทนครู ก็สามารถทำโครงการเสนอเข้ามาได้ ศธ.จะหาทางช่วยเหลือ

รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดโครงการเรียนฟรี 15 ปีในปีการศึกษา 2554 จะต้องมีรูปธรรมเรื่องการเพิ่มคุณภาพการเรียนการสอน และการลดค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง และจะมีการจัดกระบวนการไม่ให้มีการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะ.