'ธรรมนัส'สั่ง เลขาฯ ส.ป.ก.เร่งสืบทรัพย์ ปมที่ดิน 'ปารีณา'- จัดสรรให้ชาวบ้าน
"ธรรมนัส"สั่งปิดฉาก"เขาสนฟาร์ม"เตรียมสืบทรัพย์ เล้าไก่"ปารีณา" กำชับส.ป.ก.ดำเนินคดีตามกฎหมายเป็นมาตรฐานเดียวกัน ด้านเลขาธิการส.ป.ก.เผยเตรียมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเพื่อนำที่ดินมาจัดสรรสิทธิให้แก่ผู้มีคุณสมบัติ
เว็บไซต์ www.dailynews.co.th รายงานว่าเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การคืนที่ดินเขตปฏิรูปที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดในฟาร์มไก่ “เขาสนฟาร์ม” ของ น.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กว่า682ไร่ ถือว่ามีผลโดยสมบูรณ์แล้ว จึงสั่งให้เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) ดำเนินการตามกฎหมายปฏิรูปที่ดินให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับผู้บุกรุกครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. ทุกราย โดยกำชับให้ ส.ป.ก. นำที่ดินเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดิน โดยอนุญาตให้ผู้มีคุณสมบัติซึ่งลงทะเบียนขอรับการจัดสรรสิทธิไว้ต่อสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดราชบุรีเข้าทำกินได้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ได้มอบนโยบายว่าการอนุญาตให้เข้าทำกินในเขตปฏิรูปที่ดินนั้น เมื่อ ส.ป.ก. ออกหนังสือ ส.ป.ก. 4-01 ให้แล้ว ต้องเข้าไปดูแลเรื่องระบบสาธารณูปโภคให้สามารถอยู่อาศัยและทำกินได้ รวมทั้งส่งเสริมอาชีพให้มีความมั่นคง โดยตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรมโดยกำชับว่าหากพบสิ่งใดไม่ถูกต้อง ให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกรายตามกฎหมายปฏิรูปที่ดิน
ขณะที่นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวว่า เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจสืบทรัพย์ ซึ่งอยู่ในที่ดิน 682 ไร่ในเร็ววันที่9ม.ค.นี้โดยต้องประสาน น.ส. ปารีณา ซึ่งเป็นผู้ครอบครองให้นำสำรวจสืบทรัพย์ด้วย หากไม่มาด้วยตนเองสามารถมอบหมายผู้แทนได้ โดย น.ส.ปารีณา ส่งมอบที่ดินคืนแก่ ส.ป.ก.แล้ว ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 2562 โดยในการเข้าสำรวจสืบทรัพย์จะต้องทำบันทึกว่ามีอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดในที่ดินแปลงดังกล่าวบ้าง จากนั้นผู้ครอบครองจะต้องเป็นผู้รื้อถอนและจ่ายค่ารื้อถอนเอง หากไม่รื้อถอนเอง ส.ป.ก. จะเข้าไปรื้อถอน แล้วจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเพื่อเรียกเก็บค่ารื้อถอนจาก น.ส. ปารีณา ต่อไป ทั้งนี้ ยืนยันว่า ส.ป.ก.ดำเนินการโดยไม่ล่าช้า
ด้านนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้แจ้งด้วยวาจาไปยังส.ป.ก.แล้วว่าการดำเนินคดีอาญาตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 เป็นหน้าที่ของกรมป่าไม้ที่ต้องดำเนินการในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ว่า ไม่ทราบเกี่ยวกับการแจ้งความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาไปยังส.ป.ก. แต่ตามที่กรมป่าไม้ได้หารือข้อกฎหมายไปนั้น ทางคณะกรรมการกฤษฎีกายังไม่ให้ตอบมา อีกทั้งการตอบความเห็นจะต้องไม่เป็นการแจ้งด้วยวาจา แต่ต้องออกเป็นเอกสารราชการ เมื่อที่ได้รับหนังสือจากคณะกรรมการกฤษฎีกา กรมป่าไม้จะดำเนินการตามความเห็นที่ได้รับทันที