'ประยุทธ์' ให้โอวาทเด็ก ขอรู้หน้าที่อย่าเรียกร้องแต่สิทธิ
นายกรัฐมนตรี ให้โอวาทเด็กและเยาวชน เนื่องในวันเด็กแห่งชาติปี 2563 ขอรู้หน้าที่ อย่าเรียกร้องแต่สิทธิ เตือนสำนึกรักความเป็นไทย พร้อมสร้างภูมิคุ้มกันข้อมูลโซเชียลเพราะอาจถูกบิดเบือน
เว็บไซต์ www.voicetv.co.th/ รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้โอวาทเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2563 โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้ต้อนรับเด็กและเยาวชนดีเด่นและเด็กเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติทั้งหมด 772 คน ซึ่งเป็นรางวัลที่น่าภาคภูมิใจ แสดงว่าทุกคนได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดี มีความขยันหมั่นเพียรใฝ่หาความรู้อย่างต่อเนื่อง สามารถพัฒนาตัวเอง และขอให้พัฒนาตนเอง เป็นอนาคต ของชาติ ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน เพราะจัดเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่า
และต้องพัฒนาให้สอดคล้องกับโลกยุคใหม่ ส่งเสริมพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยให้มีความพร้อมมีความรู้คู่คุณธรรม รู้ว่าสิ่งใดดีและไม่ดี สิ่งไม่ดีก็อย่าไปทำ ปฏิบัติตนตั้งอยู่ในความดี มีสำนึกรักชาติบ้านเมืองรักษาวัฒนธรรมประจำชาติ และทำสิ่งเหล่านี้ให้มีคุณภาพขึ้นมาในสังคมไทย เหมือนคำขวัญที่ตนเขียนในวันนี้ "เด็กไทยยุคใหม่ รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย" อยากให้ทุกคนนำไปสู่การปฏิบัติให้ได้คำว่าหน้าที่ คู่กับคำว่าสิทธิ ทุกคนมีสิทธิในการเป็นพลเมืองไทย แต่อย่าลืมคำว่าหน้าที่ต่อชาติบ้านเมือง ถ้าจะเอาสิทธิเสรีภาพอย่างเดียวไม่ได้ จะเกิดความเสียหาย ต่อประเทศชาติ ทุกคนต้องประพฤติปฏิบัติตั้งมั่น ในความดี ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะเจริญเติบโต เป็นคนดีมีคุณภาพ
ทั้งนี้การเผยแพร่ข้อมูลในโซเชียลต้องมีภูมิคุ้มกัน เพราะอาจมีการบิดเบือนข้อมูล ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความสุขหาซื้อไม่ได้ เราเองจะทำอย่างไรให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ใช้ทักษะการอยู่ร่วมกันในสังคม ที่ประกอบด้วยบุคคลหลายกลุ่มหลายฝ่าย ทุกคนจะต้องอยู่ร่วมกันถ้อยทีถ้อยอาศัยช่วยเหลือเกื้อกูลกันมีน้ำใจ นี่คือทักษะของสังคมไทยซึ่งอาจลืมไป ทำให้เกิดปัญหาและสังคม เพื่อไม่ให้เกิดการทะเลาะกันบนถนน ทุกคนต้องรู้หน้าที่ตนเอง หน้าที่ของเด็กคืออะไรการศึกษาพัฒนาตนเองอย่าเพิ่งไปทำอย่างอื่นหาตนเองให้เจอ
"เตือนเด็กทุกคนให้รู้เสมอว่าเกิดในแผ่นดินไทยจะลืมความเป็นไทยไม่ได้ จะลืมสิ่งที่บรรพบุรุษของเราเสียสละเลือดเนื้อ และเสียสละแผ่นดินไม่ได้ แล้วจะทำร้ายกันเองหรือ ทั้งที่สมัยก่อนต่อสู้กับอริราชศัตรูรอบบ้าน จนเป็นไทยได้ทุกวันนี้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ต้องสร้างจิตสำนึกในตัวเองขึ้นมา ให้เกิดความภาคภูมิใจ และจะทำอย่างไรต่อเติมจากสิ่งที่เขาทำไว้ในอดีต แน่นอนว่าไม่มีใครถูกใจทั้งหมด แต่ต้องดูว่าทำได้มากหรือทำได้น้อย หรือทำได้มากกว่าในอดีตที่ผ่านมาซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องคิดใคร่ครวญให้ดี ซึ่งจะเป็นเหตุเป็นผลทุกคนต้องมีเหตุมีผลในการเชื่อหรือทำอะไรก็แล้วแต่" นายกรัฐมนตรี กล่าว