"สถานทูตสหรัฐ"ใน"อิรัก" โดนจรวดโจมตีเป็นวันที่ 2
สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงแบกแดดตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีด้วยจรวดเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ประกาศ "เตรียมมอบบทเรียนอีกครั้ง" ให้กับทหารอเมริกันในตะวันออกกลาง
เว็บไซต์ เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานอ้าง สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแบกแดด ประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังกระทรวงการต่างประเทศอิรักเชิญนายแมทธิว ทุลเลอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงแบกแดด เข้าพบเมื่อวันอาทิตย์ กองทัพอิรักรายงานว่ากองกำลังไม่ทราบฝ่ายยิงจรวดคัตยูชาอย่างน้อย 6 ลูก ตกลงในเขตเมืองหลวง ในจำนวนนี้อย่างน้อย 2 ลูก ตกใกล้กับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ซึ่งตั้งอยู่ใน "กรีน โซน" ซึ่งเป็นพื้นที่ความมั่นคงสูงของกรุงแบกแดด เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 6 คน และเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐในอิรักตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางทหาร
ขณะที่นายฮัสซัน นาสราลเลาะห์ ผู้นำสูงสุดของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กล่าวว่าทหารอเมริกัน และสรรพาวุธทั้งหมดของกองทัพสหรัฐในตะวันออกกลาง "คือเป้าหมายสำคัญ" หลังทหารอเมริกันในอิรักปฏิบัติการสังหารสังหารพล.ต. กัสเซ็ม โซไลมานี อดีตผู้บัญชาการกองกำลังนักรบพิเศษ "คุดส์" ของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ( ไออาร์จีซี ) และนายอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดิส รองผู้บัญชาการกองกำลังฮัชด์ หรือพีเอ็มเอฟ ซึ่งเป็นเครือข่ายนักรบชีอะห์ในอิรักที่มีความใกล้ชิดกับอิหร่าน ใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติแบกแดด เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว โดย "ทีมระเบิดฆ่าตัวตาย" ของกลุ่มฮิซบอบเลาะห์ "พร้อมมอบบทเรียน" ให้กับกองทัพสหรัฐอีกครั้ง
ทั้งนี้ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์เคยก่อเหตุโจมตีฐานทัพของกองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐ ในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน เมื่อปี 2526 คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่อเมริกัน 241 นาย หลังเกิดเหตุประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ผู้นำสหรัฐในเวลานั้น สั่งถอนทหารทั้งหมดออกจากเลบานอน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์.