ทรัมป์ชี้ต้องสังหารพล.ต.โซไลมานี "เพื่อปกป้องสหรัฐ"
เว็บไซต์ www.dailynews.co.th รายงานว่า สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงเมื่อวันศุกร์ ว่าพล.ต. กัสเซ็ม โซไลมานี อดีตผู้บัญชาการกองกำลังนักรบพิเศษ "คุดส์" แห่งกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ( ไออาร์จีซี ) ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ หลังกองทัพสหรัฐปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายซึ่งเป็นรถยนต์ที่แล่นเข้าใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติแบกแดด ในอิรัก กำลังวางแผนให้มี "การโจมตีอย่างโหดเหี้ยม" ต่อเจ้าหนาที่การทูตของสหรัฐ ทหารอเมริกันและผลประโยชน์ของสหรัฐในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตาม พล.ต. โซไลมานี "ถูกจับได้คาหนังคาเขา"
ทั้งนี้ ทรัมป์ยืนยันว่าเขาสั่งให้กองทัพสหรัฐแกะรอยและปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อพล.ต. โซไลมานี "ซึ่งควรจากโลกใบนี้ไปตั้งนานแล้ว" และมี "ผลพลอยได้" คือการเสียชีวิตของนายอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดิส รองผู้บัญชาการกองกำลังเคลื่อนไหวประชาชน หรือ "ฮัชด์" ซึ่งเป็นเครือข่ายกองกำลังนักรบชีอะห์ในอิรักที่ฝักใฝ่อิหร่าน อย่างไรก็ตาม ผู้นำสหรัฐกล่าวว่าเขาไม่ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน และไม่ประสงค์โค่นอำนาจของอยาตอลเลาะห์หรือผู้นำสูงสุดคนปัจจุบัน คืออยาตอลเลาะห์อาลี คาเมเนอี
ขณะที่ความคืบหน้าอย่างเปิดเผยจากฝั่งรัฐบาลเตหะรานยังมีไม่มากนัก แม้การเสียชีวิตของพล.ต. โซไลมานี จุดชนวนความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างสหรัฐกับอิหร่าน นับตั้งแต่การปฏิวัติอิหร่าน เมื่อปี 2522 โดยคาเมเนอีประกาศ "ล้างแค้นอย่างสาสม" และเจ้าหน้าที่ระดับสูงทุกคนในรัฐบาลรวมถึงประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี กล่าวว่าการเสียชีวิตของพล.ต. โซไลมานี "ต้องมีคำตอบ" ในเวลาเดียวกัน คาเมเนอีเลื่อนขั้นพลจัตวา เอสมาอิล กาอานี จากตำแหน่งรองผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์ ให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการ และชาวอิหร่านจำนวนมากเดินขบวนไปตามท้องถนนของเมืองใหญ่หลายแห่ง เพื่อไว้อาลัยให้กับพล.ต. โซไลมานี และแสดงจุดยืนต่อต้านสหรัฐ
ส่วนท่าทีของอิรักต่อสถานการณ์ครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอาเดล อับดุล-มาห์ดี กล่าวไว้อาลัยให้พล.ต. โซไลมานี และประณามสหรัฐละเมิดอธิปไตยอย่างร้ายแรง และนายฮัสซัน อัล-คาอาบี รองประธานสภาผู้แทนราษฎรของอิรัก กล่าวว่าสหรัฐสังหารพล.ต. โซไลมานี เพื่อเป็นใบเบิกทางในการเพิ่มจำนวนทหารในอิรัก และเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมกันหาทางยุติ "การคุกคาม" ดังกล่าว.