เมาแล้วขับถูกจับคุมประพฤติส่งท้ายปี! กว่า 8,500 คดี ขอนแก่นซิวแชมป์สูงสุด
กรมคุมประพฤติเผยเมาแล้วขับถูกจับคุมประพฤติส่งท้ายปี! กว่า 8,500 คดี ขอนแก่นซิวแชมป์สูงสุด ด้านโฆษกศาลยุติธรรม เผย 5 อันดับจังหวัดที่มีปริมาณคดีขึ้นสู่การพิจารณาสูงสุด กทม.นำโด่ง
วันที่ 1 มกราคม 2563 กรมคุมประพฤติเผยยอดเมาแล้วขับคืนส่งท้ายปีกว่า 8,500 คดี ขอนแก่นแซงขึ้นอันดับสูงสุด! เทียบสถิติคดีสะสมปีก่อน เพิ่มขึ้นถึง 2,500 คดี พบการกระทำผิดซ้ำพุ่งเป็น 124 คดี!
กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม เผยสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติทั่วประเทศของวันที่ 5 ที่มีการควบคุมเข้มงวด (31 ธันวาคม 2562) จำนวน 3,703 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 3,701 คดี คิดเป็นร้อยละ 99.95 และคดีขับรถประมาท จำนวน 2 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.05
สำหรับยอดสะสมสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติ 5 วันที่มีการควบคุมเข้มงวด ระหว่างวันที่ 27-31 ธันวาคม 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 8,711 คดี จำแนกเป็น
คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 8,557 คดี คิดเป็นร้อยละ 98.23
คดีขับเสพ จำนวน 139 คดี คิดเป็นร้อยละ 1.60
คดีขับซิ่ง/ แข่งรถ จำนวน 1 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.01
คดีขับรถประมาท จำนวน 14 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.16
จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น จำนวน 507 คดี กรุงเทพมหานคร จำนวน 484 คดี และจังหวัดมหาสารคาม จำนวน 476 คดี
เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติ สะสม 5 วัน ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2562 และ พ.ศ. 2563 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา ปี พ.ศ. 2562 มีจำนวน 6,004 คดี กับปี พ.ศ. 2563 มีจำนวน 8,557 คดี เพิ่มขึ้น 2,553 คดี คิดเป็นร้อยละ 42.52
นอกจากนี้ กรมคุมประพฤติ ยังดำเนินการตรวจสอบประวัติการกระทำผิดในฐานความผิดขับรถขณะเมาสุราอย่างต่อเนื่อง จำนวน 3,145 คดี พบมีผู้กระทำผิดซ้ำ จำนวน 124 คดี
ในการนี้ กรมคุมประพฤติ ได้กำชับให้สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ พร้อมด้วยอาสาสมัครคุมประพฤติ สนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำจุดบริการประชาชน ด่านชุมชน และด่านตรวจค้น ในคืนส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จำนวน 120 จุด โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 760 คน เพื่อให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน พร้อมเฝ้าระวังในพื้นที่ที่มีการจัดงานรื่นเริงและเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน
ด้านนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยปริมาณคดีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 ที่เข้าสู่การพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นทั่วราชอาณาจักร ในช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลปีใหม่ 2563 ประจำวันที่ 31 ธันวาคม 2562 มีดังนี้
สรุปรายงานข้อมูลสถิติคดีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ประจำวันที่ 31 ธันวาคม 2562 สถิติความผิดตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก ของกลุ่มศาลอาญา, กลุ่มศาลจังหวัด, กลุ่มศาลแขวง
1. จำนวนคดีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 โดยแบ่งเป็น
1) จำนวนคดีที่ขึ้นสู่การพิจารณา รวมทั้งสิ้น 9,179 คดี
2) จำนวนคดีที่พิพากษาแล้วเสร็จ รวมทั้งสิ้น 9,293 คดี (คิดเป็นร้อยละ 101.24)
2. จังหวัดที่มีปริมาณคดีขึ้นสู่การพิจารณาสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1. กรุงเทพมหานคร จำนวน 375 คดี
2. นครราชสีมา จำนวน 368 คดี
3. ร้อยเอ็ด จำนวน 348 คดี
4. เชียงใหม่ จำนวน 325 คดี
5. สกลนคร จำนวน 295 คดี
3. ศาลที่มีปริมาณคดีขึ้นสู่การพิจารณาสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1. ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 348 คดี
2. ศาลแขวงเชียงใหม่ จำนวน 293 คดี
3. ศาลแขวงนครปฐม จำนวน 256 คดี
4. ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 249 คดี
5. ศาลแขวงอุบลราชธานี จำนวน 247 คดี
4. ข้อหาที่มีการกระทำความผิดสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
1. ขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 8,744 คน
2. ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต จำนวน 1,354 คน
3. ขับรถประมาท จำนวน 11 คน
หมายเหตุ : ใน 1 คดี อาจมีหลายข้อหา (ซึ่งในปีนี้รายงานสถิติเป็นหน่วย “คน” แทน เพื่อง่ายต่อความเข้าใจ)
สถิติความผิดตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก ของกลุ่มศาลเยาวชนและครอบครัว
1. จำนวนคำร้องที่เข้าสู่การตรวจสอบการจับ รวมทั้งสิ้น 61 คำร้อง
2. จำนวนข้อหาที่เข้าสู่การตรวจสอบการจับ
ขับรถขณะเมาสุรา 46 ข้อหา
ขับรถขณะเสพยาเสพติด 5 ข้อหา
ขับรถประมาท 1 ข้อหา
3. จำนวนผู้ต้องหาที่เข้าสู่การตรวจสอบการจับ รวมทั้งสิ้น 61 คน แบ่งเป็น
เพศหญิง 2 คน
เพศชาย 59 คน
4. ผลการตรวจสอบการจับ แบ่งเป็น
ชอบด้วยกฎหมาย 61 คน
ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 0 คน
หมายเหตุ : ใน 1 คำร้อง อาจมีหลายข้อหา
สรุปรวมสถิติคดีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ระหว่างวันที่ 27 – 31 ธันวามคม 2562 สถิติความผิดตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก ของกลุ่มศาลอาญา, กลุ่มศาลจังหวัด, กลุ่มศาลแขวง
1. จำนวนคดีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 โดยแบ่งเป็น
1) จำนวนคดีที่ขึ้นสู่การพิจารณา รวมทั้งสิ้น 19,680 คดี
2) จำนวนคดีที่พิพากษาแล้วเสร็จ รวมทั้งสิ้น 19,379 คดี (คิดเป็นร้อยละ 98.47)
2. จังหวัดที่มีปริมาณคดีขึ้นสู่การพิจารณาสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1. กรุงเทพมหานคร จำนวน 896 คดี
2. นครราชสีมา จำนวน 868 คดี
3. ชลบุรี จำนวน 851 คดี
4. เชียงใหม่ จำนวน 821 คดี
5. ร้อยเอ็ด จำนวน 647 คดี
3. ศาลที่มีปริมาณคดีขึ้นสู่การพิจารณาสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1. ศาลแขวงเชียงใหม่ จำนวน 731 คดี
2. ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 647 คดี
3. ศาลแขวงนนทบุรี จำนวน 498 คดี
4. ศาลแขวงพัทยา จำนวน 498 คดี
5. ศาลแขวงอุบลราชธานี จำนวน 483 คดี
4. ข้อหาที่มีการกระทำความผิดสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่
1. ขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 18,314 คน
2. ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต จำนวน 2,947 คน
3. ขับรถขณะเสพยาเสพติด จำนวน 259 คน
หมายเหตุ : ใน 1 คดี อาจมีหลายข้อหา (ซึ่งในปีนี้รายงานสถิติเป็นหน่วย “คน” แทน เพื่อง่ายต่อความเข้าใจ)
สถิติความผิดตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก ของกลุ่มศาลเยาวชนและครอบครัว
1. จำนวนคำร้องที่เข้าสู่การตรวจสอบการจับ รวมทั้งสิ้น 278 คำร้อง
2. จำนวนข้อหาที่เข้าสู่การตรวจสอบการจับ
1) ขับรถขณะเมาสุรา 214 ข้อหา
2) ขับรถขณะเสพยาเสพติด 54 ข้อหา
3) ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต 3 ข้อหา
4) ขับรถประมาท 1 ข้อหา
3. จำนวนผู้ต้องหาที่เข้าสู่การตรวจสอบการจับ รวมทั้งสิ้น 278 คน แบ่งเป็น
เพศหญิง 10 คน
เพศชาย 268 คน
4. ผลการตรวจสอบการจับ แบ่งเป็น
ชอบด้วยกฎหมาย 278 คน
ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 0 คน
หมายเหตุ : ใน 1 คำร้อง อาจมีหลายข้อหา