กาง 4 ปัจจัยไฉน พปชร. ‘เจาะไข่แดง’ขอนแก่น-เพื่อไทยพ่ายคาบ้าน?
“…อีกปัจจัยสำคัญคือ การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้รู้ผลกันไปแล้วว่าฝ่ายใดเป็นรัฐบาล ฝ่ายใดเป็นฝ่ายค้าน ดังนั้นชาวบ้านซึ่งได้รับผลจากนโยบายของรัฐบาล ย่อมได้รับแรงจูงใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณที่อาจได้รับเพิ่มเติม หรือผลประโยชน์ใด ๆ ก็ตามจากส่วนกลางที่เทลงมาสู่พื้นที่ของพวกเขา นั่นจึงทำให้ผลโหวตเทกลับไปทางพรรคพลังประชารัฐอย่างล้นหลาม…”
จบลงไปแล้วสำหรับสมรภูมิเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ขอนแก่น เขต 7 เมื่อพรรคพลังประชารัฐ ‘โค่นบัลลังก์’ แชมป์เก่าอย่างพรรคเพื่อไทยลงไปได้ เฉือนกันอยู่ประมาณเกือบ 2 พันคะแนน
นายสมศักดิ์ คุณเงิน ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้ 40,252 คะแนน ส่วนนายธนิก มาสีพิทักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ 38,010 คะแนน มีนายสุทัศน์ ผลบุญ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพัฒนาชาติ ได้ 306 คะแนน จากจำนวนบัตรดี 78,568 ใบ บัตรเสีย 1,680 ใบ บัตรไม่เลือกผู้สมัครใด 815 ใบ จากจำนวนผู้มาใช้สิทธิ 81,063 ราย (อ่านประกอบ : พปชร.เข้าวิน!ผลไม่เป็นทางการเลือกตั้งซ่อมขอนแก่นเขต 7-'สมศักดิ์'ขอบคุณทุกเสียงโหวต)
พื้นที่ในเขต 7 จ.ขอนแก่น ค่อนข้างเป็นพื้นที่ ‘แดงเข้ม’ นับตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา เป็นฐานเสียงของพรรคไทยรักไทยแต่เดิมจนกระทั่งพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะในปี 2550-2554 ที่พรรคเครือข่าย ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ได้รับชัยชนะทั้งจังหวัดอย่างถล่มทลาย
แล้วไฉนพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกครหาว่าเป็นพรรคสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เปรียบดัง ‘เหรียญคนละด้าน’ ของกลุ่มคนเสื้อแดง จึงพลิกกลับมาชนะพรรคเพื่อไทยที่ครองแชมป์ในพื้นที่มาประมาณเกือบ 20 ปีลงได้ ?
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org วิเคราะห์ข้อเท็จจริงสรุปได้ ดังนี้
หนึ่ง ‘สมศักดิ์ คุณเงิน’นักการเมืองลายครามประจำพื้นที่ ?
นายสมศักดิ์ คุณเงิน ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เคยเป็นอดีต ‘คนเดือนตุลาฯ’ เริ่มเล่นการเมืองมาตั้งแต่ปี 2523 ต่อมาในปี 2544 โยกย้ายตามเพื่อนเดือนตุลาฯ ‘พินิจ จารุสมบัติ’ ไปรวมกับพรรคไทยรักไทย โดนขึ้นชั้นเป็นถึงกรรมการบริหารพรรค และได้รับเลือกตั้ง ส.ส.ขอนแก่น อีก 2 สมัยในปี 2544-2548 กระทั่งปี 2549 ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเนื่องจากพรรคไทยรักไทยถูกยุบ
หลังจากเว้นวรรคทางการเมืองไปหลายปี ในการเลือกตั้งปี 2554 เขาส่งพี่ชาย นายจงรักษ์ คุณเงิน สังกัดพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน แต่พ่ายแพ้แก่กระแสสูงของพรรคเพื่อไทย ระหว่างนั้นจึงเริ่มเส้นทางใหม่ในภาคประชาชน จัดตั้งมูลนิธิเพื่ออีสาน และนั่งเก้าอี้ประธานสภาเกษตรกร จ.ขอนแก่น นั่นจึงหมายความว่าชื่อชั้นของนายสมศักดิ์ไม่ใช่ไก่กา แต่เป็นเซียนการเมืองคนหนึ่ง
(ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการเขต 7 จ.ขอนแก่นจาก กกต.)
สอง รอยร้าวในพรรคเพื่อไทย ?
ใคร ๆ ก็ทราบดีว่าชื่อชั้นของนายธนิก มาสีพิทักษ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 จ.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย มีบทบาทระดับนำในกลุ่มคนเสื้อแดง จ.ขอนแก่น มีไม่ด้อยไปกว่านายสมศักดิ์ คุณเงิน ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ อย่างไรก็ดีในโซนพื้นที่เขต 7 จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของนายนวัธ เตาะเจริญสุข (และพื้นที่เก่ากึ๊กของนายสมศักดิ์)
มีรายงานข่าวว่า นายนวัธเอง รวมถึงหัวคะแนน และชาวบ้านในพื้นที่ต้องการให้ ‘ส.จ.ตี๋’ หรือนายสุรพจน์ เตาะเจริญสุข น้องในไส้ของนายนวัธ ลงชิงเก้าอี้แทน เพราะเป็นคนกันเอง มีความใกล้ชิดชาวบ้านมากกว่านายธนิก ที่แม้เคยเป็น ส.ส.ขอนแก่นมาก่อน แต่ด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ในปี 2562 ทำให้ฐานเสียงส่วนใหญ่ของนายธนิกแตกกระซ่านเซ็นไป เหลือแค่โซน อ.มัญจาคีรี สะท้อนให้เห็นในการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา โซน อ.มัญจาคีรี นายธนิกชนะนายสมศักดิ์ แต่ไปพ่ายในโซน อ.หนองเรือ ซึ่งเป็นฐานเสียงเดิมของนายสมศักดิ์ รวมถึงนายนวัธ
ว่ากันว่า หากส่ง ‘ส.จ.ตี๋’ ลงแทนนายธนิก น่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะชนะพรรคพลังประชารัฐไปได้แม้จะหืดขึ้นคอ เพราะถูกตาต้องใจชาวบ้านมากกว่านายธนิก ที่ขึ้นชั้นเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ได้คลุกคลีตีโมงกับชาวบ้านมาหลายปีแล้ว ?
ประเด็นที่น่าสนใจทำไมพรรคเพื่อไทยส่งนายธนิกแทนนายสุรพจน์ ว่ากันว่านายธนิกพอเติบโตขึ้นชั้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้มาอยู่กับกลุ่ม ‘เจ๊’ บางคนผู้มีอิทธิพลในเขต กทม. จึงผลักดันให้นายธนิกลงสมัคร ส.ส. แต่เป็นที่ทราบกันดีว่า ‘เจ๊’ คนดังกล่าวไม่ลงรอยกันอย่างแรงกับกลุ่ม ส.ส.เพื่อไทยภาคอีสาน ที่มีกระแสข่าวว่าบินไปเคลียร์ใจกับ ‘นายใหญ่ดูไบ’ มาก่อนหน้านี้ นี่จึงเป็นอีกปัจจัยว่าทำไมพรรคเพื่อไทยจึงพ่ายแพ้ในสมรภูมิตัวเองครั้งนี้
(นายสมศักดิ์ คุณเงิน ประกาศชัยชนะเป็นว่าที่ ส.ส.เขต 7 จ.ขอนแก่น หลังทราบผลเลือกตั้งไม่เป็นทางการ,ภาพจาก เนชั่น)
สาม เลือกตั้งซ่อมที่รู้ผลอยู่แล้วว่าใครเป็นฝ่ายรัฐบาล-ค้าน ?
แม้การเลือกตั้งในปี 2562 เขาพ่ายแพ้นายนวัธ เตาะเจริญสุข ที่เป็นตัวตายตัวแทนของพรรคเครือข่าย ‘ทักษิณ’ ในช่วงที่เขาต้องเว้นวรรคการเมืองไป แบบฉิวเฉียดห่างกันประมาณ 2 พันคะแนนเศษ ปัจจัยที่ทำให้เขาแพ้ขณะนั้นเพราะกระแส ‘ไม่เอาบิ๊กตู่’ ในภาคอีสานกำลังสูง ที่สำคัญการเลือกตั้งยังไม่ทันรู้ผล ไม่มีใครคาดคิดว่าพรรคพลังประชารัฐจะจัดตั้งรัฐบาลผสมถึง 18 พรรคเพื่อค้ำยันฐานอำนาจ คสช. เอาไว้ นั่นจึงทำให้คนในพื้นที่ตัดสินใจเลือกพรรคเพื่อไทยมากกว่านั่นเอง
อย่างไรก็ดีคราวนี้เป็นการเลือกตั้งซ่อม ทุกองคาพยพในภาครัฐต่างทำงานสอดรับกับฝ่ายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อย่างเต็มที่ นอกจากนี้นโยบาย ‘กระจายรายได้-กระตุ้นเศรษฐกิจ’ ของฝ่ายรัฐบาลเอง ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่รู้สึกได้ จึงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้คะแนนเทมาทางฝั่งพรรคพลังประชารัฐมากขึ้น
แต่อีกปัจจัยสำคัญคือ การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้รู้ผลกันไปแล้วว่าฝ่ายใดเป็นรัฐบาล ฝ่ายใดเป็นฝ่ายค้าน ดังนั้นชาวบ้านซึ่งได้รับผลจากนโยบายของรัฐบาล ย่อมได้รับแรงจูงใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณที่อาจได้รับเพิ่มเติม หรือผลประโยชน์ใด ๆ ก็ตามจากส่วนกลางที่เทลงมาสู่พื้นที่ของพวกเขา นั่นจึงทำให้ผลโหวตเทกลับไปทางพรรคพลังประชารัฐอย่างล้นหลาม
(นายนวัธ เตาะเจริญสุข ถูกศาล รธน.สั่งพ้น ส.ส.หลังถูกศาลขอนแก่นพิพากษาประหารชีวิตคดีจ้างวานฆ่าทำให้ต้องมีเลือกตั้งซ่อม,ภาพจากไทยรัฐ)
สี่ คะแนนของพรรคอนาคตใหม่-พรรคประชาชาติหายไปไหน ?
หากดูผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 พื้นที่เขต 7 จ.ขอนแก่น ผู้สมัครคนหลัก ๆ ที่ได้คะแนน เช่น นายนวัธ เตาะเจริญสุข พรรคเพื่อไทย ได้ 29,710 คะแนน นายสมศักดิ์ คุณเงิน พรรคพลังประชารัฐ ได้ 26,553 คะแนน นายสมควร ไกรพน พรรคอนาคตใหม่ ได้ 12,414 คะแนน และนายนาวิน คำเวียง พรรคประชาชาติ ได้ 9,350 คะแนน
แต่ในการเลือกตั้งซ่อมเขต 7 จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2562 พบว่า นายสมศักดิ์ คุณเงิน ได้ 40,252 คะแนน ส่วนนายธนิก มาสีพิทักษ์ ได้ 38,010 คะแนน มีนายสุทัศน์ ผลบุญ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพัฒนาชาติ ได้ 306 คะแนน
หากเอาคะแนนของพรรคเพื่อไทยเดิม (ช่วงนายนวัธชนะ ส.ส.) 29,710 คะแนน บวกกับคะแนนของพรรคอนาคตใหม่เดิม (12,414 คะแนน) จะเท่ากับ 42,124 คะแนน ทว่านายธนิก กลับมีคะแนนเพียง 38,010 คะแนน
แล้วคะแนนฝ่ายพรรคร่วมฝ่ายค้านหายไปไหนอีก 4,114 คะแนน ?
ส่วนนายสมศักดิ์ คุณเงิน เดิมได้คะแนนเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2562 จำนวน 26,553 คะแนน แต่ในการเลือกตั้งซ่อมได้ 40,252 คะแนน เท่ากับว่าได้รับคะแนนเพิ่มจากเดิม 13,699 คะแนน
ถ้าเอาคะแนนของหายไปของพรรคเพื่อไทยเดิม+พรรคอนาคตใหม่เดิม จำนวน 4,114 คะแนน บวกกับคะแนนของพรรคประชาชาติเดิมจำนวน 9,350 คะแนน จะเท่ากับ 13,494 คะแนน ใกล้เคียงกับคะแนนที่นายสมศักดิ์ คุณเงินได้รับเพิ่มเติมในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ?
หากดูตามสูตรคณิตศาสตร์การเมืองนี้ เห็นได้ว่า ความนิยมของพรรคเพื่อไทย+พรรคประชาชาติ และพรรคอนาคตใหม่ ในพื้นที่เขต 7 จ.ขอนแก่น อาจเริ่มถึงจุด ‘วิกฤติศรัทธา’ แล้วเป็นไปได้หรือไม่ ?
นี่คือความเป็นไปได้ถึงสาเหตุว่าทำไมพรรคพลังประชารัฐจึง ‘เจาะไข่แดง’ พื้นที่ จ.ขอนแก่น ฐานเสียงใหญ่ของพรรคเพื่อไทยได้สำเร็จ ?
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/