'ชวน'ไม่คิดซื้อรถ7.5ล้าน วอนแยกพฤติกรรม ส.ส.กับสถาบันสภา
“ชวน" ชี้การตั้งงบซื้อรถประจำตำแหน่งไม่เกี่ยวกับประธานและไม่เคยคิดซื้อรถคันละ7.5 ล้านบาท วอนประชาชนแยกพฤติกรรมส.ส.กับสถาบันสภา ระบุทั้งสมัยสภาล่มเพียง 2 ครั้งและเป็นการพิจารณาญัตติไม่ใช่กฎหมายสำคัญ
เว็บไซต์ เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวยืนยันว่า ตนไม่เคยขอให้ตั้งงบประมาณจัดซื้อรถประจำตำแหน่งคันละ 7.5ล้านบาท แต่เป็นเรื่องของสภาไม่เกี่ยวกับตัวบุคคล ที่ถึงวาระจะต้องจัดซื้อรถประจำตำแหน่งใหม่ ของประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธานสภาผู้แทนราษฎรและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรเนื่องจากไม่มีสภามาหลายปี และเรื่องของการตั้งงบประมาณไม่ได้เกี่ยวกับประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นการกำหนดตามตำแหน่งว่าควรจะใช้งบเท่าไหร่ ซึ่งทราบว่าในอดีตเคยมีการจัดสรรงบประมาณในราคานี้ อย่างไรก็ตามเคยสอบถามเรื่องนี้ไปยังเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่าจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องซื้อในราคาดังกล่าว ซึ่งในสมัยที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรีมีสิทธิ์ซื้อรถเบนซ์ s500 แต่ก็ไม่ให้ซื้อ เพราะเห็นว่าไม่จำเป็นและอยากช่วยประหยัดงบประมาณ อีกทั้งรถที่ราคาแพงค่าใช้จ่ายอื่นก็จะแพงตามรวมทั้งค่าน้ำมัน ตอนนั้นจึงให้ซื้อรถตู้แทนเพราะสะดวกและสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าในรถได้ ในกรณีที่จะต้องเร่งรีบไปงานต่างๆ
"ผมไม่เคยคิดจะซื้อรถราคา7.5ล้านบาท เพราะไม่มีความจำเป็นและคิดว่าจะประหยัดอะไรได้ก็ควรต้องประหยัด อะไรจำเป็นต้องใช้ก็ต้องใช้ ผมเรียนว่าแม้กระทั่งตอนเป็นนายกรัฐมนตรีเขาให้ซื้อ Benz 500 แต่ผมก็ไม่เอาเพราะประโยชน์การใช้ความจำเป็นจริงๆไม่ถึงขั้นนั้น และเราก็มีรถส่วนตัวใช้อยู่ประกอบกับต้องเติมน้ำมันเอง เพราะรถยิ่งแพงเท่าไหร่ราคาน้ำมันก็ยิ่งมากขึ้น" นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวยืนยัน ว่า สภาชุดนี้ใช้งบประมาณอย่างประหยัด แม้ปลายปีงบประมาณที่ผ่านมามีงบประมาณเหลือจ่าย ตนยังหารือกับคณะกรรมาธิการทั้ง 35 คณะ ซึ่งมีบางคณะอยากจะใช้งบประมาณที่ตั้งไว้ให้หมด ยังขอว่าอะไรที่ไม่จำเป็นก็อย่าไปใช้ และยังได้คืนงบในส่วนของประธานสภาผู้แทนราษฎรไปประมาณ 500,000บาท
ส่วนกรณีที่ผลสำรวจนิด้าโพลระบุคนเบื่อสภาล่ม แนะนำให้ยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหมนั้น นายชวน กล่าว่ว่า ที่ผ่านมามีเรื่องสภาล่ม เพียง 2ครั้ง และ เป็นการพิจารณาญัตติไม่ใช่การพิจารณากฎหมายสำคัญ จึงอยากขอให้ประชาชน แยกภาพลักษณ์บุคคลออกจากสถาบันนิติบัญญัติ ไม่ควรเหมารวม และที่ผ่านมาก็ได้กำชับให้ ส.ส. ปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้สภาเป็นที่ยอมรับ และเป็นแบบอย่างที่ดี ส่วนเรื่องการยุบสภานั้นเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ที่ตนไม่ขอก้าวล่วง