เงินบาทไทยแข็งค่าน้อยสุดในภูมิภาคเอเชีย
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เผย ค่าเงินบาทไทยแข็งค่าน้อยสุดในภูมิภาคเอเชีย เหตุนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงหลังเทรดวอร์มีความคืบหน้า
เว็บไซต์ www.tnnthailand.com รายงานว่า วันนี้ ( 15 ธ.ค. 62 ) น.ส.รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ผู้บริหารกลุ่มวิจัยและวิเคราะห์ตลาดการเงิน ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.15 -30.40 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยนักลงทุนยังคงติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) วันที่ 18 ธ.ค.นี้ ที่คาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.25% เพื่อดูทิศทางเศรษฐกิจก่อนว่าเป็นอย่างไร หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปแล้ว ขณะเดียวกันต้องดูว่าการลงมติกนง.เสียงเป็นเอกฉันท์หรือไม่ รวมถึงผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนบรรลุข้อตกลงก่อน 15 ธ.ค.นี้หรือไม่
นอกจากนี้ การเลือกตั้งพรรคอนุรักษ์นิยมของนายบอริส จอห์นสัน ได้รับการเลือกตั้งจะทำให้เบร็กซิทมีความชัดเจนมากขึ้น และหนุนสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ โดยแนวโน้มมีทิศทางแข็งค่า อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 2-13 ธ.ค.การเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาคส่วนใหญ่แข็งค่า ซึ่งรูเปียห์-อินโดนีเซียมากสุด 1.8% ดอลลาร์-สิงคโปร์ 1.14 % ริงกิต-มาเลซีย 0.96% รูปี-อินเดีย 0.84 %วอน-เกาหลีใต้ 0.84% หยวน-จีน 0.75% เปโซ-ฟิลิปปินส์ 0.35% บาท-ไทย 0.04 % เยน-ญี่ปุ่นอ่อน 0.14%
ส่วน สาเหตุที่ค่าเงินบาทแข็งค่าน้อยกว่าสกุลเงินอื่น เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินอื่นมากกว่าเงินบาท จากที่ก่อนหน้านี้เงินบาทไทยแข็งค่ามากถึง 7% ขณะที่สกุลเงินอื่นอ่อนค่า เพราะทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ระดับสูง และดุลบัญชีเดินสะพัดไทยเกินดุล รวมถึงนักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาซื้อสินทรัพย์เสี่ยงคลายกังวลสงครามทางการค้า
ขณะที่ ภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายตั้งแต่ 2-12 ธ.ค.พบว่า ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 8,900 ล้านบาท ขณะที่พันธบัตรซื้อสุทธิ 13,000 บาท อย่างไรก็ตาม แนวโน้มเงินบาทยังผันผวนจากปัจจัยลบต่างประเทศผู้ประกอบการควรป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนและใช้สกุลเงินท้องถิ่นทำการค้าขายเพิ่มขึ้น
ที่มา : https://www.tnnthailand.com/content/23974