รีพับลิกันลั่นการถอดถอนทรัมป์ "จอดป้าย" ที่วุฒิสภา
แกนนำของพรรครีพับลิกันประกาศว่า แม้กระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พ้นจากผู้นำสหรัฐ จะผ่านการรับรองอย่างง่ายดายโดยสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก แต่วุฒิสภาที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากจะไม่ให้เรื่องนี้ "ได้ไปต่อ"
เว็บไซต์เดลินิวส์ อ้างสำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ว่านายลินด์ซีย์ เกรแฮม หนึ่งในสมาชิกระดับแกนนำของพรรครีพับลิกัน ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกรัฐเซาท์แคโรไลนา และประธานคณะกรรมาธิการด้านกระบวนการยุติธรรมของวุฒิสภา กล่าวระหว่างร่วมงานเสวนาด้านการเมืองระหว่างประเทศ "โดฮา ฟอรัม" ที่กรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ เมื่อวันเสาร์ เกี่ยวกับการที่สภาผู้แทนราษฎรซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก เตรียมลงมติเกี่ยวกับบทบัญญัติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่งในสัปดาห์นี้ ว่าจริงอยู่ที่บทบัญญัติดังกล่าวจะผ่านความเห็นชอบของสภาล่าง แต่เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนของสภาสูงที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก กระบวนการดังกล่าว "จะยุติอย่างรวดเร็ว"
คำกล่าวของเกรแฮมสอดคล้องกับท่าทีของนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ แกนนำเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา ซึ่งกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ว่าพรรคลีพับลิกันทราบดีว่าจะหยุดเรื่องถอดถอนผู้นำสหรัฐได้อย่างไร โดยวิจารณ์กระบวนการในชั้นของสภาผู้แทนราษฎรว่า "หลักฐานแทบไม่มีน้ำหนัก" และยืนยันว่า "ไม่มีโอกาส" ที่ทรัมป์จะต้องพ้นจากตำแหน่งในช่วงท้ายของวาระสมัยแรก พร้อมทั้งกล่าวเป็นนัยว่า "ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์" หากจะมี "งูเห่า" จากพรรคเดโมแครต เมื่อบทบัญญัติถอดถอนเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภา แต่หวังว่าจะไม่มีงูเห่าในฝั่งรีพับลิกันเช่นกัน
ทั้งนี้ การเตรียมลงมติเรื่องการถอดถอนทรัมป์โดยสภาผู้แทนราษฎร มีขึ้นหลังคณะกรรมาธิการด้านกระบวนการยุติธรรมของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ มีมติรับรองบทบัญญัติ 2 ข้อว่าด้วยการถอดถอนทรัมป์ เมื่อวันศุกร์ คือการใช้อำนาจมิชอบด้วยการกดดันให้รัฐบาลต่างชาติ ซึ่ง ณ ที่นี้คือรัฐบาลยูเครน สอบสวนบุตรชายของคู่แข่งทางการเมือง คือนายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของอดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต และตั้งเงื่อนไขเป็นงบประมาณสนับสนุนกองทัพยูเครน และการขัดขวางกระบวนการทำงานของสภาคองเกรส หมายถึงการที่ผู้นำสหรัฐไม่ให้ความร่วมมือหรือไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงในปัจจุบัน และอดีตผู้ที่เคยทำงานร่วมกับทรัมป์ในทำเนียบขาวหลายคน ให้การต่อคณะกรรมาธิการเฉพาะกิจของสภาผู้แทนราษฎร อีกทั้งยังปิดกั้นสิทธิ์ของคณะกรรมาธิการในการเข้าถึงเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้อง .