ลุ้น 'เปรมชัย' ฟังคำตัดสินศาลอุทธรณ์ข้อหาตัวการล่า "เสือดำ"
ชี้ชะตา "เปรมชัย" คดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี หลังอัยการศาลสูงจังหวัดกาญจนบุรี ขออุทธรณ์โทษหนักฐานเป็นตัวการให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่า (เสือดำ) ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และอีก 4 ข้อหา
เว็บไซต์ www.news.thaipbs.or.th รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.55 น.นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน เดินทางถึงศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เพื่อรับฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร โดยศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7
นายเปรมชัย มาถึงศาลจังหวัดทองผาภูมิ โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด พร้อมเข้ารับฟังการพิจารณาคดีทันที
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2562 ศาลชั้นต้นได้ ตัดสินลงโทษ จำเลยที่ 1 นายเปรมชัย จำคุก 16 เดือน ไม่รอลงอาญา จาก ดังนี้ 1.ข้อหาร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต พิพากษา จำคุก 6 เดือน 2.ข้อหาล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 3.ข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ จำคุก 8 เดือน
4.ข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 5.ข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยกระทำความผิดกฎหมาย (กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักที่สุด) จำคุก 2 เดือน
จำเลยที่ 2 นายยงค์ โดดเครือถูกลงโทษจำคุก 13 เดือน จำเลยที่ 3 นางนที เรียมแสน จำคุก 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา มีกำหนด 2 ปี จำเลยที่ 4 นายธานี ทุมมาศ รวมโทษจำคุก 2 ปี 17 เดือน
นอกจากนี้ศาลสั่งให้ จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 4 ร่วมกันชำระค่าเสียหาย 2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 4 ก.พ.2561
เปิดคำขออุทธรณ์ข้อหาตัวการล่าเสือดำ
ต่อมาวันที่ 24 พ.ค.2562 อัยการศาลสูงจังหวัดกาญจนบุรี ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น ในประเด็นสำคัญคือ นายเปรมชัย จำเลยที่ 1 ดังนี้
อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานเป็นตัวการให้ผู้อื่นล่าสัตว์ป่า (เสือดำ) ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันเก็บหาของป่าภายในเขตป่าสงวน
อุทธรณ์ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษายกฟ้อง
อุทธรณ์ว่าการมีซากเสือดำ และซากไก่ป่า (ไก่ฟ้าหลังเทา) เป็นการกระทำหลายกรรม (ศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียว)
อุทธรณ์ ข้อหาร่วมกันพกพาอาวุธปืน และพาอาวุธมีด เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ซึ่งศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษาว่าเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงบทหนัก ฐานพาอาวุธปืน อุทธรณ์ขอให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย จำนวน 3,012,000 บาท เต็มตามฟ้อง