ผู้ใหญ่บ้านวอนทบทวนคุมตัว 6 ผู้ต้องสงสัย-ทหารแจงเชิญไปแสดงความบริสุทธิ์
ความคืบหน้าการติดตามตัวคนร้าย ก่อเหตุยิงถล่มป้อม ชรบ. ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา เบื้องต้นยังคงมีผู้ต้องสงสัยอยู่ในการควบคุมตัวของฝ่ายความมั่นคง 8 คน ซึ่งมีการคุมตัวมาก่อนหน้านี้ 2 คน และจากเปิดยุทธการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายอีก 6 คน จนเกิดข้อกังวลจากทางฝั่งผู้นำชุมชน
เว็บไซต์พีพีทีวีรายงานว่าที่วัดลำใหม่ จ.ยะลา เป็นจุดที่ตั้งเป็นกองอำนวยการร่วมชั่วคราว ติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัย ถล่มป้อมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ต.ลำพะยา ซึ่งใช้ในการคัดกรอง ทำประวัติ และเก็บดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยที่ควบคุมตัวได้ก่อนส่งไปศูนย์ซักถาม ในค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี
นอกจากนี้ ยังคุมเข้มตรวจรถเข้า-ออกอย่างละเอียด โดยอนุญาตให้เฉพาะเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่มาร่วมงานศพเข้าไป แต่สื่อมวลชนไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้
ผู้ใหญ่บ้านวอนทบทวนคุมตัว 6 ผู้ต้องสงสัย-ทหารแจงเชิญไปแสดงความบริสุทธิ์
ส่วนความคืบหน้าในการติดตามคนร้าย ยังไม่มีรายงานคุมตัวผู้ต้องสงสัยเพิ่ม โดยขณะนี้ฝ่ายความมั่นคงยังยืนยันว่า มีผู้ต้องสงสัย 8 คน โดย 2 คนถูกคุมตัวไปก่อนหน้านี้ และ 6 คนคุมตัวผ่านยุทธการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายเมื่อวาน
อีกหนึ่งยุทธวิธี ส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ เข้าไปลาดตระเวนตามแนวเขานางจันทร์จุดที่พบหลักฐานว่าเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มคนร้าย และตามแนวเขาโดยแทรกซึมเข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อกดดันกลุ่มแนวร่วมก่อเหตุ หลังพบว่ามีเบาะแสกลุ่มคนร้ายใช้หมู่บ้าน และอาศัยญาติพี่น้องเป็นแหล่งกบดาน
ผู้ต้องสงสัย 6 คนส่วนใหญ่คุมตัวจากบ้านต้นหยี หมู่ 7 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา เพราะข้อมูลของฝ่ายความมั่นคงพบว่า คนร้ายใช้เส้นทางในหมู่บ้านหลบหนี โดยมีคนพื้นที่ให้การสนับสนุน
ผู้ใหญ่บ้านวอนทบทวนคุมตัว 6 ผู้ต้องสงสัย-ทหารแจงเชิญไปแสดงความบริสุทธิ์
ประเด็นนี้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 บ้านต้นหยี แสดงความกังวล เพราะอ้างว่า ผู้ต้องสงสัย 3 ใน 6 คนที่เจ้าหน้าที่คุมตัวไปจากหมู่บ้านไม่เคยมีประวัติการก่อเหตุโดยชาวบ้าน 3 คนที่ ผู้ใหญ่บ้านอ้างถึง ถูกปล่อยตัวแล้ว 2 คนเมื่อวาน พร้อมขอให้ฝ่ายความมั่นคงทบทวนกระบวนการการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย
แม้ผู้นำชุมชนจะแสดงความกังวล แต่เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจยะลา พยายามทำความเข้าใจกับชุมชนและครอบครัวผู้ต้องสงสัย โดยระบุว่าการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย เป็นเพียงการเชิญไปซักถาม เก็บข้อมูลดีเอ็นเอ พร้อมย้ำว่า หากพยานหลักฐานไม่เชื่อมโยง และไม่ได้กระทำผิด ก็ไม่สามารถเอาผิดได้
สำหรับการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย เจ้าหน้าที่โดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบแฟ้มประวัติคดีความมั่นคง ผู้ต้องสงสัยบางคนเคยมีประวัติถูกเชิญตัวมาให้ข้อมูลหลายครั้ง ตามหมาย พ.ร.ก. และบางคนเคยมีคดีตามหมาย ป.วิอาญาด้วย
หลักฐานสำคัญที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ให้ความสำคัญ คือดีเอ็นเอ ที่เชื่อว่าเป็นของคนร้ายที่บาดเจ็บจากการปะทะ ซึ่งพบใกล้จุดเกิดเหตุ และทันทีที่ผลตรวจดีเอ็นเอออกมา ฝ่ายความมั่นคงจะแถลงข่าว ถึงความขัดเจนในการคุมตัวผู้ต้องสงสัยทั้งหมด