เปิดรายงานศูนย์ข่าวสืบสวนวิสคอนซิน กับข้อหาครอบครองกัญชาเล็กน้อยส่งผลกระทบทั้งชีวิต
"...ประวัติกระทำความผิดเกี่ยวกับกัญชานั้นจะส่งผลให้ผู้ทำผิดหางานได้ยากขึ้น ไม่ได้รับอนุมัติให้มีใบอนุญาตการทำงาน และไม่ได้รับความช่วยเหลือทางด้านการเงินเพื่อการศึกษาและที่อยู่อาศัยหรืออื่น ๆ จากรัฐ นอกจากนี้ ยังอาจถูกห้ามไม่ให้ทำหน้าที่เป็นลูกขุนหรือถูกห้ามแม้กระทั่งการใช้สิทธิเลือกตั้งในบางมลรัฐด้วย..."
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org :เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Wisconsinwatch ซึ่งเป็นเว็บไซต์ศูนย์กลางด้านการทำข่าวสืบสวนสอบสวนของรัฐวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้นำเสนอรายงานข่าวระบุถึงปัญหาการลงโทษสถานเบา ต่อผู้ที่ครอบครองกัญชาจำนวนน้อยในรัฐวิสคอนซิน แม้จะเป็นการลงโทษสถานเบาและระยะเวลาการลงโทษได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ผลจากการต้องถูกลงโทษดังกล่าวนั้นส่งผลต่อผู้ถูกลงโทษเป็นระยะเวลายาวนานทั้งในเรื่องปัญหาการหางาน การซื้อบ้าน ที่อยู่อาศัย และการได้รับการสนับสนุนของรัฐ
----------------------------
สืบเนื่องจากในปี 2561 มีผู้ถูกจับกุมในมลรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา กว่า 17,000 ราย ข้อหามีกัญชาไว้ครอบครอง และกว่า 18,000 ราย ในข้อหาจำหน่ายกัญชา
Wisconsinwatch รายงานว่า ในกรณีที่บุคคลเหล่านี้ถูกตัดสินว่ากระทำความผิดซึ่งถึงแม้บางข้อหาจะเป็นเพียงความผิดเล็กน้อย แต่ก็อาจก่อให้เกิดผลกระทบที่มากไปกว่าโทษอาญาได้ คือ การถูกกีดกันการทำงาน ไม่ได้รับใบอนุญาต หรือถูกตัดสิทธิการได้รับความช่วยเหลือบางประการจากรัฐ
ตัวอย่างเช่นในปี 2540 นายไมเคิล (นามสมมติ) ซึ่งในขณะนั้นมีอายุ 18 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจค้นเพื่อหากัญชาที่ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อมูลมาว่านายไมเคิลมีอยู่ในครอบครอง ซึ่งต่อมานายไมเคิลได้ยอมรับและส่งมอบกัญชาจำนวนทั้งหมด 3.5 กรัมให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ การถูกจับครั้งนี้ส่งผลให้นายไมเคิลถูกไล่ออกจากงานก่อนที่เขาจะถูกศาลตัดสินว่ากระทำความผิดเสียอีก โดยนายจ้างอ้างว่านายไมเคิลทำผิดระเบียบของบริษัทเรื่องยาเสพติด
ต่อมานายไมเคิลถูกตัดสินจำคุก 18 เดือน โดยรอลงอาญา และถูกสั่งห้ามขับขี่รถยนต์เป็นเวลา 6 เดือน
นอกจากนี้นายไมเคิลยังได้รับผลกระทบอื่นอีก โดยเขาเรียกมันว่า "ชีวิตของลหุโทษ" ที่ประวัติการกระทำความผิดได้ติดตามตัวเขาไปตลอดเวลา
ประวัติกระทำความผิดเกี่ยวกับกัญชานั้นจะส่งผลให้ผู้ทำผิดหางานได้ยากขึ้น ไม่ได้รับอนุมัติให้มีใบอนุญาตการทำงาน และไม่ได้รับความช่วยเหลือทางด้านการเงินเพื่อการศึกษาและที่อยู่อาศัยหรืออื่น ๆ จากรัฐ นอกจากนี้ ยังอาจถูกห้ามไม่ให้ทำหน้าที่เป็นลูกขุนหรือถูกห้ามแม้กระทั่งการใช้สิทธิเลือกตั้งในบางมลรัฐด้วย
สถาบันเนติบัณฑิตของสหรัฐอเมริกา (The American Bar Association) ได้รวบรวมผลกระทบในทางลบที่อาจจะเกิดขึ้นได้มากกว่า 641 รายการ จากการถูกตัดสินว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับกัญชาเพียงเล็กน้อย ซึ่งสามในสี่จะเป็นผลกระทบที่อาจจะตามติดผู้กระทำความผิดไปได้ตลอดชีวิต
20 ปีภายหลังจากที่นายไมเคิลถูกจับ นายโทนี่ เอเวอรส์ (Governer Tony Evers) ผู้ว่าการรัฐวิสคอนซิน ได้ริเริ่มความคิดเปลี่ยนแปลงกฎหมายเพื่อลดความรุนแรงในผลอันเกิดจากการกระทำความผิดสำหรับกรณีมีกัญชาในครอบครองไม่เกิน 25 กรัม นอกจากนี้นายโทนี่ยังได้มีความคิดในการยกเลิกโทษทั้งหมดรวมทั้งโทษปรับด้วย
นายโทนี่ เอเวอรส์ (Governer Tony Evers) ผู้ว่าการรัฐวิสคอนซิน
ความพยายามดังกล่าวเป็นความพยายามที่จะทำให้ความผิดเกี่ยวกับกัญชาไม่เป็นความผิดทางอาญา (Decriminalization) แต่ยังไม่ถึงขั้นทำให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมาย (Legalization)
ผู้อยู่อาศัยในมลรัฐวิสคอนซินนั้นก็เห็นด้วยกับการแก้ไขกฎหมายให้บางข้อหาเกี่ยวกับกัญชาไม่เป็นความผิดทางอาญาหรือการอนุญาตให้ใช้กัญชาได้สำหรับบางวัตถุประสงค์ โดยได้รวมตัวกันเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขกฎหมายดังกล่าว แต่ในท้ายที่สุดนโยบายดังกล่าวก็ถูกตีตกในชั้นพิจารณาของสภาโดยฝ่ายพรรครีพับลิกัน (Republican) ซึ่งถ้าหากกัญชาได้กลายเป็นสิ่งถูกกฎหมายแล้ว นายไมเคิลก็คงจะไม่ถูกนายจ้างไล่ออก เนื่องจากกฎหมายว่าด้วยความเท่าเทียมในการจ้างแรงงานนั้น ห้ามมิให้ผู้ใดกีดกันบุคคลใดเนื่องจากผู้นั้นใช้สินค้าที่ถูกกฎหมาย
นางเมแกน โอซาวสกิ (Megan Osowski) ผู้อำนวยการศูนย์จัดหาที่อยู่อาศัยให้คนไร้บ้านแห่งหนึ่งในมลรัฐวิสคอนซินกล่าวว่า มีหลายครั้งที่ผู้เช่าถูกปฏิเสธไม่ให้เช่าบ้านเนื่องจากเป็นผู้มีประวัติอาชญากรรม โดยเฉพาะบริษัทให้เช่ารายใหญ่ซึ่งผู้เช่าไม่สามารถต่อรองหรือให้คำอธิบายเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรมของเขาได้ และในอีกหลายครั้ง บุคคลเหล่านี้ยังถูกปฏิเสธไม่ได้รับความช่วยเหลือสวัสดิการรัฐในส่วนของค่าบ้านอีกด้วย
นอกจากนี้ บรรดานักศึกษาที่โดนจับข้อหาการกระทำผิดเกี่ยวกับกัญชาในระหว่างได้รับเงินช่วยเหลือทางการศึกษาอาจถูกระงับความช่วยเหลืออื่นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม บุคคลเหล่านี้อาจกลับมาขอสิทธิได้อีกครั้งหากผ่านโปรแกรมการบำบัดยาเสพติด
นายไมเคิลเล่าว่า ในขณะที่เขาอยู่มหาวิทยาลัยและต้องการเช่าห้องพัก เขาถูกปฏิเสธสิทธิที่จะได้เช่าห้องพักในราคานักศึกษาเนื่องจากประวัติอาชญากรรม ซึ่งแทนที่เขาจะได้จ่ายค่าเช่าในราคา 560 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 17,000 บาท เขากลับต้องจ่ายในราคา 1,700 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 51,600 บาท
สิ่งที่เกิดขึ้นคือผลจากการที่นายไมเคิลถูกตีตราว่าเป็น "ผู้ร้ายยาเสพติด"
หลังจากที่นายไมเคิลถูกไล่ออกจากงาน เขาไม่สามารถอ้างอิงประสบการณ์การทำงานที่เดิมของเขาเพื่อหางานใหม่ได้ นอกจากนี้บุคคลใด ๆ ในมลรัฐวิสคอนซินยังสามารถตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของเขาได้ตลอดเวลาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยผ่านเว็บไซต์ https://www.wicourts.gov/casesearch.htm หรือ CCAP
นายไมเคิลปฏิเสธที่จะไม่เข้าร่วมบำบัดยาเสพติดเนื่องจากเขาจะต้องเสียค่าใช้จ่ายหลายร้อยดอลลาร์ต่อวัน กลับกลายเป็นเขาต้องเข้าออกคุกอีกหลายครั้ง
บุคคลรอบตัวนายไมเคิลบอกเขาว่า ไม่ควรสนใจที่เรื่องค่าใช้จ่ายแต่เป็นเรื่องการช่วยให้เขาดีขึ้น แต่เขาเป็นเพียงคนเดียวในโปรแกรมที่ใช้กัญชา ในขณะที่คนอื่นมีพฤติกรรมติดสุราหรือยาเสพติดร้ายแรงประเภทอื่น ส่งผลให้แทบไม่มีใครเชื่อเขาเลยว่าเขาโดนสั่งให้เข้ารับการบำบัดเนื่องจากสูบกัญชา
ในที่สุด นายไมเคิลจึงได้บอกกับตัวเองว่า เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เขาไม่สามารถหางานได้ เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ต่อมานายไมเคิลถูกจับข้อหาขโมยรถ และมีกัญชาและโคเคนในครอบครองเพื่อขาย ส่งผลให้เขาถูต้องโทษจำคุกเป็นเวลาห้าปี
เมื่อนายไมเคิลถูกปล่อยตัว เขาได้กลับเข้าเรียนหนังสือและจบการศึกษาคณะบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน (Wisconsin University)
ในปัจจุบัน กฎหมายของมลรัฐวิสคอนซินบัญญัติห้ามการกระทำอันเป็นการเลือกปฏิบัติเนื่องมาจากประวัติอาชญากรรม แต่ในอีกมุมหนึ่งกฎหมายคุ้มครองแรงงานก็กำหนดว่า นายจ้างอาจปฏิเสธการจ้างงานเนื่องจากประวัติอาชญากรรมได้เฉพาะกรณีที่การกระทำความผิดนั้น"เกี่ยวข้องกับงานที่ทำ"เท่านั้น ตัวอย่างเช่น นายจ้างอาจปฏิเสธไม่จ้างพนักงานขายของในกรณีที่บุคคลนั้นมีประวัติลักทรัพย์ได้
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความไม่ชัดเจนในเรื่องการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้นิยามคำว่า "เกี่ยวข้องกับงานที่ทำ" ไว้อย่างชัดเจน นั่นหมายถึงว่าอำนาจในการตัดสินใจยังคงอยู่ที่นายจ้าง และยาเสพติดนั้นอาจถูกตีความเชื่อมโยงไปได้กว้าง
ในปี 2561 พบว่าร้อยละ 22 ของผู้ร้องเรียนได้รับผลกระทบจากการเลือกปฏิบัติโดยนายจ้าง ในขณะที่ร้อยละ 17 ของคู่กรณีได้ตกลงยอมความกัน
ถึงกระนั้น การหาที่พักอาศัยของผู้มีประวัติอาชญากรรมยังคงไม่ได้รับความคุ้มครองโดยกฎหมาย เนื่องจากผู้ให้เช่ามีสิทธิปฏิเสธผู้เช่าที่มีประวัติอาชญากรรมได้
ในช่วงปี 2559 รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้พยายามกำหนดแนวทางการเลือกรับผู้เช่าที่มีประวัติอาชญากรรม และผู้ให้เช่าอาจมีความผิดอาญาหากการเลือกปฏิบัติเนื่องจากประวัติอาชญากรรมนั้นส่งผลให้กลายเป็นการเลือกปฏิบัติบนพื้นฐานของเชื้อชาติ สีผิว ศาสนา เพศ บุคคลพิการ สถานะทางสังคม หรือเผ่าพันธุ์ด้วย
นายวินเซนต์ เซาท์เธอร์แลนด์ (Vincent Southerland) ผู้อำนวยการศูนย์ความเชื้อชาติและความไม่เท่าเทียม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนิวยอร์กกล่าวสรุปว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อบุคคลนั้นใหญ่หลวงมากและกระทบต่อชีวิตอย่างเรื่องที่อยู่อาศัย การศึกษา และการประกอบอาชีพ ซึ่งเป็นรากฐานของหนทางสู่ความสำเร็จ บทลงโทษที่มีนั้นไม่เหมาะสมกับความผิดที่กระทำ ทั้งยังเปลี่ยนแปลงชีวิตของคน ๆ หนึ่งเพียงเพราะความผิดเล็กน้อยเท่านั้น
นายวินเซนต์ เซาท์เธอร์แลนด์ (Vincent Southerland) ผู้อำนวยการศูนย์ความเชื้อชาติและความไม่เท่าเทียม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก
เรียบเรียงจาก:https://www.wisconsinwatch.org/2019/10/how-a-little-pot-can-lead-to-big-consequences-for-tens-of-thousands-of-wisconsin-residents/?utm_medium=Social&utm_source=Facebook&fbclid=IwAR0b0BBhgi0XCenvQLrorxkaCJROmCeEAc-WnctIPwpo8XsJRoGdv-sC72Q#Echobox=1572282817
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/