“ทูตเยาวชน” One Young World ปี 2018 ส่งต่อมุมมอง “คิด เปลี่ยน โลก” เพื่อความยั่งยืน
“ทูตเยาวชน” One Young World ปี 2018 ส่งต่อประสบการณ์และมุมมอง “คิด เปลี่ยน โลก” เพื่อความยั่งยืน แก่ผู้นำเยาวชนตัวแทนประเทศไทยที่จะบินลัดฟ้าไปลอนดอนเพื่อร่วมการประชุมระดับโลก One Young World Summit 2019
“ลองจินตนาการดูว่าโลกจะเป็นอย่างไรหากคุณสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ คุณทุกคนมีพลังที่จะสร้างโลก” เป็นคำกล่าวของ ศาสตราจารย์มูฮัมหมัด ยูนูส ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ที่ได้ฝากข้อคิดซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายถึงคนรุ่นใหม่กว่า 2 พันคนที่เข้าร่วมในการประชุม One Young World Summit 2018 ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อปีที่ผ่านมา
ข้อความดังกล่าวสอดคล้องกับความเชื่อมั่นในพลังของเยาวชนคนรุ่นใหม่ และมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการพัฒนาที่ยั่งยืนของ “เครือเจริญโภคภัณฑ์” ที่ได้เดินหน้า โครงการ “ซีพีสานฝัน ปันโอกาส สู่ผู้นำรุ่นใหม่ One Young World” สนับสนุนผู้นำรุ่นใหม่จากกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในเครือเจริญโภคภัณฑ์และผู้นำเยาวชนจากองค์กรภายนอก เป็นตัวแทนจากประเทศไทยเข้าร่วมในการประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนระดับโลก “One Young World Summit” เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดการเปลี่ยนโลกไปสู่ความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันเป็นปีที่ 5
โดยการประชุมสุดยอดผู้นำรุ่นใหม่ One Young World มีการจัดประชุมมาแล้วทั้งสิ้น 9 ครั้ง โดยครั้งแรกจัดขึ้นในปี พ.ศ. 2553 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยมีจุดเด่นคือ เป็นเวทีที่สร้างแบบแผนการดำเนินงานแก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ในการคิดและลงมือปฏิบัติในประเด็นปัญหาต่างๆ ที่โลกกำลังเผชิญเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และในครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งที่ 10 ได้กลับไปจัดที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ อีกครั้ง เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระการครบรอบ 10 ปีของการจัดการประชุม โดยมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-25 ตุลาคม 2562 ซึ่งจะมีผู้นำรุ่นใหม่จากประเทศไทยในโครงการ ซีพีสานฝัน ปันโอกาส สู่ผู้นำรุ่นใหม่ One Young World” เข้าร่วมประชุมด้วยจำนวน 21 คน ทั้งนี้ นายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติที่ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญระดับโลกที่สนับสนุนเวทีการประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนระดับโลก One Young World ได้เคยกล่าวถึงความสำคัญของการจัดการประชุม One Young World ไว้ว่า “ในทุกปีที่ฉันก้าวออกมาจากงานประชุมผู้นำเยาวชนโลก ฉันมีความหวังและความมั่นใจว่าอนาคตของเรายังไม่สูญสิ้น” โดยปัจจุบันมีเครือข่ายผู้นำเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่เกิดขึ้นจากเวทีนี้จำนวนกว่า 10,000 คนทั่วโลก และมีผู้คนมากกว่า 17.5 ล้านคนที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นจากโครงการที่ดำเนินงานโดยทูตเยาวชน One Young World
สำหรับ นางสาวอมิตา ยาดาฟ ซึ่งเป็นผู้นำรุ่นใหม่จากกลุ่มธุรกิจในเครือเจริญโภคภัณฑ์ และเป็นทูตเยาวชน One Young World ประจำปี 2018 กล่าวว่าเวที One Young World ได้ให้ประสบการณ์ที่ดีมาก โดยเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อโลกใบนี้ของตัวเธอไปอย่างสิ้นเชิง และทำให้เธอได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากผู้นำรุ่นใหม่จาก 190 ประเทศที่มาร่วมกันหาทางออกให้กับปัญหาต่างๆ ของโลก เช่น ปัญหาสิทธิมนุษยชน การเข้าถึงน้ำดื่มที่สะอาด การลดปัญหาความอดอยากในเด็ก และการศึกษา
“ฉันให้ความสนใจในประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน เพราะมีความเชื่อเกี่ยวกับความเท่าเทียม จึงทำให้มีความประทับใจเป็นพิเศษกับ คูมิ ไนดู ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนและเป็นเลขาธิการ Amnesty International ที่กล่าวว่าเราต้องสร้างโลกที่สังคมให้ความเคารพในสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้องและเราควรมีเป้าหมายที่มากกว่า Sustainable Development Goals 17 ข้อ เนื่องจากมีปัญหาอื่นๆ นอกเหนือจากเป้าหมาย 17 ข้อนี้ ซึ่งแรงบันดาลใจที่ได้รับทำให้ฉันมีความหวังและความมั่นใจที่จะกลับมาทำงานเพื่อสังคมในเรื่องเหล่านี้ เพราะในประเทศอินเดียอย่างเรื่องห้องน้ำถือเป็นประเด็นด้านสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน หรือการมีรอบเดือนในเพศหญิงก็เช่นกัน ผู้ปกครองในอินเดียมักไม่ให้เด็กหญิงไปโรงเรียนเพราะพวกเธอไม่มีผ้าอนามัยใช้ ทำให้เด็กหญิงไม่ได้เรียนหนังสือ ดังนั้นจึงควรมีการเพิ่มความตระหนักรู้ว่าเด็กหญิงควรได้ไปโรงเรียนในช่วงที่พวกเธอมีรอบเดือน รวมถึงพวกเธอควรมีสิทธิในการได้รับความเอาใจใส่เรื่องสุขภาพของเพศหญิงอย่างถูกสุขลักษณะ”
โดยอมิตายังกล่าวอีกว่า เวที One Young World ทำให้ตัวเธอนั้นรู้สึกมีความหวังและมีความมั่นใจ และที่สำคัญที่สุด One Young World ทำให้ฉันมีสิทธิ์มีเสียง “การเปลี่ยนแปลงโลกนั้นไม่จำเป็นต้องเริ่มจากเรื่องที่ใหญ่ แต่สามารถเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ อย่างเช่นที่ ศาสตราจารย์มูฮัมหมัด ยูนูส ได้กล่าวไว้ว่า จงฝันให้ใหญ่และจงมีความอดทนมากพอที่จะก้าวไปทีละก้าว หากคุณกำลังคิดที่จะเปลี่ยนแปลงโลก คุณควรมีส่วนร่วมด้วย เราทุกคนมีส่วนร่วมในฐานะมนุษยชาติ คุณควรตระหนักถึงศักยภาพส่วนบุคคล เราสามารถสร้างความแตกต่างได้ด้วยตัวคนเดียว แต่เราสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ถ้าร่วมมือกัน และนั่นคือสิ่งที่เราต้องการ” อมิตาระบุ
ด้านนางสาวมนัสวี ศุระศรางค์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับโอกาสจากเครือเจริญโภคภัณฑ์เป็นตัวแทนประเทศไทยจากองค์กรหน่วยงานภายนอกให้ได้เข้าร่วมในเวที One Young World และเป็น ทูตเยาวชนประจำปี 2018 กล่าวถึงเวทีการประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนคนรุ่นใหม่ว่า ตัวของเธอนั้นได้รับประสบการณ์ที่ดีมากจากการเข้าร่วมการประชุมในครั้งนั้น และทำให้เกิดมุมมองในการทำงานรวมไปถึงการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นกับสังคมไทยหรือสังคมโลกว่า ทุกๆ คนสามารถเป็นแรงบันดาลใจในการเริ่มทำอะไรบางอย่างด้วยตัวเอง และทุกคนสามารถที่จะทำได้เลยในวันนี้เดี๋ยวนี้โดย One Young World ทำให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงพลังที่อยู่ในตัวพวกเขาทุกคนว่าคนรุ่นใหม่สามารถทำอะไรได้หลายอย่างและสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงโลกได้ด้วยตัวของพวกเขาเอง
“ประเด็นหนึ่งที่จาก guest speaker ที่น่าสนใจคือเรื่องของการทำธุรกิจเพื่อสังคมอย่างเรื่องของห้องน้ำในประเทศอินเดียที่ไม่ถูกสุขลักษณ์ที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ มากมาย ซึ่งห้องน้ำเป็นเรื่องเบสิกที่ประทับใจที่เรามองเห็นได้ ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถทำเป็นธุรกิจเพื่อสังคมหรือ Social Enterprise ที่ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องผลกำไรและความร่ำรวย แต่สามารถช่วยเหลือคนอื่นๆ และแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน”
นอกจากนี้ มนัสวี ยังกล่าวอีกว่าสิ่งที่ได้รับนอกจากประสบการณ์และมุมมองใหม่ๆ เวที One Young World ทำให้ตัวเธอเองรู้สึกว่า ถ้าเราต้องการหรืออยากที่จะทำอะไรก็ทำไปได้เลย ไม่ว่าคุณจะทำโปรเจ็คอะไรเพื่อสังคมหรือแม้กระทั่งอาชีพอะไรก็ได้ ไม่ต้องไปทำอะไรที่มันต่างไปจากงานที่ทำอยู่ก็ได้ แต่ไม่ว่าเราจะทำอาชีพอะไรหรือทำอะไรก็ตาม ขอให้สิ่งที่ทุกคนกำลังทำอยู่ทุกวันนี้ ทำในแบบที่ดี ที่หมายถึงดีต่อเพื่อนมนุษย์เท่านั้นเองก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้แล้ว
“เพราะการเปลี่ยนแปลงมันไม่ใช่เรื่องที่ยิ่งใหญ่ บางครั้งเราคิดว่าเราจะเปลี่ยนแปลงโลกจากสิ่งที่ยิ่งใหญ่หรือโปรเจ็คที่พิเศษหรือเราต้องทำอะไร แต่ว่าเวทีนี้ทำให้เห็นว่าทุกอาชีพมีความสำคัญและทุก position ในโลกมีความสำคัญกันหมด คุณแค่ทำหน้าที่ของคุณ และทำให้ดีที่สุดโดยไม่ต้องไปเบียดเบียนใคร คำว่าโลกมันอาจจะไม่ใช่โลกที่มีหลายประเทศ โลกมันอาจจะเป็นแค่คนที่อยู่ข้างข้างเราตัวเราก็คือโลกแล้วมันคือสังคม เราไม่ต้องไปมองไกลขนาดนั้นเรามองแค่ตรงนี้ว่าจะทำตัวเองให้ดีขึ้น ทำให้ผู้คนรอบข้างดีขึ้นแล้ว เหมือนเวลาเราเจอคนใจดีเราก็รู้สึกอยากใจดีตามแค่นั้นโลกก็เปลี่ยนแล้ว” น้องไหมกล่าวสรุป
“โคฟี่เคยกล่าวไว้ว่าการเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นคนใหญ่โต ถึงจะมีความคิดที่ยิ่งใหญ่ เราต้องไม่สิ้นหวัง คุณคือผู้นำของวันพรุ่งนี้และสามารถเป็นความเปลี่ยนแปลงที่คุณอยากเห็น” บ็อบ เกลดอฟ นักดนตรีและนักเคลื่อนไหว ได้อ้างถึงคำพูดของ Kofi Annan อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติและที่ปรึกษาของการประชุม One Young World ผู้ล่วงลับ เพื่อตอกย้ำให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ทุกคนว่า พลังแห่งความเปลี่ยนแปลงอยู่ในมือของทุกๆ คนแล้ว และความเปลี่ยนแปลงนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อทุกคนรวมพลังและลงมือทำ
ติดตามและส่งกำลังใจให้ตัวแทนประเทศไทยได้ทาง FB Fanpage : One Young World Thailand by CPG #OYW2019 #CPGYoungLeaders # #IgniteTheFuture