เปิดหนังสือองคมนตรี ปรับระบบฎีกาขอพระราชทานความเป็นธรรม-ตีกรอบช่วยราษฎร1ปีได้ข้อยุติ
"...ขอความร่วมมือให้หน่วยงานของท่านกำชับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติให้รายงานแจ้งผลการให้ความช่วยเหลือ ข้อมูล หรือข้อคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาให้สำนักงานองคมนตรีทราบภายในกำหนดเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ หากไม่สามารถดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา หรือหาข้อยุติเพื่อนำเสนอข้อมูลหรือข้อคิดเห็นให้สำนักงานองคมนตรีทราบภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ขอให้หน่วยงานของท่านแจ้งรายงานการดำเนินการให้สำนักงานองคมนตรีทราบเป็นระยะทุก 30 วัน จนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ ซึ่งไม่ควรใช้ระยะเวลาในการดำเนินการเกิน 1 ปี ยกเว้นเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้มีข้อยุติที่สมบูณ์..."
"ขอให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเรื่องทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานความเป็นธรรมและฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือ โดยเฉพาะในประเด็นการตรวจสอบข้อมูลเรื่องทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา แนวทางการให้ความช่วยเหลือและประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และแนวทางการดำเนินการกี่ยวกับการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา"
"สำหรับหลักเกณฑ์และแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานความเป็นธรรมและฎีกา ขอพระราชทานความช่วยเหลือ ตามมติที่ประชุม สำนักงานองคมนตรี เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2562 มีจำนวน 14 ประเด็นหลัก มุ่งเน้นการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล รวมถึงการเร่งรัดการแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จโดยเร็วอาทิ กรณีมีเรื่องทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้ว่า เรื่องที่ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ผู้ที่ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกามีความยากจนจริงหรือไม่ ก่อนที่จะให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น เนื่องจากมีบางหน่วยงานได้มอบเงินช่วยเหลือผู้ฎีกา แต่ต่อมาตรวจพบว่าไม่ได้มีฐานะยากจนตามที่ฎีกา "
"หรือ หากส่วนราชการเห็นว่าผู้ฎีกามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แจ้งข้อมูลเท็จ ไม่ยินยอมให้ข้อมูล หรือมีเหตุอันไม่สมควรได้รับความช่วยเหลือให้ยุติความช่วยเหลือได้ทันที และรายงานให้สำนักงานองคมนตรีทราบ"
คือ ข้อความสำคัญ ที่ปรากฎอยู่ในหนังสือ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ที่ทำแจ้งเวียนถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด ให้รับทราบแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานความเป็นธรรมและฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือ หลังได้รับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทย ว่า สำนักงานองคมนตรี ได้จัดประชุมหารือเกี่ยวกับการฎีกาขอพระราชทานความเป็นธรรมและฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือ เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2562 ณ ห้องประชุมสำนักงานองคมนตรี ที่ผ่านมา ตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้ว (อ่านประกอบ : สนง.องคมนตรี กำหนด 14 แนวทางปฏิบัติทูลเกล้าฯถวายฎีกา -แจ้งข้อมูลเท็จ ยุติช่วยเหลือทันที)
อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากการกำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานความเป็นธรรมและฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือ ดังกล่าวแล้ว
สำนักงานองคมนตรี ยังได้กำหนดแนวทางการแจ้งรูปแบบการจัดส่งเอกสารฎีกาขอพระราชทานความเป็นธรรมและฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือ แก่ส่วนราชการเพื่อพิจารณาดำเนินการ รวมไปถึงกรอบระยะเวลาในการดำเนินการแก้ไขปัญหา เพื่อหาข้อยุติเรื่องความเดือนร้อนของราษฎร ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี โดยมีการทำหนังสือแจ้งถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้รับทราบเป็นทางการด้วย
ปรากฎรายละเอียดดังต่อไปนี้
ตามที่มีราษฎรทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกาขอพระราชทานความเป็นธรรมและฎีกาขอพระราชทานความช่วยเหลือ โดยสำนักงานองคมนตรีได้ประสานส่งเรื่องให้หน่วยงานต่างๆ ตรวจสอบข้อมูล และพิจาณาให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎร ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานของท่านด้วยดีตลอดมา นั้น
การนี้ เพื่อเป็นการอำนยความสะดวกให้แก่หน่วยงานต่างๆ ในการรับเอกสารฎีกาการตรวจสอบ และการติดตามเรื่องทางสำนักงานองคมนตรี จึงได้ปรับปรุงรูปแบบการจัดส่งเอกสารที่ราษฎรทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกาให้แก่หน่วยงานต่างๆโดยจัดทำซองเอกสารเป็น 2 ขั้น ดังนี้
1. ซองเอกสารชั้นที่ 1. (ซองนอก) จะระบุชื่อผู้รับซึ่งเป็นหัวหน้าของหน่วยงานนั้นๆ
2. ซองเอกสารชั้นที่ 2. จะระบุข้อความว่า "เอกสารทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกา" ตัวอักษรสีแดง ซึ่งเอกสารภายในประกอบด้วย
2.1 เอกสารทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกาของราษฎร
2.2 ใบตอบรับเอกสารในเบื้องต้น
ซึ่งเมื่อหน่วยงานของท่านได้รับแล้วขอให้จัดส่งใบตอบรับเอกสารคืนสำนักงานองคมนตรีทางไปรษณีย์ หรือทางโทรสารทันที และขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรับส่งหนังสือภายในหน่วยงานท่านทราบและดำเนินการ
สำนักงานองคมนตรี ยังระบุด้วยว่า มีหน้าที่จะต้องดำเนินการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง และผลการพิจารณาให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท จึงขอความร่วมมือให้หน่วยงานของท่านกำชับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติให้รายงานแจ้งผลการให้ความช่วยเหลือ ข้อมูล หรือข้อคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาให้สำนักงานองคมนตรีทราบภายในกำหนดเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ หากไม่สามารถดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา หรือหาข้อยุติเพื่อนำเสนอข้อมูลหรือข้อคิดเห็นให้สำนักงานองคมนตรีทราบภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ขอให้หน่วยงานของท่านแจ้งรายงานการดำเนินการให้สำนักงานองคมนตรีทราบเป็นระยะทุก 30 วัน จนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ ซึ่งไม่ควรใช้ระยะเวลาในการดำเนินการเกิน 1 ปี ยกเว้นเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้มีข้อยุติที่สมบูณ์ ทั้งนี้ เป็นไปตามนัยหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ที่นร 0507/ว181 ลงวันที่ 10 กันยายน 2547
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาดำเนินการต่อไป จะขอบคุณยิ่ง
ขอแสดงความนับถือ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี (ดูเอกสารประกอบท้ายเรื่อง)
เบื้องต้น ทางกระทรวงมหาดไทย ได้ทำหนังสือแจ้งเวียนสั่งการให้หน่วยงานในสังกัด รับทราบและถือปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดแล้ว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/