กองทุน FLR349 ตั้งเป้าฟื้นป่าต้นน้ำ 5 หมื่นไร่ ใน 10 ปี พื้นที่เชียงใหม่-น่าน
ปักหมุดแม่แจ่มฟื้นคืนป่าตันน้ำ แก้วิกฤติสภาพภูมิอากาศ ภาคประชาชน ราชการ เอกชน ลงนามทำข้อตกลงร่วมกัน
ผูู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ ณ แปลงศูนย์การเรียนรู้แปลงปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง บ้านแม่ขี้มูก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) มูลนิธินวัตกรรมเกษตรอินทรีย์ไทย ธนาคารเพื่อการกษตรและสหกรณ์การเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และภาคีเครือข่ายสนับสนุน เช่น บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด แถลงความคืบหน้า FLR 349 ร่วมแรงปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4 อย่าง
สำหรับโมเดล กองทุน F L R 349 ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 2561 พื้นที่นำร่องโครงการอ.แม่แจ่ม โดยมีเกษตกรเข้าร่วม 67 ครัวเรือน บนพื้นที่ 198 ไร่ ขยายพื้นที่เกษตรอินทรีย์ หยุดพืชเชิงเดี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และการเผาไร่ไปสู่การปลูกป่า อย่างประโยชน์ 4 อย่าง
ปัจจุบันมุ่งฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศในพื้นที่ต้นน้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตสุขภาวะความมั่นคงทางอาหาร และแก้วิกฤตสภาพภูมิอากาศ
นายพลาย ภิรมย์ ผู้จัดการโครงการ WWF-Thailand กล่าวถึงโมเดลกองทุน F L R 349 ตั้งเป้าหมายในการฟื้นฟูป่าต้นน้ำ 5 หมื่นไร่ ระยะเวลา 10 ปี ส่งเสริมให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่และรายได้ที่มากขึ้นร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับเดิม ผ่านการทำเกษตรอินทรีย์ สร้างพื้นที่สีเขียว ด้วยการปลูกไม้ผล และไม้ยืนต้น พร้อมพัฒนาห่วงโซ่อุปทานอาหารที่ยั่งยืน ระบบตรวจสอบย้อนกลับ นอกจากนี้ยังเป็นการแก้ปัญหาและสร้างภูมิคุ้มกันจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาคเกษตร
นายพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหารบริษัทกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวถึงเจตนารมณ์ ในการสร้างงานสร้างคุณภาพชีวิตและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน โดยเฉพาะโครงการกองทุนฟื้นฟูภูมิทัศน์ป่าและอาหารยั่งยืนหรือ FLR 349 FUND เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ภาคธุรกิจให้ความสนใจและมีส่วนร่วมขับเคลื่อน ในการฟื้นคืนป่าต้นน้ำให้กลับมาอุดมสมบูรณ์
ส่วนนายรัฐภัทร์ ศรีจันทร์กลัด เลขาเลขาธิการ กองทุน FLR 349 กล่าวถึง พื้นที่นำร่องจังหวัดเชียงใหม่และน่าน ปีนี้เริ่มปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 83,500 ต้น มีพืช 17 ชนิด หรือป่า 3 อย่างคือ ไม้ใช้สอยไม้ก่อสร้างและไม้กิน ซึ่งจะสร้างประโยชน์ 4 อย่างคือพออยู่พอกินพอใช้ และพอร่มเย็น รวมถึงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ นำไปใช้เป็นโมเดลฟื้นฟูดินสร้างป่า
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายในงานมีการทำข้อตกลงร่วมกัน
สำหรับกองทุน “FLR349” เป็นกองทุนที่น้อมนำศาสตร์พระราชา การปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง และการสร้างห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งเป็นโมเดลให้กับเกษตรกรในพื้นที่ป่าต้นน้ำ กองทุน FLR349 จะเป็นเสมือนพี่เลี้ยงให้กับเกษตรกรในการปรับเปลี่ยนการวิธีการทำเกษตรจากการทำพืชเชิงเดี่ยวรุกป่าใช้เคมีสูง สู่การทำเกษตรกรรมแบบบูรณาการ โดยปลายทางจะนำมาซึ่งการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรมจากการแผ้วถางทำลายหน้าดิน ผ่านการปลูกและดูแลไม้ป่าถาวร ปลูกไม้ผล และพืชผัก สมุนไพรนานาชนิดแบบผสมผสาน เกื้อกูลฟื้นฟูสร้างระบบนิเวศ และเป็นพื้นที่ที่เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอน น้ำ และเอื้อต่อการผลิตอาหารที่หลากหลายและปลอดภัยต่อการผลิตและบริโภค เป็นการสร้างความเข้มแข็งของเกษตรกรและชุมชนในการพึ่งพาตัวเอง ลดภาระค่าใช้จ่ายในการยังชีพและสุขภาวะที่ฟื้นคืนกลับมา
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/