บิ๊กดีเอสไอนั่ง ฮ.สำรวจแก่งกระจาน พบเส้นทาง 'บิลลี่' หายตัว เตรียมนำประกอบสำนวน
อธิบดีดีเอสไอ พร้อมทีมงานขึ้น ฮ.สำรวจพื้นที่แก่งกระจานในการหายตัวไปของ “บิลลี่” ระบุมีประโยชน์ต่อรูปคดี พบเส้นทางมีความเชื่อมโยงกัน เตรียมนำมาประกอบสำนวนคดี
วันนี้ (10 ต.ค.) เวลา 10.30 น. ที่ทําการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ, นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และนายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ นายอำเภอแก่งกระจาน ร่วมแถลงข่าวก่อนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสอบพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ กะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวว่า หลังจากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้รับสำนวนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมได้เชิญประธานอนุคณะกรรมการไต่สวนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เจ้าของสำนวนมาสอบสวน พบว่าประเด็นคำให้การของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่สอดคล้องกับการตรวจสอบตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ของดีเอสไอก่อนหน้านี้ อีกทั้งต้องสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 20 ปาก รวมถึงเจ้าหน้าที่ชุดคุมตัวนายบิลลี่ด้วย และกำหนดข้อหาเพิ่มเติมขึ้นในส่วนคดีฆาตกรรม เพื่อให้สำนวนการสอบสวนมีความสมบูรณ์ ก่อนส่งพนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์เผยว่า วันนี้ได้นำเฮลิคอปเตอร์ทำการบินสำรวจพื้นที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงเพื่อเชื่อมโยงบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 6 จุด คือ 1. ห้วยคมกฤต 2. ด่านเขามะเร็ว 3. บริเวณแยกหนองมะค่า 4. ไร่ชัยราชพฤกษ์ 5. บริเวณสะพานแขวน และ 6. พื้นที่ใจแผ่นดิน โดยตรวจสอบสภาพภูมิประเทศจากมุมสูง เส้นทางการเดินจากจุดแรกที่พบบิลลี่ถูกควบคุม มีการปล่อยตัว จนถึงจุดพบกระดูกมนุษย์ และพื้นที่เป้าหมายที่เชื่อว่าน่าจะเป็นจุดที่นำจักรยานยนต์ของกลางไปซุกซ่อนหรือทำลาย เพื่อนำผลการสำรวจมาวิเคราะห์และประกอบการพิจารณามูลเหตุจูงใจในการบังคับบุคคลให้สูญหาย
ต่อมาเวลา 12.45 น. พ.ต.อ.ไพสิฐเปิดเผยหลังขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุว่า การบินสำรวจครั้งนี้มีประโยชน์ต่อรูปคดี พบว่าเส้นทางมีความเชื่อมโยงกัน และจะนำไปประมวลผลวิเคราะห์เส้นทางรายละเอียดเพื่อประกอบสำนวนคดีต่อไป
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า หลังจากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้รับสำนวนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมได้เชิญประธานอนุคณะกรรมการไต่สวนของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งเป็นเจ้าของสำนวนมาสอบสวน พบว่าประเด็นคำให้การของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่สอดคล้องกับการตรวจสอบตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ของดีเอสไอก่อนหน้านี้ อีกทั้ง ต้องสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเพิ่มอีก 20 ปาก ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ชุดคุมตัวนายบิลลี่ด้วย และกำหนดข้อหาเพิ่มเติมขึ้นในส่วนคดีฆาตกรรม เพื่อให้สำนวนการสอบสวนมีความสมบูรณ์ ก่อนส่งพนักงานอัยการพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ เผยว่า วันนี้ได้นำเฮลิคอปเตอร์ทำการบินสำรวจพื้นที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงเพื่อเชื่อมโยงบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 6 จุด คือ 1.ห้วยคมกฤต 2.ด่านเขามะเร็ว 3.บริเวณแยกหนองมะค่า 4.ไร่ชัยราชพฤกษ์ 5.บริเวณสะพานแขวน และ 6.พื้นที่ใจแผ่นดิน ซึ่งตรวจสอบสภาพภูมิประเทศจากมุมสูง เส้นทางการเดินจากจุดแรกที่พบบิลลี่ถูกควบคุม มีการปล่อยตัว จนถึงจุดพบกระดูกมนุษย์ และพื้นที่เป้าหมายที่เชื่อว่าน่าจะเป็นจุดที่นำรถจักรยานยนต์ของกลางไปซุกซ่อนหรือทำลายเพื่อนำผลการสำรวจมาวิเคราะห์และประกอบการพิจารณามูลเหตุจูงใจในการบังคับบุคคลให้สูญหาย
ต่อมา เวลา 12.45 น. พ.ต.อ.ไพสิฐ เปิดเผยหลังขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ว่า การบินสำรวจครั้งนี้มีประโยชน์ต่อรูปคดีพบว่าเส้นทางมีความเชื่อมโยงกันและจะนำไปประมวลผลวิเคราะห์เส้นทางรายละเอียดเพื่อประกอบสำนวนคดีต่อไป