ศาล ปค.สูงสุดพิจารณาคดีครั้งแรก'หญิงหน่อย'ฟ้อง2ป.ป.ช.ปกปิดข้อมูลคดีซื้อคอมพ์สธ.ฉาว
ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาคดีครั้งแรก'หญิงหน่อย'ฟ้อง2ป.ป.ช.ปกปิดข้อมูลคดีซื้อคอมพ์สธ.ฉาว
ในวันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม เวลา 13.00 น. ศาลปกครองสูงสุดนัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก ณ ห้องพิจารณาคดี 4 ชั้น 3 อาคารศาลปกครอง ในคดีหมายเลขดำที่ อ.44/2560 ระหว่าง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (ผู้ฟ้องคดี) กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) ในคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ
โดยคุณหญิงสุดารัตน์ฟ้องว่า ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด กรณีคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมาย ได้มีคำวินิจฉัยที่ สค 48/2558 ลว. 17 มี.ค.2558ให้ผู้ถูกฟ้องคดีเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสานวนการไต่สวนข้อเท็จจริง คดียกเลิกการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ของกระทรวงสาธารณสุข ตามคำขอของผู้ฟ้องคดี แต่ผู้ถูกฟ้องคดีได้มีหนังสือ ลว. 30 มิ.ย.2558 ปฏิเสธโดยอ้างว่าการเปิดเผยกรณีดังกล่าวจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ถูกกล่าวหา เป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีได้รับความเดือดร้อนเสียหาย ผู้ฟ้องคดีจึงนาคดีมาฟ้องต่อศาล ขอให้ศาลเพิกถอนมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่ไม่อนุญาตให้เปิดเผยสานวนการไต่สวนข้อเท็จจริงคดียกเลิกการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ของกระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้คดีนี้ ศาลปกครองชั้นต้น (ศาลปกครองกลาง) มีคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองเปิดเผยข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้ฟ้องคดี ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมาย ภายใน 10 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด เนื่องจากเห็นว่าข้อมูลข่าวสารที่ผู้ฟ้องคดีขอให้เปิดเผยนั้นไม่ได้เป็นข้อมูลข่าวสารอันจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรืออาจทำให้การบังคับใช้กฎหมายของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เสื่อมประสิทธิภาพหรือก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลผู้เกี่ยวข้อง ตลอดจนไม่กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 แต่อย่างใด ผู้ฟ้องคดีจึงสมควรได้รับการคุ้มครองสิทธิรับรู้ข้อมูลข่าวสารเพื่อตรวจสอบความโปร่งใสในการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐให้สิ้นสงสัย และเพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของตนโดยชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น ข้อมูลข่าวสารที่ผู้ฟ้องคดีร้องขอให้เปิดเผยจึงไม่เป็นข้อมูลข่าวสารที่ต้องห้ามมิให้เปิดเผย นอกจากนี้ ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐที่อยู่ในบังคับตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 จึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้างต้น เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองยังไม่ยอมปฏิบัติตามคำวินิจฉัยดังกล่าวจนผู้ฟ้องคดีต้องใช้สิทธิฟ้องคดีนี้ ถือได้ว่า ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารสาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดินและการบังคับใช้กฎหมาย ที่วินิจฉัยให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 เปิดเผยสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ตามคำขอของผู้ฟ้องคดี อันเป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ