จนมุมเพราะซิมมือถือ...รวบน้าแกนนำมาราฯ หนีหมายจับสลับก่อเหตุนาน 14 ปี!
ฝ่ายความมั่นคงแถลงผลงานจับกุมผู้ก่อความไม่สงบคนสำคัญ อ้างตัวเป็นแกนนำระดับคุมพื้นที่ของบีอาร์เอ็น หลบหนีหมายจับสลับก่อเหตุรุนแรงนานถึง 14 ปี
แกนนำผู้ก่อเหตุรุนแรงรายนี้จนมุมเพราะหลักฐานซิมโทรศัพท์ ขณะแฝงตัวเป็นครูโรงเรียนสอนศาสนาในจังหวัดสตูล และสั่งให้ลูกน้องซึ่งเป็นครูโรงเรียนเดียวกันก่อเหตุโจมตีชุดคุ้มครองตำบล หรือ ชคต. เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทำให้อาสารักษาดินแดน หรือ อส.เสียชีวิตถึง 2 นาย
เรื่องราวการติดตามจับกุมแกนนำผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถูกเปิดเผยขึ้นจากการแถลงข่าวของฝ่ายความมั่นคง ที่เรือนรับรองมณฑลทหารบกที่ 46 ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดย พล.อ.จตุพร กลัมพสุต ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมด้วย พ.อ.หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 นำตัว นายมะหะมะรอมือลี สาแม ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง แถลงข่าวและส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เพื่อคุมตัวเข้ากรุงเทพฯ ดำเนินคดีตามหมายจับที่ออกไว้นานถึง 14 ปีต่อไป
นายมะหะมะรอมือลี ตกเป็นผู้ต้องหาคดีความมั่นคงล่าสุด คือคดีลอบวางระเบิดและซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ อส.ชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) นาประดู่ ขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยครู พาครูโรงเรียนบ้านควนประ ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เดินทางกลับบ้าน แต่ระหว่างทางถูกดักโจมตรีจน อส.เสียชีวิต 2 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ก.ย.62 (อ่านประกอบ : ซุ่มโจมตี ชคต.นาประดู่ ดับ 1 เจ็บ 5 ภรรยาคนตายตั้งครรภ์ 5 เดือน และ "จะให้หายใจต่อไปยังไง..." เสียงร่ำไห้ภรรยา อส.)
ที่มาที่ไปของการจับกุม นายมะหะมะรอมือลี เป็นการสืบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง หลังเกิดเหตุวางระเบิดและซุ่มยิง ชคต.นาประดู่ ชุดคุ้มครองครู จนมี อส.เสียชีวิตถึง 2 นาย และบาดเจ็บอีก 4 นาย โดยเมื่อวันที่ 20 ก.ย.62 หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดปัตตานี ร่วมกับชุดสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) และ สภ.ควนโดน จ.สตูล ได้เชิญตัวเยาวชนที่เป็นผู้จดทะเบียนซิมโทรศัพท์มือถือหมายเลขหนึ่งมาให้ข้อมูล กระทั่งทราบว่า นายมะหะมะรอมือลี สาแม ซึ่งหน้าฉากเป็นครูสอนศาสนาโรงเรียนรุ่งอรุณวิทยานุสรณ์ ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จ.สตูล เป็นผู้ใช้ให้ไปซื้อและเปิดใช้ซิมโทรศัพท์ จำนวน 2 ซิม โดยซิมโทรศัพท์ 1 ใน 2 หมายเลขนี้ ตรงกับซิมโทรศัพท์ที่ใช้ในเหตุการณ์โจมตี ชคต.นาประดู่
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงขยายผลติดตามจับกุม นายมะหะมะรอมือลี สาแม โดยออกหมาย ฉฉ.ที่ 130/62 ลงวันที่ 20 ก.ย.62 อาศัยอำนาจจากพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ควบคุมตัวส่งเข้ากระบวนการซักถาม กระทั่งเจ้าตัวให้การยอมรับว่า เป็นผู้สั่งให้เยาวชนซึ่งเป็นนักเรียนในโรงเรียนรุ่งอรุณวิทยานุสรณ์ ไปซื้อซิมโทรศัพท์จำนวน 2 ซิมจริง ซึ่งเป็นหมายเลขตรงกับซิมโทรศัพท์ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุโจมตี ชคต.นาประดู่ โดยได้มอบซิมโทรศัพท์ให้กับ นายฟาอิส หรือนายรุสลัน โต๊ะบีลา สมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เข้ามาหลบซ่อนตัวในพื้นที่ จ.สตูล และเป็นครูสอนวิชาพลศึกษาของโรงเรียนรุ่งอรุณวิทยานุสรณ์ นำไปใช้ก่อเหตุรุนแรง
จากการตรวจสอบประวัติเชิงลึกของ นายมะหะมะรอมือลี สาแม พบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หมายจับ ป.วิอาญา ศาลอาญาที่ 87/2548 ลงวันที่ 7 ม.ค.48 ในข้อหากบฏ ก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร จากการที่ร่วมก่อเหตุรุนแรงช่วงปี 47-48 เคยมีรางวัลนำจับ 300,000-500,000 บาท (ก่อนที่รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จะสั่งยกเลิกรางวัลนำจับผู้ต้องหาคดีความมั่นคงทั้งหมด) หลบหนีหมายจับมานานถึง 14 ปี โดยเขามีศักดิ์เป็นน้าชาย (น้องของแม่) ของแกนนำ "มาราปาตานี" รายหนึ่งที่มีบทบาทสูงในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขกับรัฐบาลไทยด้วย
นายมะหะมะรอมือลี ยังยอมรับด้วยว่า เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง กลุ่มบีอาร์เอ็น และผ่านการสาบานตน (ซุมเปาะห์) ในปี 2526 ขณะเรียนที่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาชื่อดังของ จ.ยะลา ต่อมาได้รับแต่งตั้งจาก "อุสตาสพา" แกนนำขบวนการแบ่งแยกดินแดน ให้เป็น "หัวหน้าเขต" รับผิดชอบพื้นที่ 5 ตำบลของอำเภอเมือง จ.ยะลา คือ ต.ลิดล ต.พร่อน ต.ลำใหม่ ต.ยะลา และ ต.ลำพะยา พร้อมเริ่มก่อเหตุรุนแรงหลังปี 47 เป็นต้นมา เมื่อถูกออกหมายจับจึงได้หลบหนีไปพักพิงตามสถานที่ต่างๆ กระทั่งไปเป็นครูสอนศาสนาที่โรงเรียนรุ่งอรุณวิทยานุสรณ์จนถึงปัจจุบัน แต่ยังมีส่วนรู้เห็นและสั่งการก่อเหตุรุนแรงอยู่เป็นระยะ
สำหรับการส่งมอบตัว นายมะหะมะรอมือลี ให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น พล.อ.จตุพร เป็นผู้นำในการส่งตัวให้กับดีเอสไอ โดยมี พ.ต.ต.ศิริวิชญ์ ชาญเตชะสิทธิกุล ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดีเอสไอ เป็นผู้รับมอบตัว และนำขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปดำเนินคดีที่กรุงเทพฯทันที
ขณะที่ นายรุสลัน โต๊ะบีลา ครูสอนวิชาพลศึกษาของโรงเรียนรุ่งอรุณวิทยานุสรณ์ จ.สตูล ที่เป็นมือปฏิบัติการในเหตุการณ์โจมตี ชคต.นาประดู่ จากคำสั่งของ นายมะหะมะรอมือลี นั้น ล่าสุดได้หลบหนีไปแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมขออนุมัติออกหมายจับต่อไป
รวบทีมเผาโชว์รูมฮอนด้าปัตตานีปี 55
อีก 1 คดีค้างเก่าที่ฝ่ายความมั่นคงจับกุมผู้ก่อเหตุได้ ก็คือคดีคนร้ายบุกเผา บริษัทปัตตานี ฮอนด้า คาร์ จำกัด เลขที่ 295 ริมถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่หมู่ 7 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ส.ค.55 หรือราวๆ 7 ปีก่อน ทำให้ตัวอาคารและโรงจอดรถ ตลอดจนรถยนต์วอดไป 15 คัน มูลค่าความเสียหายสูงถึง 30 ล้านบาท (อ่านประกอบ : บุกเผารถศูนย์ฮอนด้าปัตตานีวอด15คัน ยิงทหารดับ - บึ้มซ้ำ3ลูกหวังฆ่าปลัดระแงะ)
การจับกุมผู้ต้องหาเผาบริษัทจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากการขยายผลสอบปากคำ นายไซมิง ดาราแม ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่ถูกควบคุมตัวมาก่อนหน้า และให้การซัดทอดถึงกลุ่มคนร้ายที่ลอบเผาบริษัทและโชว์รูมจำหน่ายรถยนต์ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปติดตามจับกุมตัวมาได้
ผู้ต้องหารายนี้รับสารภาพว่า เป็นแค่คนเผายางรถยนต์บนถนนเพื่อสกัดการติดตามไล่ล่าและสกัดการเข้าจุดเกิดเหตุของเจ้าหน้าที่ โดยทีมผู้ก่อเหตุมีทั้งหมด 12 คน ทำให้เจ้าหน้าที่คุมตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
----------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 เจ้าหน้าที่กำลังอ่านข้อหาตามหมายจับให้ นายมะหะมะรอมือลี สาแม ฟัง (เสื้อลาย) ซึ่งเป็นหมายจับที่ออกตั้งแต่ปี 48 หรือ 14 ปีที่แล้ว ก่อนส่งตัวให้ดีเอสไอดำเนินการต่อ
2 เจ้าหน้าที่คุมตัวทีมเผาโชว์รูมรถฮอนด้าปัตตานี เมื่อปี 55 ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ