กษ.-ศธ.เตรียมบรรจุ”สหกรณ์”ลงหลักสูตรรองรับอาเซียนสนองวาระชาติ
ก.เกษตรฯถกร่วม7กระทรวงวางมาตรการพัฒนาสหกรณ์ตามนโยบายดันขึ้นวาระชาติรองรับอาเซียนปี56-59 มท.ดึงอปท.มีส่วนร่วม ศธ.เตรียมบรรจุสหกรณ์ลงหลักสูตรทุกระดับ
วันที่ 7 ส.ค. 55 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการประชุมเพื่อพิจารณาร่างวาระแห่งชาติด้านการสหกรณ์ สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบประกาศให้สหกรณ์เป็นวาระแห่งชาติ โดยมอบหมายให้ ก.เกษตรฯเป็นหน่วยงานหลักผลักดัน 5 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย 1. สร้างและพัฒนาการเรียนรู้และทักษะการสหกรณ์สู่วิถีชีวิตประชาชน 2. สนับสนุนและพัฒนาการรวมกลุ่มประชาชนด้วยวิธีการสหกรณ์ 3. เพิ่มศักยภาพการเชื่อมโยงเครือข่ายระบบการผลิต การตลาด และการเงินของสหกรณ์ 4. สนับสนุนแผนพัฒนาการสหกรณ์ให้เป็นเครื่องมือในการสร้างความเข้มแข็งของขบวนการสหกรณ์ และ5. ปฏิรูปโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐ ขบวนการสหกรณ์ และปรับปรุงกฎหมายสหกรณ์ โดยมีนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีและตัวแทนจากกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้อง
นายณัฐวุฒิ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรฯ จะนำความคิดเห็นจากการประชุมไปศึกษาและปรับปรุงร่างวาระแห่งชาติด้านการสหกรณ์ก่อนเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบต่อไปภายในสองสัปดาห์ โดยคาดว่าจะดำเนินการเตรียมความพร้อมเรื่องแผนงานให้แล้วเสร็จในปี 2555 และเริ่มขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรมในปี 2556 – 2559 ซึ่งขณะนี้ได้มีประสานงานขอความร่วมมือกับหน่วยงานราชการกว่า 40 หน่วยงานซึ่งต่างให้การตอบรับเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านสหกรณ์แล้ว
โดยแนวทางภารกิจของแต่ละกระทรวงในการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติฯร่วมกัน สรุปได้ดังนี้ 1.กระทรวงศึกษาธิการ สนับสนุนการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนเรื่องกระบวนการสหกรณ์ และกำหนดหลักสูตรการสหกรณ์เป็นหลักสูตรแกนกลางในการศึกษาทุกระดับ ทั้งการศึกษาขั้นพื้นฐาน,อุดมศึกษา, อาชีวศึกษา, การศึกษานอกระบบ, การศึกษาตามอัธยาศัยและเอกชน 2. กระทรวงมหาดไทย ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างความเข้าใจและส่งเสริมกระบวนการสหกรณ์ให้แก่ประชาชนในระดับท้องถิ่น 3.กระทรวงพาณิชย์ ผลักดันผลิตภัณฑ์สินค้าของสหกรณ์ให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค 4.กระทรวงคมนาคม พัฒนาระบบโลจิสติกส์การขนส่งสินค้าของขบวนการสหกรณ์ และให้การสนับสนุนกิจการเดินรถของสหกรณ์ประเภทสหกรณ์บริการเดินรถ 5.กระทรวงอุตสาหกรรม พัฒนาบรรจุภัณฑ์สินค้าสหกรณ์และให้การรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน(มผช.) 6.กระทรวงการคลัง สนับสนุนและให้คำแนะนำในการดำเนินธุรกิจการเงินของสหกรณ์ 7.กระทรวงสาธารณสุข ให้ความรู้ด้านการผลิตสินค้าคุณภาพและให้การรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อาหารและยา ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯจะเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการขับเคลื่อนแผนการดำเนินการดังกล่าว
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า ความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆภายใต้วาระแห่งชาติด้านสหกรณ์จะช่วยยกระดับสินค้าเกษตรไทยเพราะเป็นการส่งเสริมการผลิตทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ และหากระบบสหกรณ์มีการพัฒนาที่มากพอก็จะช่วยให้เกษตรกรพึ่งพาตนเองได้ในที่สุด นอกจากนี้การผลักดันเรื่องสหกรณ์ยังเป็นผลดีต่อไทยเมื่อเข้าสู่ประคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ในปี 2558 ถือเป็นโอกาสอันดีในการผลิตและการจำหน่ายกระจายสินค้าไปในภูมิภาคอาเซียน โดยระบบสหกรณ์ที่ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ก่อนแล้วจะทำให้ไทยสามารถสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพได้เร็วกว่าประเทศอื่นๆ
ทั้งนี้ปัจจุบันประเทศไทยมีสหกรณ์ทั้งสิ้น 7,964 สหกรณ์ และมีสมาชิก 10.8 ล้านครอบครัว ปริมาณธุรกิจรวมกัน 2 ล้านล้านบาท/ปี คิดเป็นร้อยละ 18.95 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี)