‘ปิยบุตร’รายเดียว? กก.บริหาร อนค. 10 คนที่เป็น ส.ส.ไม่มีใครแจ้งรับเงินเดือนจากพรรค
“…จากการตรวจสอบกรรมการบริหารพรรคอีก 10 ราย (จากทั้งหมด 16 ราย) ที่ได้เป็น ส.ส. และต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกับ ป.ป.ช. พบว่า มีแค่ นายปิยบุตร เพียงรายเดียว ที่แจ้งรายได้ส่วนหนึ่งว่ามาจากเงินเดือนของสำนักงานพรรคอนาคตใหม่…”
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานแล้วว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แจ้งในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2562 ระบุรายได้ส่วนหนึ่งว่า มาจากเงินเดือนจากสำนักงานพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 70,000 บาท โดยระบุหมายเหตุว่า รับเงินเดือนจากสำนักงานพรรคอนาคตใหม่ในวันที่ 25 พ.ค. 2562 เป็นครั้งสุดท้าย และยุติการรับเงินเดือนนี้นับแต่ได้รับเงินเดือน ส.ส.
ประเด็นที่น่าสนใจ นอกเหนือจากนายปิยบุตร ที่ถือเป็นแกนนำหลักของพรรคอนาคตใหม่ และเป็นกรรมการบริหารพรรค (ตำแหน่งเลขาธิการ) แล้ว กรรมการบริหารพรรครายอื่น ๆ มีรายได้เป็นเงินเดือนจากสำนักงานพรรคอนาคตใหม่หรือไม่ ?
จากการตรวจสอบกรรมการบริหารพรรคอีก 10 ราย (จากทั้งหมด 16 ราย) ที่ได้เป็น ส.ส. และต้องแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกับ ป.ป.ช. พบว่า มีแค่ นายปิยบุตร เพียงรายเดียว ที่แจ้งรายได้ส่วนหนึ่งว่ามาจากเงินเดือนของสำนักงานพรรคอนาคตใหม่
รายละเอียด ดังต่อไปนี้
1.น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ระบุว่ามีรายได้ต่อปีโดยประมาณ 2,142,720 บาท เป็นรายได้จากการทำงานหลัก 1,362,720 บาท (ระบุหมายเหตุว่า เงินได้ของผู้ยื่นอยู่ระหว่างการยื่นเพิ่มเติมกับกรมสรรพากร จะนำมายื่นเพิ่มเติมเมื่อเอกสารเรียบร้อยดีแล้ว) รายได้จากการขายสินค้า 60,000 บาท ส่วนคู่สมรสมีรายได้ต่อปีโดยประมาณ 672,000 บาท เป็นรายได้จากการทำงานหลัก
น.ส.กุลธิดา และคู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 7,441,216 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 4,089,348 บาท
2.นายชำนาญ จันทร์เรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ระบุว่า มีรายได้ (ไม่ระบุว่าต่อปี หรือระหว่างดำรงตำแหน่ง หรือรายได้ 1 ปีหลังจากพ้นตำแหน่ง) 1,589,069 บาท เป็นเงินประจำตำแหน่งแลเงินเพิ่ม 1,362,720 บาท เงินบำนาญ 226,349 บาท ส่วนคู่สมรสมีรายได้ 1,337,046 บาท เป็นเงินบำนาญ 363,606 บาท เงินเดือน 839,040 บาท เงินประจำตำแหน่งวิชาการ 67,200 บาท เงินตอบแทนวิชาการ 67,200 บาท
นายชำนาญ และคู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 64,223,901 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 967,107 บาท
3.พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค แจ้งสถานะว่าหย่า ระบุว่ามีรายได้ต่อปีโดยประมาณ 2,346,720 บาท เป็นเงินเดือน ส.ส. 1,362,720 บาท เบี้ยประชุม 72,000 บาท เงินบำนาญ 912,000 บาท
พล.ท.พงศกร มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 8,699,362 บาท มีหนี้สิน 21,968,750 บาท
4.น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค แจ้งสถานะว่าโสด ระบุว่ามีรายได้ต่อปีโดยประมาณ 1,365,990 บาท เป็นเงินเดือน ส.ส. 1,362,720 บาท ดอกเบี้ยเงินฝาก 270.84 บาท เงินคืนจากประกันชีวิต 3,000 บาท
น.ส.พรรณิการ์ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 3,319,567 บาท หนี้สินทั้งสิ้น 710,512 บาท
5.นายไกลก้อง ไวทยการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนสมาชิกพรรค แจ้งสถานะว่าโสด ระบุว่ามีรายได้ (ไม่ระบุว่าเป็นรายได้ต่อปี รายได้ระหว่างดำรงตำแหน่ง หรือรายได้ 1 ปีหลังพ้นตำแหน่ง) 504,352 บาท เป็นเงินเดือน 5 แสนบาท (ระบุหมายเหตุเป็นรายได้ปี 2561) ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ 66.93 บาท ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารกรุงศรีอยุธยา 1.85 บาท ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารทหารไทย 779.69 บาท รายได้อื่น ๆ ค่าเบี้ยประชุม 3,505 บาท
นายไกลก้อง มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 6,459,220 บาท หนี้สินทั้งสิ้น 3,493,612 บาท
6.น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการสัดส่วนภูมิภาค ภาคเหนือ แจ้งสถานะว่าหย่า ระบุว่ามีรายได้ (ไม่ระบุเป็นรายได้ต่อปี รายได้ระหว่างดำรงตำแหน่ง หรือรายได้ 1 ปีหลังพ้นตำแหน่ง) 1,188,000 บาท เป็นเงินเดือน 1,158,000 บาท และการซื้ออัตราแลกเปลี่ยน 30,000 บาท ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีเงินเดือน 108,000 บาท
น.ส.เยาวลักษณ์ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 4,061,096 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 1,741,393 บาท
7.นายสุรชัย ศรีสารคาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการสัดส่วนภูมิภาค ภาคกลาง แจ้งสถานะว่าหม้าย ระบุว่า มีรายได้ต่อปีโดยประมาณ 3,516,720 บาท เป็นเงินเดือนประจำตำแหน่ง 1,362,720 บาท เงินบำนาญ 576,000 บาท ค่าจ้างที่ปรึกษาบริษัท คอนโทรลด้าต้า จำกัด 1,128,000 บาท เงินปันผล บริษัท ปรีดาปราโมทย์ จำกัด 4.5 แสนบาท
นายสุรชัย มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 97,498,282 บาท ไมมีหนี้สิน
8.นายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการสัดส่วนภูมิภาค ภาคใต้ ระบุว่า มีรายได้ (ไม่ระบุเป็นรายได้ต่อปี รายได้ระหว่างดำรงตำแหน่ง หรือรายได้ 1 ปีหลังพ้นตำแหน่ง) 122,920 บาท เป็นเงินเดือน (บำนาญ) 9,360 บาท (เงินเดือน ส.ส. 113,560 บาท) ส่วนคู่สมรสมีรายได้ 59,440 บาท เป็นเงินเดือน
นายเจนวิทย์ และคู่สมรส มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 9,381,378 บาท หนี้สินทั้งสิ้น 1,981,453 บาท
9.น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการสัดส่วนเลือกตั้งโดยตรงจากที่ประชุมใหญ่ ระบุว่า มีรายได้ (ไม่ระบุเป็นรายได้ต่อปี รายได้ระหว่างดำรงตำแหน่ง หรือรายได้ 1 ปีหลังพ้นตำแหน่ง) 1,562,720 บาท เป็นเงินเดือน 1,362,720 บาท และเงินปันผล 2 แสนบาท
น.ส.จารุวรรณ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 38,660,727 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 264,490,068 บาท
10.นายนิรามาน สุไลมาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรรมการสัดส่วนเลือกตั้งโดยตรงจากที่ประชุมใหญ่ ระบุว่า มีรายได้ (ไม่ระบุเป็นรายได้ต่อปี รายได้ระหว่างดำรงตำแหน่ง หรือรายได้ 1 ปีหลังพ้นตำแหน่ง) 1,362,720 บาท เป็นเงินเดือนจาก ส.ส. ส่วนคู่สมรสมีรายได้ 58,560 บาท เป็นเงินเดือน 39,640 บาท เงินประจำตำแหน่ง 5,600 บาท เงินค่าเสี่ยงภัย 3,500 บาท ค่าเช่าที่ดิน 4,000 บาท และค่าเช่าบ้าน 6,000 บาท
นายนิรามาน ไม่มีทรัพย์สิน มีเพียงคู่สมรสที่แจ้งว่ามีทรัพย์สินเป็นเงินสด 5 แสนบาท และเงินลงทุน 62,500 บาท
ส่วนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มิได้แจ้งว่ารับเงินเดือนจากพรรคอนาคตใหม่เช่นเดียวกัน
ยังเหลือกรรมการบริหารพรรคอีก 4 ราย ไม่มีข้อมูลว่าได้รับเงินเดือนหรือไม่ เพราะไม่ได้เป็น ส.ส. จึงไม่ได้แจ้งในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกับ ป.ป.ช.
ส่วนทำไมในกรรมการบริหารพรรคจำนวน 10 รายเหล่านี้ จึงไม่ได้แจ้งว่าได้รับเงินเดือนจากสำนักงานพรรคอนาคตใหม่ หรือว่าพรรคอนาคตใหม่ให้เงินเดือนแก่นายปิยบุตรแต่เพียงผู้เดียว เป็นเรื่องที่ต้องรอฟังคำชี้แจงจากพรรคต่อไป ?
อ่านประกอบ : ของรักฉบับ ‘ปิยบุตร’ ไวน์ วิสกี้ คอนยัค แพงกว่านาฬิกา - แหวนแต่งงาน 800 บาท
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/