จีนอ้าแขนรับลำไยนอกฤดูภาคตะวันออกกว่า4 แสนตัน
ชาวสวน-โรงคัดบรรจุลำไยภาคตะวันออกตื่นตัวเข้าสู่ระบบรับรองมาตรฐานการผลิตพืช GAPและGMP ด้านสวพ.6 ระดมเจ้าหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจรับรองแปลงGAPพืช และโรงคัดบรรจุ GMPให้ทันต่อฤดูกาลส่งออกลำไยไปจีน พร้อมเร่งอบรมให้ความรู้การใช้สารรมชัลเฟอร์ไดออกไชต์ ล่าสุดผ่านการรับรองรอแปลงGAP แล้วจำนวน 2,998 แปลง ส่วนโรงคัดบรรจุผ่านการรับรองGMP จำนวน 65 โรง พร้อมคาดปีนี้จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดไม่ต่ำกว่า 4แสนตัน
นายชลธี นุ่มหนู ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 6 (สวพ.6) กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า เพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันปัญหาด้านการส่งออกผลผลิตลำไยนอกฤดูพื้นที่ภาคตะวันออกไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 62 เป็นต้นมาสวพ.6ได้ระดมเจ้าหน้าที่อย่างเต็มกำลังพร้อมกำหนดกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจรับรองแปลงGAPพืช และโรงคัดบรรจุ GMP ให้ทันต่อความต้องการของเกษตรกรและผู้ประกอบการที่จะต้องใช้ใบรับรองในการจำหน่ายผลผลิตเพื่อการส่งออกไปจีน
อาทิ สนับสนุนให้โรงคัดบรรจุรับซื้อผลผลิตจากสวนที่เป็นลูกค้าของโรงคัดบรรจุเองและเป็นสวนที่ได้รับการรับรองแปลงGAP ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เป็นรายตำบล บูรณาการทำงานร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่และหน่วยงานอื่นๆพร้อมฝึกอบรมแบบเข้มข้นให้กับเกษตรกรที่มีศักยภาพและมีความตั้งใจผลิตผลไม้ให้มีคุณภาพกำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการรับรองฯเดือนละ 2 ครั้งเพื่อพิจารณาออกใบรับรองให้รวดเร็วขึ้นรวมทั้งจัดทีมอาสาสมัครGAPประจำพื้นที่ เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ตรวจรับรองในการให้คำแนะนำการปฏิบัติตามขั้นตอนและบันทึกข้อมูล เพื่อการตรวจรับรองที่รวดเร็วและคงไว้ซึ่งมาตรฐานทำให้เกษตรกรสามารถใช้ใบรับรองประกอบการจำหน่ายผลผลิตได้ทันเวลาในฤดูกาลนี้
นายชลธี กล่าวถึงสถานการณ์ฤดูกาลผลผลิตลำไยนอกฤดูในพื้นที่ภาคตะวันออกในขณะนี้ด้วยว่า ผลผลิตจะเริ่มทยอยออกตั้งแต่เดือนปลายเดือนกันยายน62-พฤษภาคม 63 โดยปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกที่ให้ผลผลิตรวมประมาณ200,000ไร่คาดว่าผลผลิตจะออกประมาณ 400,000ตันหรือให้ผลผลิตประมาณ1,900-2,000กก./ไร่ และมีเกษตรกรผู้ปลูกที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรอยู่จำนวน 7,000 ราย ส่วนความคืบหน้าในการตรวจรับรองแหล่งผลิตพืชลำไยพื้นที่ 7 จังหวัดภาคตะวันออก ประกอบด้วย จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรีและสระแก้ว ขณะนี้มีเกษตรกรมาจดทะเบียนแล้วจำนวน 3,435 แปลง 3,175 รายคิดเป็นพื้นที่ 72,575.78 ไร่ ในจำนวนดังกล่าว ผ่านการรับรองQแล้วจำนวน 2,998 แปลงเกษตรกร 2,575 รายคิดเป็นพื้นที่ 58,432.18 ไร่ และอยู่ระหว่างการตรวจจำนวน 437 แปลงเกษตรกร 600 รายคิดเป็นพื้นที่ 14,143.60 ไร่ โดยจันทบุรีมีเกษตรกรมาจดทะเบียนมากที่สุด จำนวน 3,003 แปลงเกษตรกร 2,762 รายคิดเป็นพื้นที่ 66,351.10 ไร่ ผ่านการรับรองQ แล้วจำนวน 2,660 แปลงเกษตรกร 2,248 รายคิดเป็นพื้นที่ 53,608.50 ไร่ และอยู่ระหว่างการตรวจจำนวน 343 แปลงเกษตรกร 513 รายคิดเป็นพื้นที่ 12,742.60 ไร่ ส่วนผลดำเนินการตรวจรับรองโรงคัดบรรจุ ได้รับการรับรอง GMP ลำไยแล้วจำนวนทั้งสิ้น 65 โรง แบ่งเป็นจันทบุรี59โรงอยู่ระหว่างตรวจ 4โรง ระยอง 1 โรง สระแก้ว 1โรง
นายชลธี กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เกษตรกรและผู้ประกอบการผลไม้ภาคตะวันออกมีความตื่นตัวในการเข้าสู่ระบบรับรองมาตรฐานการผลิตพืช GAPและGMP มากขึ้น เนื่องจากมองว่าจีนเป็นตลาดส่งออกที่มีอนาคตที่จะช่วยยกระดับราคาลำไยและเพิ่มรายได้ของเกษตรกร โดยปัจจุบันผลผลิตลำไยนอกฤดูในพื้นที่ภาคตะวันออกเกือบ 100% ส่งออกไปจีน แทบจะไม่ได้ขายในประเทศเลยทางโรงคัดบรรจุจะซื้อหมดทุกเกรด ทำให้เกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญในการศึกษาเรียนรู้ขบวนการผลิตที่ได้คุณภาพมาตรฐานและการส่งออกตามข้อกำหนดไทย -จีนที่จะต้องแจ้งข้อมูลแปลงและโรงคัดบรรจุผลไม้ 5 ชนิด คือ ทุเรียน มังคุด ลำไยลิ้น มะม่วงและของจีน 5 ชนิดคือ แอปเปิล สาลี่ ส้มพุทรา องุ่น) ตามพิธีสารที่ได้กำหนดจะต้องผ่านการรับรองแหล่งผลิต GAP พืช และรับรองโรงคัดบรรจุ GMP เท่านั้นถึงจะส่งออกได้
อย่างไรก็ตาม นอกจากการเร่งรับการตรวจมาตรฐานการผลิตพืช GAPและGMPแล้ว สวพ.6 ยังได้ร่วมกับสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จันทบุรี และสมาคมชาวสวนลำไยจัดประชุมชี้แจงและให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดตามหลักปฏิบัติสำหรับกระบวนการรมผลไม้สดด้วยชัลเฟอร์ไดออกไซด์และมาตรฐานโรงคัดบรรจุผลไม้ทั้งเปลือกเพื่อการผลิตและการส่งออกลำไยให้ได้คุณภาพให้แก่ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุและโรงรมชัลเฟอร์ไดออกไชต์ผู้ส่งออกลำไยตลอดจนเกษตรกรชาวสวนลำไยและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเตรียมจัดงาน “รวมพลังชาวสวนภาคตะวันออก เข้าสู่ระบบรับรองมาตรฐานการผลิตพืช GAP” ขึ้นในวันที่ 11 ต.ค.62 นี้ ณ ลานขนถ่ายสินค้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงความสำคัญในการสู่การรับรองมาตรฐานGMP และ GAP