เบื้องหลัง! อบจ.กำแพงเพชร ผูกซื้อสารสกัดฮอร์โมนพืชพ่วงจัดฝึกอบรม-สตง.เรียกเงินคืน331ล.
"...โครงการทั้งหมดดังกล่าว เป็นโครงการจัดซื้อสิ่งของแจกให้กับราษฎรผู้เข้าร่วมโครงการในลักษณะของการให้เปล่า เข้าข่ายเป็นการประชาสัมพันธ์ส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบตามประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่อง กำหนดอำนาจ และหน้าที่ในการจัดระบบบริการสาธารณะขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2546 ข้อ 3 วรรคสาม เพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินการที่ไม่ชอบตามประกาศฯ ดังกล่าว อบจ.กำแพงเพชร จึงได้จัดทำโครงการทั้งหมดเป็นโครงการฝึกอบรม แต่การฝึกอบรมตามโครงการดังกล่าว มิใช่การฝึกอบรมที่มุ่งให้มีการพัฒนาบุคคลหรือเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานแต่อย่างใด..."
การจัดซื้อสารสกัดฮอร์โมนพืช สารอินทรีย์น้ำเร่งการเจริญเติบโต สารสกัดธรรมชาติพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ เพื่อใช้เป็นวัสดุอุปกรณ์ประกอบการจัดทำโครงการฝึกอบรมเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กำแพงเพชร ในช่วงปีงบประมาณ 2557-2559 จำนวนหลายสิบโครงการ วงเงินงบประมาณหลายร้อยล้านบาท ที่มักจะปรากฎชื่อเอกชนเพียงไม่กี่รายเข้ามาเป็นคู่สัญญา บางรายได้รับงานไปจำนวนมากหลายสัญญาวงเงินหลายสิบล้านบาท และปัจจุบันมีเอกชนบางราย ได้แจ้งเลิกกิจการไปแล้ว ที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบไปแล้วก่อนหน้านี้ (อ่านประกอบ : เจาะ อบจ.กำแพงเพชร ผูกซื้อสารสกัดฮอร์โมนพืช เอกชน 5 ราย 273 ล. –เลิกกิจการแล้ว 2 แห่ง)
ยิ่งถูกจับตามองมากขึ้น!
เมื่อสำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า ในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ การจัดซื้อสารสกัดฮอร์โมนพืช สารอินทรีย์น้ำเร่งการเจริญเติบโต สารสกัดธรรมชาติพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ เพื่อใช้เป็นวัสดุอุปกรณ์ประกอบการจัดทำโครงการฝึกอบรมเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร ของ อบจ.กำแพงเพชรดังกล่าว เคยถูก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบความผิดปกติในขั้นตอนการดำเนินงาน ส่อไปในลักษณะการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่น ทำให้ทางราชการเสียหายเป็นเงิน 331.79 ล้านบาท พร้อมแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และชดใช้เงินจำนวน 331.79 ล้านบาท รวมถึงแจ้งเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่กับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว
ปรากฎข้อมูลตามรายละเอียดผลการตรวจสอบของ สตง.ดังต่อไปนี้
ในช่วงปีงบประมาณ 2557-2559 อบจ.กำแพงเพชร ได้ดำเนินการจัดทำโครงการฝึกอบรมเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร เฉพาะโครงการที่มีมูลค่าเกินหนึ่งล้านบาท และมีการเบิกจ่ายเงินแล้วในปีงบประมาณ 2557 -2559 รวมทั้งหมด 20 โครงการ เป็นเงินงบประมาณที่เบิกจ่ายจำนวน 331.79 ล้านบาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอบรมจำนวน 7.80 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อวัสดุสาธิตจำนวน 324 ล้านบาท
โครงการทั้งหมดได้จัดทำเป็นโครงการฝึกอบรม มีลักษณะของการดำเนินการและค่าใช้จ่ายเหมือนกันทุกโครงการ อาทิเช่น ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม ค่าวัสดุอุปกรณ์ในการฝึกอบรม และค่าวัสดุสาธิต มีกองกิจการสภา อบจ.กำแพงเพชรเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการทั้งหมด
ในการดำเนินการตามโครงการมีการจัดซื้อวัสดุสาธิตเพื่อแจกให้กับผู้เข้ารับการอบรม ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์และโดยวิธีกรณีพิเศษ ก่อนดำเนินการฝึกอบรมให้ความรู้กับเกษตรกรในแต่ละพื้นที่เป้าหมาย โดยมีเจ้าหน้าที่ของกองกิจการสภาฯ ที่ได้รับมอบหมายด้วยวาจาจากผู้อำนวยการกองฯให้เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดอบรมร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชรหรือสำนักงานเกษตรอำเภอ มีวิทยากรจากสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชรหรือสำนักงานเกษตรอำเภอ มาให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้วัสดุสาธิตที่จะแจกให้กับผู้เข้าอบรม มีการจัดอาหารกลางวันและอาหารว่างให้ผู้เข้าอบรม มีการจัดทำบัญชีลงเวลาสำหรับผู้เข้าอบรมหลังเสร็จการอบรมมีการแจกวัสดุสาธิตให้กับผู้เข้าอบรม ซึ่งอาจจะเป็นวันที่อบรมหรือวันอื่นหลังวันอบรม โดยมีการจัดทำบัญชีรับวัสดุสาธิตไว้เป็นหลักฐาน
สตง. พิจารณาแล้วเห็นว่า โครงการทั้งหมดดังกล่าว เป็นโครงการจัดซื้อสิ่งของแจกให้กับราษฎรผู้เข้าร่วมโครงการในลักษณะของการให้เปล่า เข้าข่ายเป็นการประชาสัมพันธ์ส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบตามประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่อง กำหนดอำนาจ และหน้าที่ในการจัดระบบบริการสาธารณะขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ลงวันที่ 13 สิงหาคม 2546 ข้อ 3 วรรคสาม เพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินการที่ไม่ชอบตามประกาศฯ ดังกล่าว อบจ.กำแพงเพชร จึงได้จัดทำโครงการทั้งหมดเป็นโครงการฝึกอบรม แต่การฝึกอบรมตามโครงการดังกล่าว มิใช่การฝึกอบรมที่มุ่งให้มีการพัฒนาบุคคลหรือเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานแต่อย่างใด
โครงการทั้งหมดจึงมิใช่โครงการฝึกอบรมตามความหมายของการฝึกอบรมตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2549 ข้อ 4 การจัดทำเป็นโครงการฝึกอบรม ก็เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายเงินเป็นค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็นในการฝึกอบรม ได้ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2549 ข้อ 15 (8)
ทั้งที่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าการจัดซื้อวัสดุสาธิตตามโครงการทั้งหมดได้ใช้เงินเป็นจำนวนมากถึง 324 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อันเป็นค่าใช้จ่ายหลักที่ใช้ในการฝึกอบรมทั้ง 20 โครงการ ที่มีจำนวนเพียง 7.80 ล้านบาท การเบิกจ่ายค่าวัสดุสาธิตดังกล่าว จึงเป็นการเบิกจ่ายโดยไม่ประหยัดและไม่ชอบด้วยระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2549 ข้อ 15 วรรคสอง “... ค่าใช้จ่ายอื่นที่จำเป็นในการฝึกอบรม ให้เบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริง โดยประหยัดเพื่อประโยชน์ในการฝึกอบรม”
ดังนั้น การจัดทำเป็นโครงการฝึกอบรมดังกล่าว จึงไม่ชอบตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2549 แต่เนื่องจากโครงการทั้งหมดดังกล่าว เป็นโครงการที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร ดำเนินการเองและมีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งหมดจำนวน 331.79 ล้านบาท โดยมีกิจกรรมที่ดำเนินการซ้ำซ้อนกับภารกิจหน้าที่หลักของสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชรและศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร อบจ.กำแพงเพชรจึงไม่สามารถดำเนินการได้ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 มาตรา 45 และพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 มาตรา 17 จึงไม่อาจเบิกจ่ายเงินงบประมาณ จำนวน 331.79 ล้านบาท ได้ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงิน และการตรวจเงินขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2547 ข้อ 67 ประกอบกับ สตง.ได้เคยตรวจสอบการจัดซื้อสารสกัดฮอร์โมนพืช เร่งการเจริญเติบโตและเพิ่มผลผลิตให้กับผู้เข้าร่วมโครงการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตมันสำปะหลัง ปี 2556 และเห็นว่าโครงการดังกล่าว ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่และไม่ชอบด้วยระเบียบ จึงได้แจ้งให้อบจ.กำแพงเพชรดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ อบจ.กำแพงเพชรมิได้ปฏิบัติตามที่แจ้ง และยังคงดำเนินการโครงการต่าง ๆ ในลักษณะเดียวกันอีกในปีงบประมาณ 2557 -2559
การจัดทำโครงการและการตั้งงบประมาณดำเนินการตามโครงการทั้งหมดดังกล่าว จึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่น ทำให้ทางราชการเสียหายเป็นเงิน 331.79 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของผู้อำนวยการกองกิจการสภา อบจ.กำแพงเพชร ในฐานะผู้จัดทำและผู้เสนอโครงการในปีงบประมาณ 2557-2558 และในฐานะผู้ให้ความเห็นชอบโครงการในปีงบประมาณ 2559 ขณะดำรงตำแหน่งรองปลัด อบจ.กำแพงเพชร ผู้อำนวยการกองกิจการสภา อบจ.กำแพงเพชร ในฐานะผู้จัดทำและผู้เสนอโครงการในปีงบประมาณ 2559 ปลัด อบจ.กำแพงเพชร รองปลัด อบจ.กำแพงเพชร รองนายก อบจ.กำแพงเพชร ในฐานะผู้ให้ความเห็นชอบโครงการ นายกอบจ.กำแพงเพชร ในฐานะผู้อนุมัติโครงการและผู้เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติงบประมาณ และสมาชิกสภาอบจ.กำแพงเพชรที่ให้ความเห็นชอบในการอนุมัติงบประมาณตามโครงการ
เบื้องต้น สตง.ได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องและดำเนินการให้ผู้รับผิดชอบชดใช้เงินจำนวน 331.79 ล้านบาท คืนคลังอบจ.กำแพงเพชรให้ครบถ้วนถูกต้อง และแจ้งเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่กับผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว
อนึ่งก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า จากการตรวจสอบยืนยันฐานข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างหน่วยงานภาครัฐ พบว่า ในช่วงปี 2557– 2559 อบจ. กำแพงเพชร ได้ทำสัญญาซื้อสารสกัดเพื่อใช้เป็นวัสดุอุปกรณ์ประกอบการจัดทำโครงการฝีกอบรมเกษตรกร จากเอกชนจำนวน 5 ราย รวมวงเงินทั้งสิ้น 273,887,000 บาท
ขณะที่จากตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น บริษัทเอกชน ทั้ง 5 ราย ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบข้อมูลดังนี้
1. มีเอกชน 2 ราย ที่จดทะเบียนเลิกกิจการไปแล้ว คือ หจก. เฮย์ เดย์ เซอร์วิส เทรดดิ้ง บริษัท บีที กรีนเวิลด์ จำกัด
2. บริษัท นิวเน็ตเวิร์ค ไบโอเทค จำกัด และ บริษัท ใบธง จำกัด มีกรรมการผู้มีอำนาจ และผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นบุคคลเดียวกัน เท่ากับว่า เป็นเอกชนกลุ่มเดียวกัน เมื่อนับรวมจำนวนว่าจ้างงานจากอบจ.กำแพงเพชร 7 สัญญา รวมวงเงินทั้งสิ้น 136,817,000 บาท
ส่วนเหตุผลว่าทำไม หจก. เฮย์ เดย์ เซอร์วิส เทรดดิ้ง บริษัท บีที กรีนเวิลด์ จำกัด ถึงแจ้งเลิกกิจการ? ทำไม บริษัท นิวเน็ตเวิร์ค ไบโอเทค จำกัด และ บริษัท ใบธง จำกัด ถึงแยกกันเข้ามารับงาน?
อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก เพื่อนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/