“จุรินทร์” แจกกระจายประชานิยมสาธารณสุขปี 54
สธ.เปิดกล่องโชว์ 21 นโยบาย-แผนงาน-โครงการปี 54 เดินหน้ารักษาฟรีมีคุณภาพ ยกระดับ รพ.สต.เพิ่ม 5 พันแห่ง สร้าง รพ.ชุมชน 54 อำเภอเกิดใหม่ สานฝันเมดิคัลฮับ ทำแผนรองรับสังคมผู้สูงอายุ ส่งเสริมแพทย์ทางเลือกและสมุนไพรไทย ให้สิทธิประโยชน์และปรับบทบาท อสม.เชิงรุก
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมผู้บริหารระดับสูง สธ.ว่าในปี 2554 สิ่งที่กระทรวงจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ทั้งที่ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาและที่ริเริ่มใหม่มีทั้งหมด 21 โครงการ ได้แก่ 1.เดินหน้านโยบายรักษาฟรีอย่างมีคุณภาพ ปีที่ผ่านมามีนโยบายรักษาฟรี 48 ล้านคนใช้บัตรประชาชนใบเดียว จากนี้จะให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพในการรักษาและบริการ เดินหน้าสถาบันรับรองคุณภาพสถานบริการสุขภาพซึ่งจัดตั้งขึ้นปลายปีที่แล้ว เช่น มีระบบตรวจสอบเครื่องมือแพทย์ ใช้เทคโนโลยีทันสมัยในการรักษาฟรี ดูแลบำบัดผู้ติดสารเสพติด ปรับมาตรฐานการให้ยาผู้ป่วยเอดส์รวดเร็วขึ้น การให้ผู้ป่วยจิตเวชเข้าถึงบริการง่ายขึ้น
2.นโยบายเพิ่มไอโอดีนเพิ่มไอคิว ม.ค.นี้จะประกาศแผนงานเพิ่มไอคิวเด็กไทย ติดตามผลการแจกไอโอดีนเม็ดในหญิงตั้งครรภ์ ออกประกาศกระทรวงให้เกลือ น้ำปลา ซ๊อสปรุงรส ซีอิ๊วต้องเติมไอโอดีน 3.นโยบายยกระดับสถานีอนามัยเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.) ซึ่งปีที่ผ่านมายกระดับแล้ว 4,010 แห่ง จะยกระดับอีก 5,740 แห่ง เพื่อให้ครบ 9,750 แห่งภายใน ก.ย.54 และ 4.จะก่อสร้างโรงพยาบาลชุมชนในอำเภอเกิดใหม่ที่ยังไม่มีโรงพยาบาลชุมชน จำนวน 54 อำเภอ เบื้องต้นใช้งบกระทรวง 500 กว่าล้านบาท เริ่มสร้างตึกผู้ป่วยนอกก่อน และจะเจรจากับสำนักงบประมาณเพื่อขยายต่อไป
5.ตั้งคณะทำงานร่วมภาครัฐและเอกชนด้านสาธารณสุข เพื่อยกระดับสุขภาวะที่ดีของประชาชน 6.นโยบายโรงพยาบาล 3 ดีที่ยั่งยืน 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้ทำได้ร้อยละ 95 และ7.นโยบายลดความแออัดในโรงพยาบาล 8.นโยบายลดหวานมันเค็ม ลดอ้วนลดโรคทุกหมู่บ้าน ชุมชน 9.นโยบายลดอบายมุขโดยเฉพาะเหล้าและบุหรี่ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น เช่น ออกกฎหมายและมาตรการมาบังคับใช้ 10.นโยบายสาธารณสุขเพื่อการท่องเที่ยว มีพื้นที่ดำเนินการอย่างน้อยใน 10 จังหวัด 11.นโยบายส้วมสะอาด เพียงพอ และปลอดภัย โดยเฉพาะส้วมสาธารณะในปั๊มน้ำมันและร้านอาหาร
12.นโยบายศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติหรือเมดดิคอลฮับ 3 เรื่องที่จะเดินหน้าทันทีคือ 1.การส่งเสริมบริการด้านสุขภาพ สปาไทย นวดแผนไทย 2.การบริการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก 3.การส่งเสริมผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่เป็นรูปธรรม ส่วนเรื่องการรักษาพยาบาลนั้นจะมอบให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพทำประชาพิจารณ์ให้ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชนและประชาสังคมเข้ามาให้ความเห็น 13.นโยบายพึ่งตนเองด้านวัคซีน จะขยายการผลิตจากปัจจุบัน 2 ตัวเป็น 7 ตัวภายใน 10 ปี ทดแทนการนำเข้าได้ปีละ 3,000 ล้านบาท 14.โครงการตรวจสุขภาพผู้นำศาสนาฟรีร่วมกับมูลนิธิ 50 พรรษามหาวชิราลงกรณ์ ภายใต้อุปภัมภ์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ตั้งแต่ ก.พ.-เม.ย.54
15.การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกในสตรี โดยอบรม อสม. 5 แสนคนให้สอนประชาชนในการตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเองได้ ส่วนมะเร็งปากมดลูกตั้งเป้าตรวจให้ได้ 2.6 ล้านคนในปี 54 และใน 5 ปี 13 ล้านคน 16.การจัดทำแผนรองรับสังคมผู้สูงอายุ และมีโครงการ เช่น ใส่ฟันเทียมทั้งปากฟรี 30,000 ราย โครงการรากฟันเทียมเฉลิมพระเกียรติ 10,000 ราย 17.การเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุขสู่ประชาคมอาเซียน โดยตั้งคณะทำงานยกร่างแผนงานเพื่อก้าวไปสู่ปี 2558 ให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้
18.นโยบายสาธารณสุขเพื่อผู้พิการ เน้นผู้พิการเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคนตาบอด คนหูหนวก อัมพาต 13,000 รายทั่วประเทศ 19.พัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เน้นผลิตบุคลากร ปรับปรุงรูปแบบการให้บริการ พัฒนายาสมุนไพรไทยโดยปัจจุบันมียาสมุนไพรไทยที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ 19 รายการ กำลังจะประกาศอีก 23 รายการ และจะพัฒนายาไทยเพื่อใช้ในการรักษาโรคควบคู่กับยาแผนปัจจุบัน เช่น มะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
20.คุ้มครองผู้บริโภค เน้นการบังคับใช้กฎหมายเข้มข้น เช่น ปรับปรุงกฎระเบียบเรื่องฉลากโภชนาการให้ผู้บริโภคอ่านเข้าใจง่าย รณรงค์ให้ความรู้ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อโฆษณาชวนเชื่อ และ 21.โครงการ อสม.เข้มแข็ง เน้นบทบาทเชิงรุก และกำหนดสิทธิประโยชน์ต่างๆอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้อสม.เป็นกลไกสำคัญในการสร้างสุขภาวะที่ดีให้ประชาชน.