ตำนาน 2 ราชันยาเสพติด “หน่อคำ-จ้าวเหว่ย” กับรอยร้าวจากคนชื่อ “เฉลิม” !
ในรายงานสรุปผลการศึกษา กรณีฆาตกรรมลูกเรือสัญชาติจีน 13 ศพ ในลุ่มแม่น้ำโขง จ.เชียงราย ทั้งของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่มีนายการุณ โหสกุล เป็นประธาน และของ กมธ.การต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่มีนายสุนัย จุลพงศธร เป็นประธาน
แม้เรื่องหลักจะอยู่ที่การสืบหาสาเหตุการเสียชีวิตลูกเรือจีน จากเรือสัญชาติจีน 2 ลำ “ยูชิงปาฮ่าว” และ “หัวผิง” ที่เกิดขึ้นในน่านน้ำไทย เมื่อปลายปี 2554
แต่เนื่องจากบนเรือทั้ง 2 ลำ มีการพบยาบ้ารวม 9.2 แสนเม็ด ทำให้เรื่องดังกล่าวโยงไปถึงประเด็นการค้ายาเสพติด ในพื้นที่ “สามเหลี่ยมทองคำ” บริเวณลำน้ำโขงที่ไหลผ่านรอยต่อ 4 ประเทศ ได้แก่ จีน, พม่า, ลาว และไทย
เป็นเหตุให้ชื่อของ “2 ราชายาเสพติด” ถูกเขียนไว้ในเอกสารราชการไทยซึ่งจัดทำโดยตัวแทนปวงชนชาวไทยด้วย
คนแรก ชื่อว่า “หน่อคำ” ... ส่วนอีกคน มีชื่อว่า “จ้าวเหว่ย” !
ในรายงานของ กมธ.ต่างประเทศ หน้า 11 เขียนโดยอ้างข้อมูลจาก “สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.)” ว่า ในพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (แม่น้ำโขง) เป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติดและเคมีภัณฑ์ของกลุ่มว้าโดยใช้เรือสัญชาติจีนในการลำเลียง ทั้งนี้เนื่องจากประเทศพม่าใช้ทหารลาดตระเวนทางบกจึงทำให้การขนส่งค่อนข้างยากลำบาก
ปัจจุบันมีกลุ่มควบคุมการค้าการลำเลียงยาเสพติด 2 กลุ่มใหญ่ คือ
(1) กลุ่มหน่อคำ โดยมีนายหน่อคำเป็นหัวหน้ากลุ่ม ซึ่งเคยเป็นอดีตทหารสมัยขุนซ่าและอดีตหัวหน้ากองกำลังอาสาสมัครภายใต้กำกับกองทัพพม่า โดยมีการลักลอบขนยาเสพติดโดยตลอดและเจ้าหน้าที่ไทยจับกุมได้หลายครั้งพร้อมทั้งได้มีการออกหมายจับด้วย
ขณะนี้นายหน่อคำได้หลบหนีไปอยู่บริเวณเหนือบ้านโป่ง อ.เมืองพง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า และมีการเคลื่อนไหวอยู่บริเวณชายแดนประเทศพม่า-ลาว
กองกำลังของหน่อคำ เป็นกองกำลังขนาดย่อมพร้อมอาวุธเบา มีสมุนประมาณ 40-50 คน ปัจจุบันนายหน่อคำได้มีพฤติกรรมเป็นโจรสลัดแม่น้ำโขง คือปล้นยาเสพติดเพื่อนำมาขายในประเทศไทยและลาว เรียกค่าไถ่เรือสินค้า เรียกค่าคุ้มครองจากเรือสินค้าจีนและซื้อขายอาวุธสงคราม
(2) กลุ่มจ้าวเหว่ย โดยมีนายจ้าวเหว่ยเป็นหัวหน้ากลุ่ม นายจ้าวเหว่ยเป็นคนจีนเซี่ยงไฮ้ โดยปัจจุบันได้เปิดกิจการบ่อนคาสิโน “คิงโรมัน” ในเขตเมืองตันผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
กลุ่มจ้าวเหว่ยมีพฤติกรรมค้ายาเสพติดโดยอาศัยเรือสินค้าจีนบางกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือที่มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ YJ ปรากฏอยู่ ซึ่งจากเหตุการณ์เรือสัญชาติจีนที่โดนยิงมีตัวอักษรภาษาอังกฤษ YJ ปรากฏอยู่เช่นกัน
การจ้างเรือสินค้าจีนขนยาเสพติดของกลุ่มจ้าวเหว่ยนั้น จะจ้างขนสินค้าจากท่าเรือสบหลวย (เขตอิทธิพลของกลุ่มว้า) ประเทศพม่า โดยลำเลียงยาเสพติดขึ้นบริเวณเมืองตันผึ้ง แล้วนำไปเก็บไว้ในบ่อนคาสิโนคิงโรมัน หลังจากนั้นจึงลำเลียงสินค้าเกษตร/ผลไม้ไปยังท่าเรือเชียงแสน
“กลุ่มจ้าวเหว่ยเป็นกลุ่มที่ถูกกลุ่มหน่อคำเรียกค่าคุ้มครอง ซึ่งต่อมาภายหลังกลุ่มหน่อคำได้เรียกค่าคุ้มครองเพิ่มขึ้นเรื่อยมา ตั้งแต่ปี 2550 เป็นเหตุให้เมื่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปมอบนโยบายปราบยาเสพติดที่ จ.เชียงราย กลุ่มจ้าวเหว่ยจึงวางแผนยัดยาให้กับกลุ่มหน่อคำเป็นเหตุให้ลูกน้องนายหน่อคำโดยจับกุมไปหลายคน อีกทั้งนายจ้าวเหว่ยได้ตั้งค่าหัวนายหน่อคำ 50 ล้านบาท และได้ว่าจ้างคนพม่าและลาวระดมยิงกลุ่มหน่อคำเป็นเหตุให้กลุ่มหน่อคำมีความแค้นต่อกลุ่มจ้าวเหว่ยเป็นอย่างมาก”
ส่วนรายงานของ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ หน้า 9 เขียนไว้ว่า การลำเลียงสินค้าระหว่างไทย-จีน ด้วยการแล่นเรือตามร่องแม่น้ำโขง มีเกาะธรรมชาติอยู่เกาะหนึ่งที่สร้างปัญหาต่อการเดินเรือเป็นอย่างมาก คือ “เกาะดอนเรือง” เนื่องจากสภาพภูมิประเทศได้แบ่งลำน้ำโขงเป็น 2 ลำน้ำ ส่วนหนึ่งที่ตื้นเขินอยู่ในประเทศลาวใช้เดินเรือไม่ได้ เรือทุกลำจึงถูกบังคับให้เดินเรือในฝั่งพม่า ซึ่งยาวประมาณ 5 กิโลเมตร โดยบริเวณลำน้ำนี้เป็นจุดที่มีกองกำลังซุ่มอยู่ 3 กลุ่ม ได้แก่ ทหารพม่า, Border Guard Force (ฺBGF) และกลุ่มหน่อคำ
ขณะที่นายวิชัย ชัยมงคล ผู้อำนวยการสำนักงาน ปปส.ภาค 5 ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายหน่อคำมีหมายจับที่สถานีตำรวจภูธรแม่สาย คดียาเสพติด คดีที่ 2 มีหมายจับในกรณีที่ ป.ป.ส.ร่วมกับตำรวจภูธร จ.เชียงรายและตำรวจพม่าได้สืบสวนจับกุมยาบ้า 14 ล้านเม็ด เฮโรอีนอีก 1 พันกิโลกรัม และอาวุธปืนจำนวนมาก ตำรวจพม่าได้ออกหมายจับแต่ไม่สามารถจับกุมตัวได้ ปัจจุบันนายหน่อคำได้ขยายอิทธิพลจนถึงลุ่มแม่น้ำโขง นายหน่อคำเรียกเก็บค่าคุ้มครองเรือที่ผ่านมาบริเวณจุดที่กองกำลังของนายหน่อคำอาศัยอยู่บริเวณเกาะดอนเรือง ลำละประมาณ 5 พันบาท กับเรือทุกสัญชาติที่ผ่านมา
“ที่ผ่านมาการข่าวยืนยันหลายครั้งว่ามีการลำเลียงยาเสพติดมาทางเรือ แต่เราไม่สามารถจับกุมใครได้ เพราะก่อนที่มาเทียบท่าที่ท่าเรือเชียงแสน จ.เชียงราย ก็ไปเทียบท่าที่ประเทศลาวแล้วลำเลียงสินค้าออกหมดแล้ว” เจ้าหน้าที่ ปปส.รายนี้ระบุ
สำหรับวิธีการ "ปล้นกลางแม่น้ำ" ทำอย่างไร?
มีการบอกเล่าจากตัวแทนบริษัท แม่โขง เดลต้า ทราเวล เอเจนซี่ จำกัด ผู้ให้บริการเรือท่องเที่ยว ระหว่างเชียงแสน-สิบสองปันนา โดย น.ส.กฤติกา มงคล รองผู้จัดการบริษัทฯ ว่า กองกำลังติดอาวุธจะใช้เรือเร็ว 2 ลำวิ่งขนาน และขอให้นักท่องเที่ยวลงไปในเกาะกลางแม่น้ำโขง โดยอ้างว่าขอตรวจค้นยาเสพติด ซึ่งการตรวจค้นครั้งนั้น มีทรัพย์สินสูญหายไปหลายรายการ เช่น กล้องถ่ายรูป ทองรูปพรรณ เครื่องประดับต่างๆ ฯลฯ ซึ่งนับแต่เกิดเหตุการณ์ปล้นเรือท่องเที่ยวครั้งนั้น ทำให้ไม่มีการเดินทางท่องเที่ยวในเส้นทางนั้นอีกเลย
อย่างไรก็ตาม ช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ทางการลาวจับ “นายหน่อคำ” ได้สำเร็จ ก่อนส่งตัวให้ทางการจีนไปดำเนินคดี ปิดตำนาน “โจรสลัดน้ำจืด” แห่งลุ่มน้ำโขง
ซึ่งรัฐบาลไทยรวมถึง "รองนายกฯเหลิม" อาจนำไปอ้างได้ว่าการจับกุมดังกล่าวตัวเองก็มีส่วน เพราะเกิดขึ้นหลังราชการไทยตั้งรางวัลนำจับ 25 นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยนายหน่อคำถูกตั้งค่าหัวไว้สูงสุดที่ 2 ล้านบาท !!!