เปิดสายด่วน 1669 รับ 7 วันอันตราย ดึงหน่วยเคลื่อนที่เร็วตำบลร่วมกู้ภัย
“จุรินทร์” เปิดสายด่วน 1669 รองรับอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ ระดมทีมกู้ภัยฉุกเฉินทั้งส่วนกลาง-อปท.เตรียมพร้อม สพฉ.ดึงหน่วยเคลื่อนที่เร็วตำบลทั่วประเทศทำงานร่วมมหาดไทย มสช.แนะท้องถิ่นร่วมป้องกันอุบัติภัยเชิงรุก เน้นเตือนผู้สัญจรบนจุดเสี่ยง รณรงค์เมาไม่ขับในชุมชน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เปิดเผยว่าระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.53-4 ม.ค.54 ถือเป็นช่วง 7 วันอันตรายในช่วงเทศกาลปีใหม่ กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน 1669 ไว้บริการรับแจ้งอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะประสานรถพยาบาล ทีมกู้ชีพทั้งในส่วนกลางและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ออกปฏิบัติการยังเป้าหมายภายใน 10 นาที พร้อมสั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศเตรียมพร้อมแพทย์ พยาบาล สำรองเลือด ยาเวชภัณฑ์ ห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัดพร้อม 100 %
นพ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ(สพฉ.) กล่าวว่า ในส่วนขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ขณะนี้มีหน่วยกู้ภัยที่ขึ้นทะเบียนรวมแล้วประมาณ 60% ของจำนวนตำบลทั้งหมด มีหน่วยเคลื่อนที่เร็ว 60 หน่วย ซึ่งจะทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทย เช่น ไปจอดรถเตรียมพร้อมในจุดที่องค์การบริหารส่วนตำบลตั้งด่านตรวจไว้ เมื่อเกิดเหตุก็สามารถไปยังพื้นที่เป้าหมายได้ทันท่วงที
นพ.ชาตรี กล่าวว่า เลขหมาย 1669 สายด่วนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินถูกวางระบบไว้ในแต่ละจังหวัด เมื่อประชาชนในพื้นที่ใดแจ้งเหตุ โรงพยาบาลประจำจังหวัดก็จะรับเรื่องและประสานไปยังหน่วยเคลื่อนที่เร็วตามจุดต่างๆ ซึ่งศูนย์รับแจ้งเหตุจะมีแผนที่จังหวัดและจุดประจำการของหน่วยเคลื่อนที่เร็ว จึงสามารถสั่งการให้เข้าช่วยเหลือได้ภายใน 10 นาที
นอกจากนี้หน่วยเคลื่อนที่เร็วและชุดปฏิบัติการทั่วประเทศมีกว่า 9,000 ชุด โดยแต่ละหน่วยจะมีเจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร พยาบาล พร้อมรถและเครื่องมือปฐมพยาบาลเบื้องต้น อาทิ เปล น้ำเกลือ เวชภัณฑ์ยา อุปกรณ์ล็อกคอ ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ฉุกเฉินมีทั้งสิ้น 109,943 คน
ทั้งนี้ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ(มสช.) ได้เสนอแนวทางให้ท้องถิ่นดำเนินการเชิงรุกโดยดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่โดย 1.สำรวจและแก้ไขจุดเสี่ยงในพื้นที่ก่อนเทศกาล โดยเฉพาะจุดเสี่ยงที่สามารถแก้ไขได้เอง เช่น การตัดกิ่งไม้และติดตั้งสัญญาณไฟส่องสว่างเพื่อเพิ่มระยะการมองเห็นจุดทางแยกต่างๆ 2.การป้องกันมิให้มีจุดลักผ่านกับถนนสายหลัก 3.หามาตรการที่จะทำให้รถที่ต้องผ่านชุมชนลดความเร็ว เช่น การติดตั้งป้ายรถความเร็ว 4.ในจุดเสี่ยงหรือเคยเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง อาจพิจารณาตั้งเต็นท์เพื่อเป็นจุดสกัดและเตือนผู้สัญจรไปมา เช่น จุดที่เป็นเส้นทางลงเนิน – ขึ้นเขา จุดทางโค้งหักศอก
5.มีมาตรการทางสังคมเพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ห้ามร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี 6.ชุมชนรณรงค์ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างขับขี่ 7.สำรวจและยึดรถจักรยานยนต์ที่ชำรุดไม่ให้วิ่งบนถนน และกำกับให้ทุกคนใช้หมวกกันน็อค.