พัฒนาพลังงาน คู่ขนาน การพัฒนาชุมชน
หากจะมองภาพใหญ่ของประโยชน์ที่ประชาชนและประเทศชาติได้รับจากโครงการสำรวจและ ผลิตปิโตรเลียมในประเทศ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน คงจะเป็นเรื่องของการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานจากการพัฒนาแหล่งทรัพยากรในเพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมให้สามารถแข่งขันกับนานาชาติได้ รวมถึงการสร้างเม็ดเงินจำนวนมาก เพื่อนำไปใช้ เป็นงบประมาณแผ่นดินในพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศ สร้างความสะดวกสบายให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน
แต่รู้หรือไม่ ว่าในอีกมุมหนึ่งกลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ได้รับสิทธิในการดำเนินงาน ยังมี ส่วนร่วมกับชุมชนในการพัฒนาท้องถิ่น ยกระดับคุณภาพชีวิตคนในชุมชน ให้เป็นชุมชนที่เข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ และเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันให้ชุมชนในท้องถิ่นสามารถก้าวข้ามความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ ซึ่งไม่เฉพาะ แต่ชุมชนในพื้นที่ที่ดำเนินโครงการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชุมชนอื่นๆ ทั่วประเทศอีกด้วย
ในมิติของการพัฒนานั้น กลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมให้ความสำคัญในเรื่องของการพัฒนาทรัพยากรบุคคล การพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการสร้างจิตสำนึกรักษ์ในศาสนา ประเพณี และศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น เพราะมองว่าทั้งหมดคือรากฐานของการพัฒนาท้องถิ่นให้เกิดความยั่งยืนจะขาดด้านใดด้านหนึ่งไม่ได้
เพราะต้องการจะให้ตอบโจทย์การพัฒนาทุกด้านอย่างยั่งยืน จึงมองว่ารากฐานแรกที่จะต้องพัฒนาให้มีศักยภาพและเข้มแข็งคือทรัพยากรบุคคล ซึ่งกิจกรรมและโครงการที่ขับเคลื่อนจึงครบองค์รวมทั้งด้านการศึกษา อาชีพ และคุณภาพชีวิต
ด้านการศึกษาจึงบูรณาการอย่างผสมผสานทั้งองค์ความรู้ในรั้วสถานศึกษาทั้งการให้ทุนการศึกษา ตลอดจนส่งเสริมความรู้รอบตัวผ่านประสบการณ์จริงจากกิจกรรมทัศนศึกษาและศูนย์การเรียนรู้นอกตำรา เพื่อพัฒนาศักยภาพทางการศึกษาอย่างรอบด้าน
การประกอบอาชีพ มีเป้าหมายสำคัญ คือ พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้ชุมชนมีรายได้และสามารถพึ่งพาตนเองได้ ด้วยการสนับสนุนการสร้างศักยภาพอาชีพเก่าและส่งเสริมอาชีพใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการ สนับสนุนองค์ความรู้และเทคโนโลยีต่างๆ เพราะอาชีพและรายได้ที่มั่นคง จะทำให้คนในชุมชนจะไม่ทิ้งถิ่นฐานไปทำงานต่างถิ่น ช่วยยกระดับให้เป็นชุมชนที่เข้มแข็งอย่างยั่งยืนนอกเหนือจากการศึกษาที่ดี อาชีพที่มั่นคงแล้ว
ด้านสุดท้ายของการพัฒนาทรัพยาการบุคคล คือคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งหมายถึงความสมดุลของสุขภาพกาย สุขภาพใจ และความสัมพันธ์ที่ดีของคนในชุมชน ทั้งในระดับครัวเรือนและระดับชุมชน ก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันซึ่งกิจกรรมและโครงการที่ขับเคลื่อนจะผสมผสานทั้งการสาธารณสุข จิตวิทยา และกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อลดช่องว่างและก่อให้เกิดความสามัคคีของคนในชุมชน ตอบโจทย์คำว่าคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างลงตัว
อีกมิติหนึ่งของการพัฒนาที่กลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมให้ความสำคัญและร่วมขับเคลื่อนกับชุมชนก็คือการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะมองว่าเป็นการพัฒนาบ้านและแหล่งอาชีพของคนในชุมชน การส่งเสริมให้คนในชุมชนเกิดความหวงแหนและมีจิตสำนึกรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งทรัพยากรน้ำ สัตว์น้ำ ป่าไม้ จะช่วยรักษาไว้ซึ่งสมดุลของระบบนิเวศให้มีความอุดมสมบูรณ์ ก่อให้เกิดเป็นชุมชน สีเขียว สร้างแหล่งอาหาร และสร้างอาชีพให้คนในชุมชน การพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น ไม่เพียงสร้างประโยชน์ต่อวิถีชีวิตของคนในชุมชนเท่านั้น แต่ยังต่อยอดไปถึงการช่วยลดสภาวะโลกร้อนด้วยเช่นกัน
นอกจากการพัฒนาที่กล่าวมาแล้ว อีกหนึ่งการมีส่วนร่วมที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การให้ความสำคัญกับ ศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชน ด้วยการเข้าไปมีส่วนร่วมในการสืบสานและรักษาไว้ซึ่งศาสนา ประเพณี และศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น ทั้งการร่วมสนับสนุนกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญทางศาสนา ร่วมสืบสานประเพณี และวัฒนธรรมท้องถิ่น หรือร่วมทำนุบำรุงศาสนสถานต่าง ๆ ร่วมกับชุมชน เพื่อหลอมรวมให้คนในชุมชนเกิดความสามัคคีและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
หากโฟกัสแค่มิติของโครงสร้างและการดำเนินงานแล้ว คำว่า “อุตสาหกรรม” อาจจะเป็นคำที่น่ากลัวสำหรับชุมชน แต่หากมองภาพความเป็นจริงในอีกมุมหนึ่งบ้าง จะเห็นว่าการดำเนินงานของภาคอุตสาหกรรมก็อยู่ภายใต้ร่มกฎหมายและกติกาต่างๆ ในการอยู่ร่วมกับชุมชน พร้อมกันนี้ ยังเข้าไปมีส่วนร่วมจับมือชุมชนให้เกิดการพัฒนาไปด้วยกัน อย่างเช่น โครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่อยู่คู่กับชุมชนอย่างเป็นมิตรและมีส่วนร่วมในการเติมเต็มคุณภาพชีวิตที่ดีของคนในชุมชนคู่ขนานกับการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศที่มีให้เห็นมาโดยตลอดเช่นกัน