ประสานประเทศเพื่อนบ้านร่วมล่าแก๊งบึ้มกรุง
"บิ๊กป้อม" ยอมรับแก๊งบึ้มกรุงดอดวางแผนประะเทศเพื่อนบ้าน เตรียมประสานให้ช่วยจับกุม ขณะที่ตำรวจออกหมายจับเพิ่มอีก 4 โยงระเบิดเพลิง-บึ้มหน้ากองทัพไทย
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดหน้าสถานที่ราชการสำคัญและย่านการค้าในกรุงเทพฯและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 1-2 ส.ค.62 ว่า มีการออกหมายจับเพิ่มอีกหลาย เป็นระดับปฏิบัติการ ส่วนการนำตัวผู้ต้องหา 2 คนจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นมาสอบปากคำที่กรุงเทพฯนั้น ก็เป็นการสอบสวนเพิ่มเติม โดยยอมรับว่ามีคนร้ายบางส่วนหลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นมีการประชุมสั่งการในประเทศเพื่อนบ้านใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า "ใช่" เมื่อซักว่าต้องมีการประสานกับทางการมาเลเซียหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบว่า "ยังไม่รู้ ตำรวจกำลังดำเนินการอยู่" พร้อมทั้งย้อนผู้สื่อข่าวว่า "ไล่ถามแบบนี้ตายเลย" (อ่านประกอบ : แฉทีมบึ้มกรุงเกิน 15 คน บางส่วนเผ่นนอก ผู้บงการอาจโยงการเมือง)
ในประเด็นการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมนั้น พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่ม 4 ราย ในข้อหาเป็นอั้งยี่, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์, กระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น, ทำ ใช้ มีไวในครอบครองซึ่งวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ และพกพาอาวุธ (ระเบิด) ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และทำให้เสียทรัพย์ ข้อหาเหล่านี้มีอัตราโทษสูง และมีอายุความ 20 ปี
สำหรับรายชื่อผู้ต้อบหาที่ถูกออกหมายจับเพิ่มเติม ประกอบด้วย นายอัสมี อาบูวะ นายอุสมาน เปาะลอ นายอัมรี มะมิง ทั้ง 3 คนเป็นที่ปฏิบัติการลอบวางระเบิดเพลิงย่านประตูน้ำ และ นายฮาเเซ แบเล๊าะ ผู้ต้องหาที่ลอบวางระเบิดหน้ากองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ
ส่วน นายลูไอ แซแง กับ นายวิลดัน มาหะ สองผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับล็อตแรก มีกำหนดนำตัวไปยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ในวันพฤหัสบดีที่ 15 ส.ค.62 โดยนายวิลดันถูกคุมตัวอยู่ที่ สน.บางรัก ขณะที่นายลูไอถูกคุมตัวอยู่ที่ สน.ปทุมวัน มีการนำพยานหลายคนเข้าชี้ตัวผู้ต้องหาทั้งสองด้วย แต่จากการสอบปากคำ ทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุระเบิด